ไม่ใช่งานง่ายเลย ที่ทัพนักตบลูกยางสาวไทย สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ วอลเลย์บอลหญิงระดับทวีป เป็นครั้งแรก ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคว่ำทีมชาติจีนที่มีดีกรีเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2008 3-1 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ จนคว้าแชมป์เอเชียมาครองได้สำเร็จ
หากมองไปที่ความสำเร็จของทีมชุดนี้ แน่นอนย่อมไม่ใช่มาจากการเตรียมความพร้อมเพียงชั่วข้ามคืน แต่นี่คือผลงานที่ถูกหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปและได้เก็บเกี่ยวผลแห่งความสำเร็จเมื่อสมาคมมีอายุครบ 50 ปีองค์ประกอบสำคัญของนักกีฬาวอลเลย์บอลชุดนี้คือความสามารถเฉพาะตัวที่ผู้เล่นต่างได้รับประสบการณ์จาก ลีกลูกยางระดับอาชีพในยุโรป ก่อนจะถูกเรียกตัวมารวมทีมกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะลงสนามชิงแชมป์เอเชียและคว้าแชมป์ครั้งแรกมาฝากคนไทย ได้สำเร็จ
ต้องยอมรับว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยชุดนี้แกร่งทั้ง 12 ตัวผู้เล่นจากประสบการณ์ที่เล่นลีกอาชีพต่างแดนถึง 11 จาก 12 ราย โดยมี 3 รายเล่นในลีกชั้นนำของยุโรปที่ประเทศตุรกีประกอบไปด้วย ปลื้มจิตร์ ถินขาว วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ และ อรอุมา สิทธิรักษ์ โดยวิลาวัณย์ กล่าวถึงความต้องการนักวอลเลย์บอลหญิงไทยในสนามอาชีพต่างประเทศว่า
“หลังจากที่คว้าแชมป์เอเชียกลับมา ยอมรับว่ามีหลายทีมดังๆ ติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะขอเซ็นสัญญากับเพื่อนๆในทีมอีกหลายๆคน จากประเทศชั้นนำ อาทิ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย และ สเปน ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างเจรจาค่าเหนื่อย” หากแต่เธอยังเผยถึงความรู้สึกลึกๆของผู้เล่นทุกคนว่าการไปเล่นในต่างแดนย่อมไม่สบายใจเท่ากับเล่นอยู่ในแผ่นดินเกิดของตัวเอง
“ใจจริงแล้ว พวกเราทุกคนต่างหวังที่จะเล่น ลีก อาชีพ ที่เมืองไทย มากกว่า เพราะถึงแม้ว่าการเล่นที่ต่างแดนจะได้รับค่าเหนื่อยต่อเดือนถึง 35,000 ยูโร (ประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท) แต่ไม่ได้ทำให้เราถึงกับกินดีอยู่ดีนัก โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ที่นั่นมักจะทานเนื้อแพะ ซึ่งมีกลิ่นค่อนข้างฉุนสำหรับคนไทยอย่างเรา และถ้าเมืองไทยมีลีกอาชีพจะทำให้ผู้เล่นได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงจะทำให้ผู้เล่นเยาวชนในทีมได้มีแมตช์ การแข่งขัน เพื่อบ่มเพาะประสบการณ์”
นอกจากผู้เล่นที่มากประสบการณ์แล้วโค้ช และ ทีมงานคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมลูกยางสาวไทยประสบความสำเร็จ โดย เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตผู้เล่นทีมชาติชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่ปัจจุบันแสดงฝีมือการคุมทีมประจักษ์ให้คนในวงการเห็นแล้วว่าโค้ชไทยไม่ได้แพ้โค้ชต่างชาติ กล่าวถึงการวางแผน และ พัฒนาทีมว่า “เรามีการวางแผนเตรียมทีมกันมาอย่างยาวนาน เก็บสถิติข้อมูล รวมไปถึงการแก้เกมเฉพาะหน้า เป้าหมายของพวกเราต่อจากนี้พาทีมไปโอลิมปิก ที่ลอนดอน ในอีก 2 ปีข้างหน้าให้ได้ ซึ่งการแข่งขันรอบคัดเลือกจะในปีหน้า โดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องอยู่ที่ 1 ใน 3 ในการแข่งเวิลด์ กรังปรีซ์ หรือ มีอันดับโลกอยู่ในเกณฑ์”
ถึงเวลานี้นับว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยมีองค์ประกอบสองส่วนที่แข็งแกร่งและมีโอกาสพัฒนาได้อีกไกลในอนาคต ขณะที่ส่วนสำคัญอีกหนึ่งส่วนคือสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยนำโดยนาย นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายกสมาคมฯ ได้กล่าวถึงแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่องของสมาคมฯว่า
“เราทำงานกันเป็นทีม และ ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหลายฝ่าย อาทิ การมีเครือข่ายจากท้องถิ่น ที่สามารถทำให้โรงเรียนกีฬาส่งนักวอลเลย์บอลฝีมือดีๆเข้ามาเก็บตัวกับทีมชาติตั้งแต่ระดับเยาวชน อบรมโค้ชที่ได้มาตรฐานระดับสากล ส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษางานที่ญี่ปุ่นเพื่อวางแผนตั้งลีกอาชีพ และท้ายที่สุดคือความสนับสนุนทางการเงินที่สมาคมฯได้รับเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชน”
ความสำเร็จจากสนามแข่งระดับเอเชียถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแรก และจุดเริ่มต้นสำคัญของนักตบลูกยางสาวไทยชุดนี้เพื่อก้าวเข้าสู่สนามใหญ่ระดับโอลิมปิกหากพวกเธอทำได้สำเร็จจริง โอลิมปิก 2012 จะเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติไทยจะได้ส่งทีมวอลเลย์บอลเข้าร่วมการแข่งขัน
