บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมหัวตารางศึกไทยพรีเมียร์ลีก มั่นใจไม่แพ้กลับออกมาจากรัง เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ในบิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์นี้ ส่วน สมุทรสงคราม เอฟซี กับ ศรีราชา เอฟซี จะห้ำหั่นกันเพื่อความอยู่รอดในลีกสูงสุด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยมีงาน Meet the Press ครั้งที่ 7 แถลงความพร้อมก่อนเกมไทยลีก ประจำวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 5-6 กันยายนนี้ โดยเชิญตัวแทนจากสโมสรที่อยู่ในคู่น่าสนใจมาร่วมงาน 3 คู่ รวมทั้งสิ้น 6 ทีม
เริ่มจากคู่วันเสาร์ซึ่งเป็นการหนีตกชั้นระหว่าง สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 11 กับ ศรีราชา เอฟซี รองบ๊วยของตาราง ซึ่งในเลกแรกปลาทูคะนองบุกไปเฉือนชัย 2-1 แต่การกลับมาเล่นในบ้านคราวนี้จะขาด จิรวัฒน์ แก้วโบราณ หัวหอกตัวเก่งที่ติดโทษแบนอีกนัด ทว่า สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือสมุทรสงครามที่พา ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร กัปตันทีมมาด้วยเผยความพร้อมว่า “การขาดตัวหลักอย่าง จิรวัฒน์ อาจมีผลแต่เราสามารถปรับแผนได้ ซึ่งนัดที่แล้วเราก็เล่นได้ดีโดยไม่มีเขา ส่วนสถานการณ์ตอนนี้เรายังดิ้นรนหนัก ผมก็พยายามปลุกเร้าให้นักเตะเล่นแบบลืมตายทุกนัดเพื่ออยู่รอดในลีกต่อไป การเจอทีมระดับเดียวกันอย่าง ศรีราชา จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ขณะที่ประธานสโมสร สมศักดิ์ ศิริธรรม ได้ประกาศอัดฉีดมาแล้ว 100,000 บาทหากชนะนัดนี้”
ส่วน อภิรักษ์ ศรีอรุณ ที่ปรึกษาทีมมัจฉาสีน้ำเงินให้สัมภาษณ์ว่า “ช่วงนี้เราสู้กับทีมใหญ่ๆ ได้สูสี แต่ปัญหาคือไม่สามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้ ซึ่งทีมงานกำลังเร่งปรับปรุงข้อบกพร่องต่างๆ อยู่ นับจากนี้เราจะมุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวซึ่งนักเตะยังมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยมและมีความหวังที่จะอยู่รอดได้ ส่วนผมเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ได้ 2 นัดก็พอมองออกว่าควรเพิ่มประสิทธิภาพตรงไหนบ้าง เรื่องเกมรับค่อนข้างลงตัวแล้ว คิดว่าการยึดนักเตะพลังหนุ่มน่าจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้ รวมทั้งการเอาชนะ สมุทรสงคราม”
คู่ถัดมาในวันเสาร์เช่นกัน ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ การท่าเรือไทย เอฟซี อันดับ 6 ที่ชนะใน 2 นัดหลังสุด โดยเลกแรกทั้งคู่เสมอ 0-0 เกมนี้เจ้าถิ่นจะขาด สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมหัวใจหลักที่ติดโทษแบน แต่ ธนเดช ฟูประเสริฐ นายใหญ่ฮัลโหลที่หนีบ กฤษฎา สาแก้ว มาด้วยเอ่ยโดยไม่หวั่นว่า “เรามีผู้เล่นที่ทดแทน สุเชาว์ ได้จึงไม่มีผลกระทบต่อทีม นอกจากนั้นเราได้เสริมจุดแข็งลบจุดอ่อนและยังรู้สไตล์การเล่นของ การท่าเรือ เป็นอย่างดี ทุกนัดที่ลงสนามเราเน้นเก็บคะแนนเสมอเพื่อทำอันดับให้ดีขึ้น เพราะเราหวังลึกๆ ว่าจะเบียด การท่าเรือ กับ บีอีซี เทโรศาสน ขึ้นไปติด 1 ใน 5 ให้ได้”
ส่วน “สิงห์เจ้าท่า” ต้องปรับแนวรับเนื่องจาก มูดูรู สวา มอยเซ ปราการหลังตัวสำคัญ และ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ แบ็กขวาจอมบุกถูกพักแข้ง ซึ่ง เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้อำนวยการสโมสรที่มาพร้อมกับ จีรวัฒน์ มรรครมย์ มิดฟิลด์จอมเตะลูกนิ่งแถลงว่า “ช่วง 8 นัดสุดท้ายอย่างนี้ทุกทีมรวมถึงเราใส่กันเต็มสูบแน่ แม้เราจะขาด 2 ตัวหลักในแนวรับแต่เชื่อว่าตัวสำรองที่มีจะอุดช่องโหว่ได้ เพราะเราไม่พึ่งพาคนใดคนหนึ่งมากเกินไป การไปเยือน ทีโอที เราหวังไว้ว่าจะไม่แพ้กลับออกมา ส่วนเรื่องอัดฉีดสโมสรมีให้นัดละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทอยู่แล้ว ซึ่งเราตั้งงบอัดฉีดไว้รวมทั้งสิ้น 3-4 ล้านบาท”
ข้ามมาวันอาทิตย์เป็นคู่บิ๊กแมตช์ที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ซึ่ง เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงจะเฝ้ารังธันเดอร์โดม เมืองทองธานี รับมือ บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับ 3 ของตารางที่เคยเอาชนะมาแล้วด้วยสกอร์ 1-0 ถึง 2 ครั้งทั้งในเลกแรกและศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 สำหรับนัดนี้เจ้าถิ่นจะปราศจาก ซูมาโฮโร ยายา ปีกไอวอรีโคสต์ตัวจี๊ดที่ติดโทษแบน ขณะที่ทีมเยือนไม่มีใครโดนกักแข้ง แต่มีผู้เล่นบางส่วนที่อ่อนล้าจากการไปเตะ สิงคโปร์ คัพ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทว่าโดยรวมถือว่าสมบูรณ์
ด้าน อรรถพล บุษปาคม กุนซือกิเลนผยองกล่าวถึงสภาพความพร้อมและเป้าหมายในนัดสำคัญนี้ว่า “การขาด ยายา อาจทำให้ประสิทธิภาพในเกมริมเส้นลดลงไปบ้าง แต่ตัวที่มีอยู่สามารถทดแทนได้โดยไม่มีปัญหาสำหรับการเผชิญหน้ากับ บางกอกกล๊าส แม้ 2 นัดที่เจอกันก่อนหน้านี้จะสู้ไม่ได้แต่เราจะปรับแผนใหม่มารับมือ ทั้งนี้เราต้องมีแต้มติดมือในแต่ละนัดเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ให้ได้ ส่วนเรื่องบรรยากาศคิดว่าแฟนบอลทั้งสองทีมจะมาเชียร์กันเยอะแน่ แต่มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเพราะเชื่อมั่นว่าเป็นกองเชียร์ที่มีวินัย”
ส่วน “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกทีมชาติไทยของเมืองทองฯที่มาด้วยกันกับ “โค้ชแต๊ก” กล่าวว่า “ถึงจะยังยิงไม่ได้อีกเลยนับตั้งแต่นัดเปิดตัว (ชนะ ทีโอที 3-0) แต่ก็ไม่ซีเรียสเพราะเน้นเล่นเพื่อให้ทีมชนะมากกว่า ตอนนี้ที่ยังเล่นได้ไม่ถึงฟอร์มที่ดีที่สุดส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเพิ่งกลับมาจากเบลเยียมได้ไม่ถึง 1 เดือนและที่นั่นก็ไม่ได้ลงอย่างต่อเนื่องจึงยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง แต่มั่นใจว่าจะกลับมาท็อปฟอร์มในไม่ช้า ส่วนการไม่มี ยายา ที่เล่นเข้าขากับผมพอสมควรในเกมนี้อาจมีกระทบบ้างแต่คงไม่มาก เพราะคนอื่นก็มีความสามารถไม่เป็นรองเช่นกัน”
สำหรับ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เฮดโค้ชกระต่ายแก้ว “นับเป็นแมตช์สำคัญอีกนัดหนึ่ง แต่การเอาชนะได้ใน 2 นัดที่พบกันมาทำให้ลูกทีมมีความมั่นใจมากกับการเล่นในวันอาทิตย์นี้ ส่วนเรื่องผลกระทบจากการไปเล่น สิงคโปร์ คัพ คงมีไม่มาก เนื่องจากเราเน้นทดลองผู้เล่นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่และเก็บข้อมูลไว้ใช้ในฤดูกาลหน้า สำหรับเมืองทองฯ แม้จะขาด ยายา แต่ถึงจะส่งใครลงมาก็ไม่ต่างกันเพราะนักเตะของพวกเขาล้วนมีคุณภาพทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม เรามีคะแนนติดมือแน่แม้อาจจะไม่ถึงขั้นย้ำแค้นได้ก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในเกมด้วย ส่วนเรื่องแรงกดดันจากกองเชียร์และความปลอดภัยผมไม่ค่อยห่วง เพราะพวกเขาเชียร์กันอย่างมีระบบซึ่งฝั่งเราก็เช่นกัน คิดว่าแฟนบอลทั้งสองทีมจะสร้างสีสันได้ไม่น้อย ส่วนเรื่องอัดฉีดนั้นผู้บริหารประกาศว่าถ้าชนะจะให้ 500,000 บาท”
ขณะที่ อนาวิน จูจีน มิดฟิลด์หน้าตี๋ของ เดอะ กลาส แร็บบิท เตือนทีมกิเลนผยองว่า “จากการชนะพวกเขามาใน 2 นัดแรกทำให้ผู้เล่นของเรามีความมั่นใจมาก แต่ถึงกระนั้นเราจะไม่ประมาทและเล่นอย่างเต็มที่ ส่วนจะแพ้หรือชนะนั้นคงต้องตัดสินกันในสนาม ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นเกมที่สนุกแน่นอน”
โปรแกรมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 สัปดาห์ที่ 23
วันเสาร์ที่ 5 กันยายน
16.00 น. สมุทรสงคราม เอฟซี พบ ศรีราชา เอฟซี ณ สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสงคราม
17.00 น. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พบ นครปฐม เอฟซี ณ สนามกีฬากลาง จ.อยุธยา (ถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี NBT19)
17.00 น. ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร พบ โอสถสภา เอ็ม-150 ณ สนามสถาบันพลศึกษาสมุทรสาคร
17.00 น. ทีโอที เอฟซี พบ การท่าเรือไทย เอฟซี ณ สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน
16.00 น. บีอีซี เทโรศาสน พบ พัทยา ยูไนเต็ด ณ สนามบีอีซี เทโรศาสน หนองจอก
16.00 น. แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี ณ สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ สทท.11)
17.00 น. เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี ณ สนามธันเดอร์โดม (ถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี NBT19)
17.00 น. ราชนาวี-ระยอง พบ จุฬา ยูไนเต็ด ณ สนามกีฬากลาง จ.ระยอง