“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มเก่งเปิดแอนฟิลด์ไล่จิกเอาชนะ “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี 4-0 จากการเรียงหน้ายิงของ เฟร์นานโด ตอร์เรส, เกล็น จอห์นสัน, เดิร์ก เคาท์ และ ดาวิด เอนก็อก ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันพุธ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 4-0 สโตค ซิตี
ราฟาเอล เบนิเตซ มีปัญหาในการจัดทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพียงแค่แผงรับ เมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล กรามร้าวต้องพักทำให้ ดาเนียล อยาลา ดาวรุ่งชาวสเปนได้โอกาส แดนกลางปรับใช้ ยอสซี เบนายูน ลงมาช่วย สตีเวน เจอร์ราร์ด ปั้นเกมให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลุ้นประตู ด้าน โทนี พูลิส อัดแผงกลาง “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี ไว้ 5 ราย ห้อยทาง เจมส์ บีทตี ไว้ข้างหน้าเพียงคนเดียว
เริ่มเกมการแข่งขันเป็นลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าลุยใส่ทันที ผ่านไปเพียง 5 นาทีก็เบิกประตูแรกได้สำเร็จ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดไม่เหลือส่ง “หงส์แดง” บินนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว พอเสียประตูไป สโตค มามีโอกาสได้ลุ้นนบ้างจากฟรีคิก แต่ เจมส์ บีทตี ขึ้นโขกไม่ถึงโดน โฆเซ เรนา ออกมาชกบอลทิ้งได้ทันในนาทีที่ 18
สองนาทีถัดมาจากจังหวะสวนกลับ ตอร์เรส ควบบอลขึ้นมาทางขวาจะเปิดเข้ากลางให้ เดิร์ก เคาท์ สอดหัวโหม่งไม่โดน เอมิลิอาโน อินซัว เติมมาแปได้ทันที่เสาสองแต่บอลเฉี่ยวเสาไปแบบได้ลุ้น ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป “ช่างปั้นหม้อ” เริ่มใช้สูตรบอมบ์ใส่แผงรับเจ้าบ้าน รอรี ดีแลป ทุ่มบอลไกลไปในกรอบโทษให้ บีทตี โหม่งแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว เรนา นาทีที่ 25 ฮาเวียร์ มาสเชราโน โชว์การเปิดบอลจากแดนกลางที่แม่นยำให้ อินซัว สอดขึ้นมายิงมุมแคบแต่ โธมัส โซเรนเซน ดักทางไว้อยู่แล้ว
เกมของลิเวอร์พูลเริ่มจะตื้อไป ช่วงปลายครึ่งแรก ตอร์เรส ได้ขวิดบอลไปตรงตัว โซเรนเซน และจังหวะนี้ทำให้ดาวยิงทีมชาติสเปนต้องเสียเลือดจากการที่ศีรษะไปโขกกับ ไรอัน ชอว์ครอสส์ จนแตกแต่คัดเลือดทำแผลลงมาเล่นต่อได้ ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เคาท์ โหม่งบอลไปติดเซฟ โซเรนเซน มาเข้าทาง เกล็น จอห์นสัน กระโดดฟาดจ่อๆ ไม่เหลือ “หงส์แดง” นำ 2-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลงมาเล่นครึ่งหลัง สโตค กล้าได้กล้าเสียมากขึ้นโถมขึ้นลุยใส่ทันที ดีแลป ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อในกรอบโทษแต่ เรนา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกมา ทีมเยือนโถมใส่เป็นระยะ เกล็น วีแลน เปิดบอลแบบได้เสียเข้ากรอบหกหลาจะให้ ริชาร์ด เครสเวลล์ เข้าชาร์จแต่ จอห์นสัน เคลียร์พ้นอันตรายไปได้ก่อน นาทีที่ 54 เจอร์ราร์ด ได้ยิงเต็มข้อจากนอกกรอบ โซเรนเซน ปัดบอลไม่พ้นแต่ เคาท์ ก็ซ้ำวืดอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป “หงส์แดง” กลับมาติดเครื่องบุกอีกครั้ง จอห์นสัน ลากหนี แดนนี ฮิกกินบอทแธม เข้ามาหักยิงด้วยซ้ายร้อนถึง โซเรนเซน ต้องปัดปลายมือทิ้งไป ทีมเยือนปรับหมากบ้างใส่ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ และ เลียม ลอว์เรนซ์ ลงมาเล่นแทน บีทตี กับ เครสเวลล์ แต่ห้านาทีถัดมาทีมเกือบโดนส่องประตูที่สาม ชอว์ครอสส์ โหม่งบอลผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเองแต่ โซเรนเซน บินปัดพ้นคานทัน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 78 “เดอะ ค็อป” ได้เฮลั่นกับประตูนำห่าง 3-0 เจอร์ราร์ด ลากไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เคาท์ สอดเข้ามาชาร์จบอลซุกก้นตาข่าย ท้ายเกม ราฟาเอล เบนิเตซ จัดการถอดสามกำลังสำคัญในแนวรุกทั้ง “สตีวี จี”, ตอร์เรส และ เคาท์ ออกมาพัก ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ประตูย้ำชัยเหนือ สโตค เป็น 4-0 จากผลงานการโหม่งของตัวสำรองอย่าง ดาวิด เอ็นก็อก ทำให้ทั้งสองทีมลงสนาม 2 นัด มีอยู่ทีมละ 3 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล อยาลา, เอมิลิอาโน อินซัว, เดิร์ค เคาท์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส
สโตค : โธมัส โซเรนเซน, แอนดี วิลกินสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, ออมดี เฟย์, แดนนี ฮิกกินบอทแธม, รอรี ดีแลป, ดีน ไวท์เฮด, เกล็น วีแลน, แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน, ริชาร์ด เครสเวลล์, เจมส์ บีทตี
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 4-0 สโตค ซิตี
ราฟาเอล เบนิเตซ มีปัญหาในการจัดทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพียงแค่แผงรับ เมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล กรามร้าวต้องพักทำให้ ดาเนียล อยาลา ดาวรุ่งชาวสเปนได้โอกาส แดนกลางปรับใช้ ยอสซี เบนายูน ลงมาช่วย สตีเวน เจอร์ราร์ด ปั้นเกมให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลุ้นประตู ด้าน โทนี พูลิส อัดแผงกลาง “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี ไว้ 5 ราย ห้อยทาง เจมส์ บีทตี ไว้ข้างหน้าเพียงคนเดียว
เริ่มเกมการแข่งขันเป็นลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าลุยใส่ทันที ผ่านไปเพียง 5 นาทีก็เบิกประตูแรกได้สำเร็จ เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดไม่เหลือส่ง “หงส์แดง” บินนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว พอเสียประตูไป สโตค มามีโอกาสได้ลุ้นนบ้างจากฟรีคิก แต่ เจมส์ บีทตี ขึ้นโขกไม่ถึงโดน โฆเซ เรนา ออกมาชกบอลทิ้งได้ทันในนาทีที่ 18
สองนาทีถัดมาจากจังหวะสวนกลับ ตอร์เรส ควบบอลขึ้นมาทางขวาจะเปิดเข้ากลางให้ เดิร์ก เคาท์ สอดหัวโหม่งไม่โดน เอมิลิอาโน อินซัว เติมมาแปได้ทันที่เสาสองแต่บอลเฉี่ยวเสาไปแบบได้ลุ้น ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป “ช่างปั้นหม้อ” เริ่มใช้สูตรบอมบ์ใส่แผงรับเจ้าบ้าน รอรี ดีแลป ทุ่มบอลไกลไปในกรอบโทษให้ บีทตี โหม่งแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว เรนา นาทีที่ 25 ฮาเวียร์ มาสเชราโน โชว์การเปิดบอลจากแดนกลางที่แม่นยำให้ อินซัว สอดขึ้นมายิงมุมแคบแต่ โธมัส โซเรนเซน ดักทางไว้อยู่แล้ว
เกมของลิเวอร์พูลเริ่มจะตื้อไป ช่วงปลายครึ่งแรก ตอร์เรส ได้ขวิดบอลไปตรงตัว โซเรนเซน และจังหวะนี้ทำให้ดาวยิงทีมชาติสเปนต้องเสียเลือดจากการที่ศีรษะไปโขกกับ ไรอัน ชอว์ครอสส์ จนแตกแต่คัดเลือดทำแผลลงมาเล่นต่อได้ ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เคาท์ โหม่งบอลไปติดเซฟ โซเรนเซน มาเข้าทาง เกล็น จอห์นสัน กระโดดฟาดจ่อๆ ไม่เหลือ “หงส์แดง” นำ 2-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลงมาเล่นครึ่งหลัง สโตค กล้าได้กล้าเสียมากขึ้นโถมขึ้นลุยใส่ทันที ดีแลป ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อในกรอบโทษแต่ เรนา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกมา ทีมเยือนโถมใส่เป็นระยะ เกล็น วีแลน เปิดบอลแบบได้เสียเข้ากรอบหกหลาจะให้ ริชาร์ด เครสเวลล์ เข้าชาร์จแต่ จอห์นสัน เคลียร์พ้นอันตรายไปได้ก่อน นาทีที่ 54 เจอร์ราร์ด ได้ยิงเต็มข้อจากนอกกรอบ โซเรนเซน ปัดบอลไม่พ้นแต่ เคาท์ ก็ซ้ำวืดอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป “หงส์แดง” กลับมาติดเครื่องบุกอีกครั้ง จอห์นสัน ลากหนี แดนนี ฮิกกินบอทแธม เข้ามาหักยิงด้วยซ้ายร้อนถึง โซเรนเซน ต้องปัดปลายมือทิ้งไป ทีมเยือนปรับหมากบ้างใส่ ริคาร์โด ฟูลเลอร์ และ เลียม ลอว์เรนซ์ ลงมาเล่นแทน บีทตี กับ เครสเวลล์ แต่ห้านาทีถัดมาทีมเกือบโดนส่องประตูที่สาม ชอว์ครอสส์ โหม่งบอลผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเองแต่ โซเรนเซน บินปัดพ้นคานทัน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 78 “เดอะ ค็อป” ได้เฮลั่นกับประตูนำห่าง 3-0 เจอร์ราร์ด ลากไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางให้ เคาท์ สอดเข้ามาชาร์จบอลซุกก้นตาข่าย ท้ายเกม ราฟาเอล เบนิเตซ จัดการถอดสามกำลังสำคัญในแนวรุกทั้ง “สตีวี จี”, ตอร์เรส และ เคาท์ ออกมาพัก ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ประตูย้ำชัยเหนือ สโตค เป็น 4-0 จากผลงานการโหม่งของตัวสำรองอย่าง ดาวิด เอ็นก็อก ทำให้ทั้งสองทีมลงสนาม 2 นัด มีอยู่ทีมละ 3 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล อยาลา, เอมิลิอาโน อินซัว, เดิร์ค เคาท์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส
สโตค : โธมัส โซเรนเซน, แอนดี วิลกินสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, ออมดี เฟย์, แดนนี ฮิกกินบอทแธม, รอรี ดีแลป, ดีน ไวท์เฮด, เกล็น วีแลน, แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน, ริชาร์ด เครสเวลล์, เจมส์ บีทตี