ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ยังอะลุ้มอล่วยตัดสินเหตุปะทะกันในคู่ระหว่าง ราชนาวี ระยอง กับ พัทยา ยูไนเต็ด เป็นแค่การเตือนเท่านั้น พร้อมย้ำว่าหากเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจะลงโทษอย่างหนักถึงขั้นห้ามแฟนบอลเข้าสนาม
สืบเนื่องจากศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนสยาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง “ม้ามังกร” เฝ้าบ้านที่สนามกีฬากลาง จังหวัดระยอง เฉือนชนะ “โลมาฟ้าขาว” 3-2 ทว่ามีเหตุวุ่นวายในช่วงก่อนพักครึ่งเวลาแรก โดยแฟนบอลกับสารวัตรทหาร (สห.) ปะทะกันชุลมุนจนเกมต้องหยุดชะงักลงราว 15-20 นาที เป็นผลให้กองเชียร์ทีมเยือน 7 คนได้รับบาดเจ็บ ส่วน สห.นายหนึ่งก็ถูกกัดหูเลือดอาบต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันอังคารที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ได้มีการประชุมคณะผู้ควบคุมการแข่งขันจัดประชุมคณะผู้ควบคุมการแข่งขันที่ห้องประชุมชั้น 1 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเชิญ วิสูตร วิชายา ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมพัทยาเข้ามาชี้แจง ก่อนที่ ดนัย มงคลสิริ ผู้ควบคุมการแข่งขันนัดดังกล่าวจะเล่าเรื่องราวตามที่ได้ไปพบเห็นมาให้ที่ประชุมรับทราบ
หลังจากนั้นที่ประชุมได้สรุปว่ายังไม่มีการประกาศบทลงโทษทั้งฝั่งทีม ราชนาวี และ พัทยา โดยให้เหตุผลว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม อุดม อนันตพงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทและข้อประท้วงของไทยพรีเมียร์ลีก ได้เสนอให้มีการส่งหนังสือเตือนไปยังผู้ควบคุมกองเชียร์หรือหัวหน้าแฟนคลับทีมต่างๆ เพื่อให้ช่วยดูแลแฟนบอลฝั่งตัวเองอย่าให้ก่อเหตุวุ่นวายในสนาม ซึ่งหากพบเห็นว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกจะลงโทษปรับตามกฎที่จะนำมาใช้นับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุม
สำหรับบทลงโทษที่จะนำมาใช้ดังกล่าว ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง หัวเรือใหญ่ของไทยพรีเมียร์ลีกเผยว่าจะเริ่มตั้งแต่ส่งหนังสือเตือนเพื่อคาดโทษ, ปรับเงิน ไปจนถึงห้ามแฟนบอลเข้ามาเชียร์ในสนามสำหรับกรณีที่เกิดเรื่องจากกองเชียร์ทีมเยือน ส่วนกรณีที่เกิดจากแฟนบอลเจ้าบ้านก็จะห้ามทีมนั้นๆ ลงเตะในสนามเหย้าของตัวเองชั่วคราว
ด้าน ดร.วิชิต ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า “เหตุการณ์ในคู่ระหว่าง ราชนาวี กับ พัทยา เป็นเคสใหม่ที่เราไม่เคยเจอซึ่งคงต้องแจ้งเตือนให้สโมสรต่างๆ ไปชี้แจงผู้นำกองเชียร์ได้รับทราบก่อนว่าครั้งต่อไปโทษจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นห้ามแฟนบอลเข้ามาเชียร์ในสนาม หรือห้ามเล่นในบ้านตัวเอง เรื่องบทลงโทษใจจริงก็มองว่าดูรุนแรง ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากทำ ดังนั้น แฟนบอลก็ควรให้ความร่วมมือในการห้ามปรามคนที่อารมณ์ดุเดือดด้วย เพราะเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากคนส่วนน้อยซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่ควบคุมตัวเองได้จนกลายเป็นปัญหา”
พร้อมกันนี้ “ดร.ลูกหนัง” ยังเสนอแนวความคิดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนกลางที่ควบคุมโดยบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะผ่านการอบรมให้มีทักษะในการควบคุมสถานการณ์ภายในสนามระหว่างเกมการแข่งขันฟุตบอลโดยเฉพาะ หรือไม่ก็จัดให้มีการอบรมการทำหน้าที่การ์ดประจำสนาม ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ที่ประชุมได้เสนอให้เป็นตำรวจเท่านั้น จะไม่ใช้ สห.เข้ามาดูแล โดยหากมีการปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บนั้นก็จะให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
ส่วนเรื่องไอเดียการจัดโซนแฟนบอลโดยแยกของทีมเหย้าออกจากกองเชียร์ทีมเยือนให้เป็นสัดส่วนนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้สโมสรเป็นผู้ดำเนินการตามความเหมาะสม แต่เบื้องต้นได้มีการติดต่อประสานงานไปยัง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อให้แบ่งแยกพื้นที่สำหรับแฟนบอลทั้งสองฝ่ายออกจากกันในเกมเปิดสนามกีฬากลาง จังหวัดอยุธยา ต้อนรับ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคมนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงจากกองเชียร์ทั้งสองทีมที่นั่งบนอัฒจันทร์ฝั่งเดียวกัน เช่นเดียวกับในนัดที่ “มนุษย์ไฟฟ้า” เปิดบ้านเสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2 เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีคำสั่งลงโทษ การไฟฟ้าฯ จากเหตุแฟนบอลขว้างเหรียญ, ถุงน้ำ และ ตลับแป้งลงมาในสนามในแมตช์ที่ออกไปพ่าย บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-3 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 5,000-10,000 บาท เนื่องจากเป็นความผิดสถานเบา และไม่ใช่กรณีเดียวกับที่เคยโดนปรับ 30,000 บาทจากเหตุการณ์ขว้างปาขวดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บในแมตช์พบ “ฉลามชล” ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน จุฬา ยูไนเต็ด และ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เตรียมได้รับหนังสือแจ้งเตือนเรื่องการเพิ่มจำนวนเปลสำหรับหามผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างเกมออกจากสนาม ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองทีมจัดเตรียมไว้เพียงเปลเดียวเท่านั้น โดยในรายหลังอย่าง ทีทีเอ็ม ที่กลับไปใช้สนามสถาบันพลศึกษา สมุทรสาคร เล่นนัดเหย้าอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ได้รับอนุญาตให้ใช้สังเวียนดังกล่าวต่อไป หลังจากประเมินสภาพสนามผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 70 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ก็ถูกเตือนเช่นกันจากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทีมเข้าไปสั่งการระหว่างเกมอยู่ในเขตเทคนิคเกิน 1 คน ส่วน ศรีราชา เอฟซี ที่ส่งรายชื่อผู้เล่นชาวต่างชาติเกินโควตาที่กำหนดไว้ 5 คน เลือกถอดชื่อ เจเรมายห์ บันตัน กองหน้าชาวอเมริกันออกแล้ว