เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีแผนชักชวน บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้มาร่วมชมศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้กลางปีหน้า พร้อมทั้งหารือกันเรื่องกระตุ้นความนิยมของ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ รวมถึงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในปี 2018 หรือ 2022
มหกรรมลูกหนัง “เวิลด์ คัพ 2010” มีกำหนดฟาดแข้งในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม 2010 หรืออีก 318 วัน ซึ่ง แบลตเตอร์ เตรียมเชิญชวน โอบามา มาเป็นแขกพิเศษ เพื่อร่วมชมการแข่งขันด้วยกัน โดยทั้งคู่มีนัดพบปะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้
โดยหัวเรือใหญ่แห่งองค์กรลูกหนังโลกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี (AP) ว่า “ผมเชื่อว่าผู้คนที่อยู่รายล้อมท่านประธานาธิบดีจะต้องมีความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลอย่างแน่นอน และพวกเขาคงทำทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวใจท่านประธานาธิบดีในการประชุมที่จะถึงนี้ให้มาร่วมชมศึกฟุตบอลโลก ซึ่งอาจเป็นในพิธีเปิดหรือไม่ก็รอบชิงชนะเลิศ”
ขณะเดียวกัน แบลตเตอร์ ยังเผยถึงรายละเอียดที่จะถกกับผู้นำเมืองลุงแซมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาฤดูกาลของศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ว่า “ผมได้คุยกับ ดอน การ์เบอร์ (ประธานเมเจอร์ลีก) และ ซูนิล กูลาติ (ประธานสหพันธ์ซอคเกอร์สหรัฐฯ) แล้ว ซึ่งปัญหาสำคัญอยู่ที่ช่วงฤดูกาลของพวกเขาที่ไม่ดึงดูดความสนใจของตัวผู้เล่นจากตลาดยุโรป สิ่งที่ผมพอจะแนะนำได้คือเปลี่ยนมาเริ่มแข่งในช่วงย่างเข้าฤดูหนาวมาสิ้นสุดที่ฤดูร้อนตามแบบสากล”
ท้ายสุด บิ๊กเซปป์ กล่าวถึงเรื่องที่สหรัฐฯ ยื่นขอจัดฟุตบอลโลก ซึ่งเสนอตัวเป็นผู้ท้าชิงทั้งในปี 2018 และ 2022 ว่า “ปัญหาใหญ่สำหรับประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพคือการให้เวลาแก่หน่วยงานท้องถิ่นของชาตินั้นๆ ได้เตรียมตัว ซึ่งนอกจากสหรัฐฯแล้วยังมีอีก 10 ข้อเสนอที่ยื่นเข้ามาสำหรับปี 2018 และยังต้องคำนึงถึงพันธมิตรของฟีฟ่าทั้งสปอนเซอร์และผู้ถือลิขสิทธิ์โทรทัศน์ด้วย ด้วยเหตุที่ความสนใจในฟุตบอลโลกเป็นเรื่องใหญ่เราจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน”
ทั้งนี้ ฟีฟ่าจะประกาศผู้ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ในเดือนธันวาคมปีหน้า โดยที่ สหรัฐฯ มีลุ้นอยู่ไม่น้อย เนื่องจาก แบลเตอร์ เคยแย้มว่าอาจมอบสิทธิ์ให้กับชาติในยุโรปหรือโซนคอนคาเคฟ หลังจากทวีปแอฟริกา (แอฟริกาใต้) รับหน้าเสื่อปี 2010 และทวีปอเมริกาใต้ (บราซิล) เป็นเจ้าภาพในปี 2014
มหกรรมลูกหนัง “เวิลด์ คัพ 2010” มีกำหนดฟาดแข้งในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม 2010 หรืออีก 318 วัน ซึ่ง แบลตเตอร์ เตรียมเชิญชวน โอบามา มาเป็นแขกพิเศษ เพื่อร่วมชมการแข่งขันด้วยกัน โดยทั้งคู่มีนัดพบปะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้
โดยหัวเรือใหญ่แห่งองค์กรลูกหนังโลกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี (AP) ว่า “ผมเชื่อว่าผู้คนที่อยู่รายล้อมท่านประธานาธิบดีจะต้องมีความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลอย่างแน่นอน และพวกเขาคงทำทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวใจท่านประธานาธิบดีในการประชุมที่จะถึงนี้ให้มาร่วมชมศึกฟุตบอลโลก ซึ่งอาจเป็นในพิธีเปิดหรือไม่ก็รอบชิงชนะเลิศ”
ขณะเดียวกัน แบลตเตอร์ ยังเผยถึงรายละเอียดที่จะถกกับผู้นำเมืองลุงแซมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาฤดูกาลของศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ว่า “ผมได้คุยกับ ดอน การ์เบอร์ (ประธานเมเจอร์ลีก) และ ซูนิล กูลาติ (ประธานสหพันธ์ซอคเกอร์สหรัฐฯ) แล้ว ซึ่งปัญหาสำคัญอยู่ที่ช่วงฤดูกาลของพวกเขาที่ไม่ดึงดูดความสนใจของตัวผู้เล่นจากตลาดยุโรป สิ่งที่ผมพอจะแนะนำได้คือเปลี่ยนมาเริ่มแข่งในช่วงย่างเข้าฤดูหนาวมาสิ้นสุดที่ฤดูร้อนตามแบบสากล”
ท้ายสุด บิ๊กเซปป์ กล่าวถึงเรื่องที่สหรัฐฯ ยื่นขอจัดฟุตบอลโลก ซึ่งเสนอตัวเป็นผู้ท้าชิงทั้งในปี 2018 และ 2022 ว่า “ปัญหาใหญ่สำหรับประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพคือการให้เวลาแก่หน่วยงานท้องถิ่นของชาตินั้นๆ ได้เตรียมตัว ซึ่งนอกจากสหรัฐฯแล้วยังมีอีก 10 ข้อเสนอที่ยื่นเข้ามาสำหรับปี 2018 และยังต้องคำนึงถึงพันธมิตรของฟีฟ่าทั้งสปอนเซอร์และผู้ถือลิขสิทธิ์โทรทัศน์ด้วย ด้วยเหตุที่ความสนใจในฟุตบอลโลกเป็นเรื่องใหญ่เราจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน”
ทั้งนี้ ฟีฟ่าจะประกาศผู้ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ในเดือนธันวาคมปีหน้า โดยที่ สหรัฐฯ มีลุ้นอยู่ไม่น้อย เนื่องจาก แบลเตอร์ เคยแย้มว่าอาจมอบสิทธิ์ให้กับชาติในยุโรปหรือโซนคอนคาเคฟ หลังจากทวีปแอฟริกา (แอฟริกาใต้) รับหน้าเสื่อปี 2010 และทวีปอเมริกาใต้ (บราซิล) เป็นเจ้าภาพในปี 2014