"ผมคิดว่าสื่อมวลชนไทยมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ทำไมไม่มองว่าการแข่งขันแมตช์นี่เป็นเกมที่สุดยอดมาก เรื่องการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดนั้นก็เหมาะสมอยู่แล้ว"
สตีฟ แมคมาน หนึ่งในฝ่ายจัดการแข่งขัน และ หนึ่งในบุคคลสำคัญจากบริษัท โพรฟิทเอเบิล กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport หลังจากถูกตั้งคำถามถึงการรักษาความปลอดภัยที่ฝ่ายจัดการแข่งขันลงทุนจ้างพิเศษมาจากต่างประเทศและทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ส่งผลให้แฟนบอลยากจะได้ยลนักเตะทีมรัก ขณะที่ สื่อมวลชนทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารได้ยากยิ่ง
นับตั้งแต่ทีมดังจากเกาะอังกฤษ เดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. ทำกิจกรรมและลงสนามนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยระหว่างวันที่ 21- 22 ก.ค. จนถึงเช้าวันนี้ (23 ก.ค. 52) ทัพนักเตะลิเวอร์พูล ได้ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่อไปเปิดมหกรรมโชว์แข้งกันต่อที่ประเทศสิงค์โปร์ นับเป็นสามวันที่แฟนหงส์แดงชาวไทยต่างรู้สึกเหมือนกันว่า การมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ของ ลิเวอร์พูล ต่างจากครั้งก่อนๆ เป็นอย่างยิ่ง
เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ ที่ 20 กรกฎาคม ทันทีที่ล้อเครื่องแตะรันเวย์สนามบินดอนเมือง เหล่าบรรดาแฟนบอลที่มาดักรอพบดาวเตะขวัญใจต้องผิดหวังตั้งแต่วินาทีแรก เมื่อฝ่ายจัดการแข่งขัน ส่งรถบัสขนาดใหญ่รับถึงประตูเครื่องบิน และนำผู้เล่น และสตาฟฟ์โค้ชเข้าพักที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ แบบทันควัน
ขณะที่แฟนบอลจำนวนหนึ่งเดินทางไปประจำอยู่ ณ โรงแรมที่พัก แต่ความหวังที่จะได้ใกล้ชิดนักเตะในดวงใจอย่าง ชาบี อลอนโซ, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เจมี คาร์ราเกอร์ ต้องพังทลายลงอีกเมื่อการ์ดของฝ่ายจัดการแข่งขัน จับมือกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกว่า 300 คน คอยเฝ้าระวังไม่ให้แฟนบอลเข้าถึงตัวสมาชิกของทีม ลิเวอร์พูล พร้อมทั้งประกาศกฎเหล็กห้ามแฟนเข้าไปในตัวอาคารของโรงแรม
กรรฐิญา กองมูล หงส์แดงสาว เผยทั้งน้ำตาหลังจากเดินทางมารอนักเตะทีมรักที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณเป็นวันที่สามว่า "ที่มารอทุกวันเพราะอยากได้ลายเซ็นของนักเตะ เราเชียร์ทีมนี้มานานแล้ว แต่พอมาแล้วรู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากโดนฝ่ายรักษาความปลอดภัยกันจนเข้าไม่ถึงตัวนักเตะ เราก็ทราบว่าเป็นหน้าที่ของเขา เพียงแต่ก็อยากให้มองพวกแฟนบอลเป็นคนเหมือนกับลูกค้าของโรงแรมด้วย อย่าใช้คำพูดที่ไม่ดี หรือพฤติกรรมแย่ๆ กันเลย"
ด้าน ภาวัช ความเพียร นักธุรกิจจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยว่าเดินทางไกลร่วม 600 กิโลเมตร เพื่อชื่นชมดาวเตะในดวงใจกล่าวว่า "มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเกินไปทำให้รู้สึกผิดหวังมาก เมื่อ ลิเวอร์พูล เดินทางมาเมืองไทยเพื่อพบปะและทำกิจกรรมร่วมกับกองเชียร์ แต่กลับกลายเป็นการสร้างความรู้สึกไม่ดีให้แฟนฟุตบอล ขนาดผมเข้าไปนั่งดื่มกาแฟในร้านของโรงแรมเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับนักเตะทีม ลิเวอร์พูล พอนักเตะเดินผ่านทางเข้าออก พวกเขากลับปิดประตูร้านกาแฟเพื่อไม่ให้ผมออกไปขอลายเซ็น ผมว่าเขาทำเกินไป"
แฟนบอลสองรายเป็นตัวอย่างของความรู้สึก “หงส์ทัวร์ครั้งนี้สัมผัสได้แค่สายตา” ซึ่ง สตีฟ แม็คมาน ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าของบริษัทโพรฟิทเอเบิล กรุ๊ป กลับมองในมุมต่างและชื่อว่ามาตรการที่เข้มงวดนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วโดยเจ้าตัวกล่าวกับผู้สื่อข่าว MGR Sport ว่า
"ผมคิดว่าสื่อมวลชนไทยมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ทำไมไม่มองว่าการแข่งขันแมตช์นี่เป็นเกมที่สุดยอดมาก เรื่องการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดก็เกิดขึ้นตามความสำคัญของเกม โดยเฉพาะที่โรงแรมหากมีแฟนกรูเข้ามา 100 คน คุณคิดว่าเจ้าหน้าที่จะรับมือกันไหวหรือ และถ้าดูกันตามจริงจะเห็นว่าเราเปิดโอกาสให้ผู้เล่นดาวดังเหล่านี้ไปร่วมงานนอกที่พัก ไม่ว่าจะเป็นงานมีท แอนด์ กรีท ที่ห้างสรรพสินค้า หรือการร่วมเดินทางชมวัดพระแก้ว แต่ผมคงทำให้ทุกคนพอใจหมดไม่ได้"
"ที่อังกฤษแฟนบอลเดินทางมา 7,000 ไมล์ แล้วไม่ได้พบนักเตะที่ขวัญใจเขาก็ไม่เห็นจะบ่นอะไรให้ผมฟังเลย ผมคิดว่าที่เราทำอยู่มันก็เป็นเรื่องที่สมควรแก่เหตุผลแล้ว และก็ไม่ใช่ว่าจะดูแลเข้มงวดเฉพาะที่เมืองไทย ต่อจากนี้เราจะเดินทางไปแข่งกระชับมิตรที่สิงคโปร์ (26ก.ค.52) เราก็จะใช้มาตรการเดียวกันทั่วโลก"
ในมุมที่ต่างกันระหว่างแฟนบอล และ ฝ่ายจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นบทเรียนของ บริษัทต่างชาติที่คิดจะจัดการแข่งขันในระดับเดียวกัน เพราะถ้าว่ากันตามจริงแล้ว แฟนบอลไทยนั้นแม้จะคลั่งไคล้เพียงใดแต่ยังสามารถพูดจาได้ง่ายกว่า ฮูลิแกนบนเกาะอังกฤษ ขณะที่กรุงเทพมหานครเพิ่งจะได้รับการโหวตให้เป็น World’s Best City ประจำปี 2552 ทั้งสองประการนี้เป็นเรื่องที่รู้กันดีสำหรับคนต่างชาติที่รู้จักคนไทยและเข้าใจสภาพสังคม แต่สำหรับผู้มาเยือนที่มุ่งหวังผลกำไรโดยไม่สนใจเจ้าบ้านนั้น การเยือนครั้งต่อไปอาจไม่อบอุ่นเท่ากับครานี้ก็เป็นได้