วงการกีฬาโลกฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ “เดอะซัน” สื่อยักษ์ใหญ่ออกมาแฉมีนักฟุตบอลในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 6 รายติดเชื้อ “HIV” หลังร่วมหลับนอนกับผู้หญิงคนเดียวกัน นี่ไม่ใช่กรณีแรกของนักกีฬารักสนุก (ทางเพศ) เนื่องจาก แมจิก จอห์นสัน ตำนานยัดห่วงมะกันคือตัวอย่างที่เคยผิดพลาดมาแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 วงการบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ตกตะลึงไปตามๆ กันเมื่อ แมจิก จอห์นสัน ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ “HIV” ทันทีที่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อร้ายในร่างกาย การ์ดซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส แสดงสปิริตด้วยการประกาศเลิกเล่นทันทีในวันที่ 7 พฤศจิกายน หลังจากมีคำแนะนำเชิงกระแสกดดันจากผู้เล่นในลีกนำโดย คาร์ล มาโลน ฟอร์เวิร์ด ยูทาห์ แจซซ์ ที่หวั่นใจหาก แมจิก ประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันแล้วมีบาดแผลเกิดขึ้น สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเพื่อนร่วมอาชีพได้
แรกเริ่ม แมจิก อ้างไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อร้ายมาได้อย่างไร แต่ในภายหลังเจ้าตัวยอมรับว่าช่วงที่เล่นอาชีพใน NBA มีพฤติกรรมรักสนุกทางเพศชอบร่วมหลับนอนกับหญิงสาวหลายคน บ้างก็มีกระแส แมจิก เป็นเกย์ตอบสนองได้ทั้งเพศชายหรือว่าหญิง แต่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธเรื่องเหล่านี้
สำหรับ แมจิก ถือเป็นหนึ่งในสมาชิก “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา ชุดคว้าเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อปี 1992 ด้วยศักยภาพของนักบาสฯ ใน NBA ที่เหนือชั้นกว่าหลายชาติ ทำให้ แมจิก ไม่ต้องลงสนามมากนัก เพราะมีปัญหาบาดเจ็บเข่านอกเหนือจากกรณีติดโรคเอดส์ แต่แฟนๆ ก็ยืนขึ้นปรบมือเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เขา แสดงให้เห็นถึงการเปิดใจรับต่อผู้ติดเชื้อ HIV มากขึ้น
ภายหลัง แมจิก อุทิศตนเพื่อสังคมด้วยการก่อตั้ง “มูลนิธิ แมจิก จอห์นสัน” ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ให้การช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ โดยไม่แบ่งเชื้อชาติและสีผิว แม้เรื่องเลวร้ายดำเนินผ่านมานานถึง 19 ปี แต่ปัจจุบัน แมจิก วัย 49 ปี สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ, ยังออกงานสังคม, ไปดูเลเกอร์สแข่งขันที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ บ่อยครั้ง จนหลายคนแทบลืมไปแล้วว่าชายคนนี้มีเชื้อร้ายอยู่ในร่างกาย ทุกคนจดจำแต่เพียงว่า “แมจิก จอห์นสัน” คือสุดยอดนักบาสเกตบอลที่ดีที่สุด 50 อันดับแรกเท่าที่ NBA เคยมีมา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 วงการบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ตกตะลึงไปตามๆ กันเมื่อ แมจิก จอห์นสัน ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ “HIV” ทันทีที่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อร้ายในร่างกาย การ์ดซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส แสดงสปิริตด้วยการประกาศเลิกเล่นทันทีในวันที่ 7 พฤศจิกายน หลังจากมีคำแนะนำเชิงกระแสกดดันจากผู้เล่นในลีกนำโดย คาร์ล มาโลน ฟอร์เวิร์ด ยูทาห์ แจซซ์ ที่หวั่นใจหาก แมจิก ประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันแล้วมีบาดแผลเกิดขึ้น สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเพื่อนร่วมอาชีพได้
แรกเริ่ม แมจิก อ้างไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อร้ายมาได้อย่างไร แต่ในภายหลังเจ้าตัวยอมรับว่าช่วงที่เล่นอาชีพใน NBA มีพฤติกรรมรักสนุกทางเพศชอบร่วมหลับนอนกับหญิงสาวหลายคน บ้างก็มีกระแส แมจิก เป็นเกย์ตอบสนองได้ทั้งเพศชายหรือว่าหญิง แต่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธเรื่องเหล่านี้
สำหรับ แมจิก ถือเป็นหนึ่งในสมาชิก “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา ชุดคว้าเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อปี 1992 ด้วยศักยภาพของนักบาสฯ ใน NBA ที่เหนือชั้นกว่าหลายชาติ ทำให้ แมจิก ไม่ต้องลงสนามมากนัก เพราะมีปัญหาบาดเจ็บเข่านอกเหนือจากกรณีติดโรคเอดส์ แต่แฟนๆ ก็ยืนขึ้นปรบมือเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เขา แสดงให้เห็นถึงการเปิดใจรับต่อผู้ติดเชื้อ HIV มากขึ้น
ภายหลัง แมจิก อุทิศตนเพื่อสังคมด้วยการก่อตั้ง “มูลนิธิ แมจิก จอห์นสัน” ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ให้การช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ โดยไม่แบ่งเชื้อชาติและสีผิว แม้เรื่องเลวร้ายดำเนินผ่านมานานถึง 19 ปี แต่ปัจจุบัน แมจิก วัย 49 ปี สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ, ยังออกงานสังคม, ไปดูเลเกอร์สแข่งขันที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ บ่อยครั้ง จนหลายคนแทบลืมไปแล้วว่าชายคนนี้มีเชื้อร้ายอยู่ในร่างกาย ทุกคนจดจำแต่เพียงว่า “แมจิก จอห์นสัน” คือสุดยอดนักบาสเกตบอลที่ดีที่สุด 50 อันดับแรกเท่าที่ NBA เคยมีมา