xs
xsm
sm
md
lg

นพวรรณ เลิศชีวกานต์ Unedited Version! / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น้อง “ นก ” นพวรรณ เลิศชีวกานต์ คงทำให้ชาวไทยมีความสุข ความภาคภูมิใจกันทั้งประเทศ หลังจากที่ไปสร้างชื่อให้ประเทศไทยด้วยการคว้าแชมป์เทนนิส วิมเบิลเดิน แกรนด์ สแลม บนคอร์ทหญ้าที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในระดับเยาวชน ทั้งประเภทหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ ประวัติของเธอ ใครๆก็รู้ แต่ผมอยากจะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังถึงบางเรื่องในมุมของผมครับ

เรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับการแข่งขันเทนนิสในทวีปยุโรปของ น้องนก ก็คือ เธอมีชื่ออยู่ใน “ บัญชีดำ ” ของ สนธิสัญญา เชงเกิน ( Schengen Treaty ) ซึ่งเป็นข้อตกลงเรื่องการอนุญาตเดินทางเข้าในหมู่ประเทศสมาชิกโดยถือวีซาเดียว คือ วีซา เชงเกิน ( Schengen Visa ) อันนี้เป็นผลติดมาจากเมื่อหลายปีก่อนที่ โค้ช มาเร็ค เคยพา น้องนก ไปแข่งเทนนิสที่ประเทศโปแลนด์ แล้วอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนดให้ในวีซา แถมในหนังสือเดินทางยังมีการแอบแก้ไขวันที่ซะด้วย ซึ่งน้องนกไม่ได้เป็นคนทำ จะเป็นฝีมือของใครก็ไม่รู้ แต่ทางการโปแลนด์เอาเรื่องขนาดหนัก จับเธอไปกักไว้ในสถานกักกันสำหรับเด็ก 1 วัน แล้วส่งขึ้นศาลในวันรุ่งขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถเข้าประเทศโปแลนด์ได้อีกต่อไป

ลำพังโปแลนด์ประเทศเดียวคงไม่เป็นไรครับ แต่บัดนี้ โปแลนด์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสนธิสัญญา เชงเกิน ซึ่งลงนามไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2004 แล้วเพิ่งจะมีผลบังคับใช้ที่สนามบินต่างๆเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2008 ทำให้ชื่อของน้องนกที่เคยอยู่ใน แบล็ค ลิสท์ ของโปแลนด์ กระจายไปในบัญชีดำของทั้ง 25 ประเทศสมาชิกในทวีปยุโรปโดยอัตโนมัติ อันนี้ส่งผลให้ตอนที่ น้องนก จะไปแข่งเทนนิส เฟร็นช์ โอเพน 2009 ที่ประเทศฝรั่งเศส ทางฝรั่งเศสบอกว่า ไม่อาจให้วีซาได้เพราะติด แบล็ค ลิสท์ ร้อนถึง คุณชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ดูแล ต้องไปอ้อนวอนกับสถานทูตฝรั่งเศสอยู่หลายเที่ยว จนได้โอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของสถานทูต คุณชัยภักดิ์งัดเอาภาษาฝรั่งเศสออกมาใช้ เพราะตอนเด็กๆเคยเรียนอยู่ที่กรุงปารี เนื่องจากพลเรือตรีชอบ ศิริวัฒน์ คุณพ่อเคยไปเป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรืออยู่ที่นั่น ทำให้ได้คุยกันออกรสออกชาติ เอิ๊กอ๊าก แล้วหลังจากนั้นอะไรๆมันก็ง่ายขึ้น เขาจึงออกวีซาให้เป็นกรณีพิเศษ น้องนก จึงได้ไปคว้าแชมป์เยาวชนหญิงคู่ เฟร็นช์ โอเพน ในที่สุด

เด็กน้อยชาวเชียงใหม่คนนี้ เริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เพราะบุญของคุณพ่อคุณแม่แท้ๆที่เป็นพยาบาล เคยดูแลคนไข้ชาวเยอรมนีผู้หนึ่งอย่างดี ซึ่งเขาก็มีความรู้สึกประทับใจถึงกับต้องการหาทางตอบแทนบุญคุณ และหนทางหนึ่งก็คือ การมาสอนเทนนิสให้กับลูกสาวของสามีภรรยาคู่นี้นั่นเอง ซึ่งภายหลังจึงมีโค้ชชาวเยอรมนีอีกคนหนึ่งมาช่วยสอนต่อให้ คนนี้คือ มาเร็ค มาลาสซัค ( Marek Malaszszak ) หมอนี่เคยเป็นโค้ชของ ชเตฟฟี กราฟ ( Steffi Graf ) อดีตมือ 1 ของโลกชาวเยอรมนีในช่วงที่ยังแข่งในระดับเยาวชน

เมื่อ น้องนก โตขึ้นมา มาเร็ค เห็นว่า เด็กคนนี้พื้นฐานใช้ได้ ตัวก็สูงดี น่าจะไปได้ไกลในวงการเทนนิส จึงพามาขอความช่วยเหลือจาก คุณชัยภักดิ์ ในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆสำหรับการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ ซึ่งระหว่างนั้น น้องนก ยังคงอยู่ที่เชียงใหม่ ทางนี้ก็คอยให้การสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นการส่วนตัวไป

ปีรุ่งขึ้น น้องนกอายุ 15 แล้ว มีการคิดกันว่า เธอควรจะเข้าสู่ระบบที่มีการฝึกซ้อมและแข่งขันเป็นเรื่องเป็นราว และน่าจะมาปักหลักอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งญาติพี่น้องก็ไม่มี คุณแม่ก็เสียไปราว 2 ปีแล้ว ดังนั้น คุณชัยภักดิ์และคุณนฤมล จึงตกลงรับเอาไว้ดูแล โดยคุณประมวล พ่อของน้องนกได้มอบอำนาจทุกอย่างให้เรียบร้อย

ตอนที่เธอมาอยู่ที่บ้านศิริวัฒน์ ซอยอ่อนนุช 44 ใหม่ๆนั้น ยังกระโดกกระเดกอยู่มาก ท่าทางออกห้าวจัดเลย การนั่ง การเดิน การพูดจาไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน กิริยา มารยาท ความประพฤติต้องค่อยๆปรับแต่งกัน อันนี้เป็นหน้าที่ของคุณนฤมล รวมทั้ง อาหารการกิน เสื้อผ้าและอื่นๆ ลูกๆบ้านนี้ก็มีแต่ น้องน่าน นิน นน และเนิ่น เป็นผู้หญิงหมดทั้ง 4 คนและวัยก็ใกล้กันด้วย ดังนั้น การเลี้ยงดูก็เหมือนกับได้ลูกสาวเพิ่มมาอีก 1 คน เธอว่ายน้ำ สวมใส่เสื้อผ้า กินอาหารโต๊ะเดียวกันกับครอบครัวศิริวัฒน์มาโดยตลอด อาหารประเภทปลา น่าจะเป็นของแสลงของ น้องนก เธอส่ายหน้าทุกครั้งที่เจอปลา ผักก็ไม่ชอบ จึงมักจะซัดซี่โครงหมูทอดกระเทียมของโปรดเป็นประจำ ไม่ต้องห่วงครับ กินทีเป็นกิโล อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการบังคับให้กินปลา กินผักกันบ้างแหละ เพราะ คุณนฤมล จะต้องคอยดูแลเรื่องโภชนาการให้ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาสำหรับคนเป็นนักกีฬา ซึ่งจากการที่ น้องนก ได้เห็นตัวอย่างจากสาวๆบ้านนี้ ทุกคนยอมรับว่า น้องนกปรับตัวในทุกเรื่องได้เก่งทีเดียว

เรื่องการฝึกซ้อมเป็นหน้าที่ของคุณชัยภักดิ์ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นอุปนายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยอยู่ เธอได้เข้าโครงการของสมาคมฯ มีการจ้างโค้ชเก่งๆจากต่างประเทศมาสอนให้ และที่สำคัญ คุณชัยภักดิ์ ตัดสินใจจ้าง ชัค ครีส ( Chuck Kriese) โค้ชทีมเยาวชน เดวิส คัพ ของสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัย นอร์ธ แคโรลายนา เช่าบ้านพักให้อยู่แถวๆอ่อนนุช จะได้สะดวก จัดคนขับรถให้ด้วย หมดเงินไปเดือนละ 2 แสนกว่าบาท ซึ่ง น้องนก เองก็เป็นคนที่รู้หน้าที่ของตนเอง ถึงเวลาฝึกซ้อมก็ลงซ้อม ไม่ต้องให้ใครมาบอก

ระยะแรก เธอมีห้องนอนส่วนตัวที่มีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพอยู่ภายในตัวบ้านใหญ่ แต่เนื่องจากพ่อของเธอมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนทุกๆ 3 วัน 8 วัน และต้องนอนกับพื้นหรือไม่ก็ไปพักโรงแรม แถมภายหลังยังมี ลักษิกา คำขำ ดาวรุ่งรุ่นน้องจากจันทบุรีตามมาสมทบอีก อันนี้คุณพ่อซึ่งเป็นอดีตนักเทนนิสทีมชาติขอฝากให้ คุณชัยภักดิ์ ช่วยดูแลอีกคนครับ จึงต้องมีการจัดระบบกันใหม่ ให้ น้องนก ไปครอบครองอีกอาคารหนึ่งที่สร้างเอาไว้เป็นเรือนรับรองแขก แล้วเรียกว่า “ บ้านนก ” และความที่ คุณชัยภักดิ์ เป็นคนชอบของแต่งบ้านอยู่แล้ว ที่บ้านศิริวัฒน์จึงออกสตายล์หรู ผมยังจำได้ว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่ คุณชัยภักดิ์ ไปฝรั่งเศส ผมก็เห็นซื้อหาแต่ข้าวของแต่งบ้าน หอบกันพะรุงพะรัง น้องนก คงได้ซึมซับบรรยากาศอย่างนั้นระหว่างที่พำนักอยู่ที่บ้านศิริวัฒน์กระมัง ดังนั้น เงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขัน ส่วนมากจะเอาไปปรับปรุงบ้านที่เชียงใหม่ ทำห้องให้พ่อ ให้พี่สาว เดี๋ยวก็มีเตียง เดี๋ยวก็มีโคมระย้าสตายล์ยุโรปโผล่มา ส่วนของตัวเอง อย่างเก่งก็แค่ซื้อเครื่องประดับ หรือทาเล็บเท่านั้น

ล่าสุด มีข่าวดีมาว่า เรื่องแบล็ค ลิสท์ ของน้องนกนั้น หลังเสร็จจาก เฟร็นช์ โอเพน ที่คุณชัยภักดิ์ดอดไปคุยกับ วโลซีมีซ ชีโมเซวิช ( Wlodzimierz Cimoszewicz ) อดีตนายกรัฐมนตรีถึงประเทศโปแลนด์ไว้นั้น ตอนนี้ทางการโปแลนด์แจ้งมาว่า ยินดีปลดชื่อ น้องนก ออกจากบัญชีดำแล้ว เพียงแต่ต้องเสียค่าปรับเป็นการชดเชยใช้จ่ายที่เกิดจากการส่งเรื่องฟ้องศาลคราวนั้นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจะแพง ผมเชื่อว่าคุณชัยภักดิ์ คงยินดีจ่ายอยู่แล้ว เรื่องมันจะได้จบๆกันไป ในวงการกีฬาของเรา อาจมีหลายคนที่ “ อยากเสียงดัง แต่ตังค์ไม่จ่าย ” แต่นี่คือตัวอย่างของคนที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จ เสียงอาจไม่ดัง แต่ตังค์จ่ายไปเยอะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น