ด้วยวัยเพียง 28 ปี คงเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งหาก “เหยา หมิง” ต้องพาสรีระอันแสนจะได้เปรียบในลีกยัดห่วง เดินออกจากสังเวียนเอ็นบีเอไปตลอดกาล และการวินิจฉัยของทีมแพทย์ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ภายในสัปดาห์นี้ถึงการหาทางรักษาอาการกระดูกเท้าซ้ายแตกหนล่าสุด อันเป็นใจความสำคัญที่จะคงบ่งชี้ได้ว่าเซ็นเตอร์ทีมชาติจีนจะสามารถกลับมาเล่นบาสเกตบอลได้อีกหรือไม่
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 เหยา หมิง สร้างปรากฏการณ์เป็นนักบาสฯ เอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูก ดราฟท์เข้าสู่ศึกเอ็นบีเอ (NBA) เป็นคนแรกโดย ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ด้วยรูปร่าง 7 ฟุต 6 นิ้ว (229 เซนติเมตร) ที่สูงเกินมนุษย์ธรรมดา ทำให้“ลิทเทิล ไจแอนท์ส” (Little Giants) ได้รับการจับตามองทั้งในและนอกสนาม ซึ่งก็ดูเหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี
“อาเหยา” ใช้เวลาปรับตัวแค่ปีเดียวก็สามารถพา ร็อคเก็ตส์ กลับสู่เพลย์ออฟหนแรกในรอบห้าปี และนับตั้งแต่เข้าทำงานที่โตโยตา เซ็นเตอร์ มาเป็นปีที่ 7 ทีมดังแห่งเท็กซัสชวดตั๋วเข้าสู่โพสต์ซีซั่นเพียงแค่ครั้งเดียว นั่นก็คือฤดูกาล 2005/06 ปีแรกที่ เหยา หมิง เผชิญกับอาการบาดเจ็บหัวแม่เท้าซ้ายจนต้องพักยาว 21 เกม ร็อคเก็ตส์ จบซีซั่นด้วยสถิติชนะ 34 แพ้ 48 เกม ซึ่งไม่ดีพอ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอาการบาดเจ็บที่ตามมาทุกปี โดยฤดูกาล 2006/07 แม่ทัพชาวจีนพลาดแข่งอีก 32 เกม เนื่องจากเจ็บขาขวา และซีซั่นถัดมาก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดกระดูกเท้าซ้ายที่แตกอีกจนต้องพัก 26 เกม จนมาล่าสุดเมื่อปี 2008/09 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เหยา หมิง ลงสนามในฤดูกาลปกติได้ถึง 77 เกม มากที่สุดนับตั้งแต่เคยเล่นให้ ร็อคเก็ตส์ 80 เกมเมื่อฤดูกาล 2004/05 แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกจนได้
เหยา ซึ่งมีน้ำหนักตัวถึง 310 ปอนด์ (141 กิโลกรัม) บาดเจ็บกระดูกเท้าซ้ายแตกช่วงปลายเกมที่ ร็อคเก็ตส์ ปราชัยคาถิ่นต่อ แอลเอ เลเกอร์ส 94-108 คะแนน ในเกมที่ 3 ของเพลย์ออฟรอบสอง ตอนแรกคาดว่า “อาเหยา” อาจพักแค่ 8-12 สัปดาห์ ทว่าจากการตรวจอย่างละเอียด ดร.ทอม แคลนตัน แพทย์ประจำทีมร็อคเก็ตส์ แจ้งข่าวร้ายผ่าน “ฮุสตัน โครนิเคิล” สื่อท้องถิ่นว่า เหยา อาจต้องพักตลอดทั้งฤดูกาลหน้า และก็สุ่มเสี่ยงต่อการเล่นอาชีพต่อไปในอนาคต เนื่องจากกระดูกฝ่าเท้าชิ้นที่บางมีรอยแตกร้าวเกิดขึ้น
ถึงวันนี้ ทีมแพทย์ยังคิดไม่ตกถึงวิธีที่ดีที่สุดในการรักษา เหยา หมิง ดังนั้นการตัดสินใจให้ผู้เล่นเข้ารับการผ่าตัด รวมถึงแนวทางการบำบัดสภาพร่างกายให้ฟื้นตัวจึงต้องเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เท้าซ้ายของ เหยา จะทนได้ไหวอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นคงไม่มีใครอยากเห็น “อาเหยา” ต้องเลิกเล่นบาสฯ ก่อนวัยอันควร
นับตั้งแต่ เหยา หมิง เดินเข้าสู่ลีก รายได้ไหลเข้าสู่กระเป๋าต้นสังกัด ร็อคเก็ตส์ มากมาย หลายเกมที่แฟนๆเข้ามาเต็มความจุของสนาม อีกหลายเกมเราได้เห็นชาวจีนยกพลมาดูผู้เล่นอันเป็นที่รักยัดห่วง อีกทั้ง เดวิด สเติร์น ประธาน NBA เล็งเห็นช่องทางการทำธุรกิจอีกนับไม่ถ้วน จึงไม่น่าแปลกใจที่จีนจะถูกวางให้เป็นตลาดใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ เมื่อมีแฟนๆ 200-300 ล้านคนนั่งดูการถ่ายทอดสดยาม เหยา ลงสนาม ครั้งที่เขานำทีมไปแข่งกับ ซาคราเมนโต คิงส์ ที่ปักกิ่ง และเซียงไฮ้ เมื่อปี 2004 ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ปัจจุบันมีร้านรวงขายผลิตภัณฑ์ NBA กระจายในดินแดนไม้ไผ่ถึง 3 หมื่นแห่ง กอปรกับเสื้อของ เหยา หมิง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไม่แพ้ โคบี ไบรอันท์ ซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส
โดย มาร์ค กานิส ประธานกลุ่มบริษัท SportsCorp Ltd ซึ่งมีฐานทัพอยู่ในชิคาโก และเป็นพันธมิตรในการทำมาค้าขายกับจีน เผยถึงความสำคัญของ เหยา “การปรากฏกายของเขาเขย่าวงการ NBA สามารถนำความนิยมมาสู่ลีกอย่างไม่เคยมีมาก่อน คุณค่าของ เหยา หมิง ที่มีต่อลีกมากเกินกว่าที่จะนับได้ ซึ่งถ้าวันใดวันหนึ่งถ้าเลี่ยงไม่ได้ เหยา ไม่สามารถเล่นได้อีกต่อไป ผมยังคิดว่า เหยา สามารถเป็นทูตให้ NBA ในภูมิภาคเอเชียและผมก็คาดว่าเขาจะมีส่วนช่วยเหลือสำคัญในการพัฒนาวงการบาสเกตบอลในจีนต่อไปได้”
คำแนะนำของ กานิส เชื่อว่าคงอยู่ในใจของ สเติร์น รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของ NBA เพียงแต่คงไม่มีใครอยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับ “เหมา หมิง” เพราะดูเหมือนเร็วเกินไปที่จะทำใจในการยอมรับได้