ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พรรคมาตุภูมิออกโรงจี้ "มาร์ค" หมดเวลาเกรงใจใครให้เด็ดขาดดับไฟใต้ ชง 6 แนวทางสมานฉันท์ เยียวยาสังหารหมู่มัสยิด ตั้งกรรมการกลางสอบเหตุการณ์ ดันร่าง พ.ร.บ.สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าสภา "ชวน" เรียก 5 ส.ส.ชายแดนใต้ถกได้ข้อสรุปเสนอตั้ง "องค์กรถาวร" ขึ้นมาแก้ปัญหา "ผบ.ทบ." ย้ำต้องใช้หลักการเมืองนำการทหารแก้ปัญหา ระบุถ้าใช้ทหารนำอาจมีปัญหาแทรกซ้อน เชื่อ 3 ปีสถานการณ์ดีขึ้น "สุเทพ" สั่ง จนท.ดูแลวัด-มัสยิดเป็นพิเศษ ล่าสุดโจรใต้เหี้ยมเกินมนุษย์! ฆ่าตัดหัวชาวบ้านก่อนเผาที่ยะลา
ที่พรรคมาตุภูมิ ตึกเบญจมาศ วานนี้ (15 มิ.ย.) นายมั่น พัธโนทัย นายมุข สุไลมาน พร้อมด้วยนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน และนายนัจมุดดิน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคมาตุภูมิ (พรรคราษฎรเดิม) ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ว่า ส.ส.ของพรรคในพื้นที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือ 1.ขอให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการสังหารหมู่ผู้กำลังละหมาดในมัสยิดอัลฟุรกอนในคืนวันที่ 8 มิ.ย. 2.ขอให้รัฐบาลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบกรณีสังหารในมัสยิดอัลฟุรกอน ให้เท่าเทียมกับกรณีร้ายแรงอื่นๆ 3.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการสร้างความสมานฉันท์ความเข้าใจอันดีระหว่างพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมในพื้นที่และทั่วประเทศในเชิงรุกเข้าถึงผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา นักการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำชุมชนอย่างเร่งด่วน
4.ขอให้รัฐบาลสั่งการกองกำลังต่างๆ ในพื้นที่ดำเนินมาตรการควบคุมสถานการณ์และคุ้มครองสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกกลุ่ม 5.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดเสนอ พ.ร.บ.สำนักงานบริหารกิจการชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสู่การพิจาราของสภาฯโดยด่วน และ 6.ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ว.ในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมปรึกษาหารือ หามาตรการการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว และไม่ควรฉกฉวยเหตุการณ์มาสร้างโอกาสทางการเมือง
นายนัจมุดดินกล่าวว่า เหตุการณ์ยิงประชาชนในมัสยิดถูกตีแผ่ไปทั่วโลกถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไขจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวในการสร้างความแตกแยก ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาดูแล จากนั้นให้มีการแถลงต่อประชาชนเป็นระยะๆ ทำความจริงให้ปรากฏให้ได้ โดยเฉพาะปลอกกระสุนที่เจอในที่เกิดเหตุ 109 ปลอก เป็นปืนเอ็ม 16 และปืนชนิดลูกซองอีกจำนวนหนึ่ง
"ผมไปดูที่เกิดเหตุทำให้คิดตรงกับประชาชนว่าคนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้เป็นบุคคลที่มีความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ การใช้อาวุธ จึงคิดว่าใช้กำลังเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวคงไม่พอที่จะเรียกความเชื่อมั่นคืน ที่สำคัญต้องทำให้เชื่อได้ว่า เป็นการแก้ปัญหาตามหลักการเมืองนำการทหาร"
***จี้ "มาร์ค" ควรเด็ดขาดดับไฟใต้
นายมุขกล่าวว่า งบประมาณที่รัฐบาลใช้ควรมองวัตถุประสงค์ที่ลงไปแล้วเห็นผลจริงมากกว่าหว่านโดยไม่คำนึงความต้องการประชาชน บางทีนำชาวบ้านไปอบรมสัมมนาเป็นเวลานาน ทำให้คนในพื้นที่ขาดโอกาสในการทำงานและการแก้ปัญหาต้องใช้ลักษณะนโยบาย 3 จังหวัดเป็นพิเศษ ที่ไม่เหมือนกับจังหวัดอื่น จึงจะแก้ไขปัญหาได้ โดยทำลักษณะเป็นเขตปกครองพิเศษ
"อย่าเพิ่งตัดรอนสิ่งเหล่านั้น ถ้ารัฐบาลมองไม่เห็นปัญหาและปล่อยคนตายทุกวันๆ ใช้ไม่ได้ คนที่มีหน้าที่บริหารประเทศจะปล่อยคนตายทุกวันไม่ได้ ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลา" นายเด่นกล่าวและว่า อยากขอร้องนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าจะใช้การเมืองนำการทหารนั้นขอให้ทำอย่างจริงจังอย่าพูดเฉยๆ เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีการขยับอะไร หากมีการเอาการเมืองนำจริงก็ต้องใช้อำนาจของนายกฯเองเลย ไม่ใช่ไปฟังทหาร ซึ่งขณะนี้พื้นที่ในภาคใต้ทหารยังคงดูแลอยู่
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็น ผอ.กอ.รมน.อยู่ นายเด่น กล่าวว่า "ก็นั่นแหล่ะนายกรัฐมนตรีเป็นทั้งนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล และเป็น ผอ.กอ.รมน.ก็น่าจะออกคำสั่งเอง ไม่ต้องไปฟังทหาร ส่วนรัฐมนตรีที่กำกับดูแลภาคใต้ขณะนี้นั้นคิดว่ายังไม่ได้ใช้ศักยภาพในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่"
นายอารีเพ็ญกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับร่าง พ.ร.บ.สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นร่างที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเอง และเชื่อว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาภาคใต้ได้ ดังนั้น ก็จะขอรอดูความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีว่าจะช่วยผลักดันร่าง สบ.ชต.ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาได้หรือไม่ เพราะไม่อยากคิดว่าที่ช้าอยู่ขณะนี้เป็นเพราะเกรงใจใคร
**ปชป.เสนอตั้งองค์กรถาวรดับไฟใต้
ที่รัฐสภาวันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือร่วมกับ ส.ส.5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และคณะทำงานปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ โดยมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยมหาดไทย และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ได้ข้อสรุปว่า ควรมีการปรับปรุงโครงสร้างฝ่ายปกครอง โดยมีการตั้งองค์กรถาวรเข้ามาแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งต้องเร่งรัดการออกกฎหมายสำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (สบ.ชต.) ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอไว้ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ นายชวน ได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคนให้ลงพื้นที่พบประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะชาวบ้านหวั่นไหวกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นและมีความคาดหวังต่อการแก้ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังแสดงความเป็นห่วงต่อความพยายามที่จะสร้างความบาดหมางครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้น ระหว่างพี่น้องศาสนาอิสลามและพี่น้องศาสนาพุทธด้วย
**"สุเทพ" เตรียมผลาญงบเพิ่มอีก
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ซึ่งเข้าร่วมหารือด้วย เห็นว่าปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข คือ ความคับแค้นใจที่มีการกราดยิงมัสยิดที่ จ.นราธิวาส ที่จะต้องจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดก็ตาม ขณะเดียวกัน ต้องแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเมื่อ พ.ร.ก.กู้เงินผ่านสภาฯก็จะเร่งนำเงินลงไปพัฒนาทันที ส่วนความหวาดกลัวในใจของประชาชน ต้องทำให้อำนาจรัฐสามารถให้หลักประกันความปลอดภัยกับประชาชนให้มากขึ้น และยืนยันว่า ที่ผ่านมาในการทำหน้าที่ก็ดูแลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีเอกภาพเกิดขึ้น
นายสุเทพกล่าวก่อนหน้านี้ด้วยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดกวดขันคนเข้า-ออกวัดและมัสยิดเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความปลอดภัย เพราะผู้ก่อการร้ายมีเป้าหมายให้คนที่นับถือศาสนาต่างกันเข้าใจผิดกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เพราะฉะนั้นต้องช่วยกัน อย่าให้ประชาชนเข้าใจผิดกันและรัฐบาลไม่มีนโยบายเจรจากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งการลงพื้นที่ที่ผ่านมามีคนติดต่อขอมอบตัว แต่ขอดูก่อนว่าเชื่อถือได้หรือไม่
**ผบ.ทบ.โบ้ยใช้การเมืองนำดับไฟใต้
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าจะต้องเน้นที่การเมืองนำการทหาร คือการพัฒนาทุกๆ มิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา เพื่อกล่อมจิตใจประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่และเป็นผู้บริสุทธิ์ใช้การสร้างความเข้าใจในกลุ่มที่สามารถทำได้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้กฎหมายดำเนินการกับผู้ที่มีความผิดและจะใช้การปฏิบัติการทางทหารเมื่อพบผู้มีอาวุธ
"แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว เราไม่มีหนทางอื่นที่จะปฏิบัติ การใช้การทหารปราบปรามทำไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา ส่วนรวมยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะนำไปผูกกับเหตุการณ์ที่ยังเกิดขึ้น"
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราเคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ทั่วประเทศในครั้งนั้นเราประกาศสงครามเลย มียอดผู้เสียชีวิต 2,500 คนก็เกิดปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนตามมามากมาย ถ้าเราทำเช่นเดียวกันในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีเรื่องเชื้อชาติ และศาสนามาเกี่ยวข้อง จะยิ่งมีปัญหาแทรกซ้อนมาก ทั้งวัฒนธรรม ศาสนา และองค์กรระหว่างประเทศ คงไม่นิ่งเฉย
"การเปลี่ยนจิตใจคนต้องใช้เวลา แต่เราเชื่อมั่นว่า ที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่กว่า 90% เข้าใจและยอมรับอำนาจรัฐ สามารถพูดคุยได้ กำลังพลส่วนใหญ่ลงไปอยู่กับประชาชนเป็นหลัก เราสามารถเข้าได้ทุกหมู่บ้าน เข้าใจกัน ร่วมมือกันทำงาน เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเกิดจากคนส่วนน้อย ต้องหาทางแก้ไขต่อไป"
ส่วนระยะเวลา 3 ปีที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง คาดหวังว่าจะสร้างความสงบให้เกิดขึ้นได้ กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การทำงานมีการกำหนดเป็นแผนงานอยู่แล้ว แต่จะให้ปัญหาหมดไป 100% คงตอบยาก แต่ก็ต้องใช้แนวทางการสร้างความเข้าใจ และมาตรการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทั่วโลกยอมรับ คิดว่าแนวโน้มน่าจะประสบความสำเร็จ
**โหด! ฆ่าตัดหัวลูกจ้างสวนยาง
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ด้วยกัน โดยเฉพาะที่ จ.ยะลา เมื่อช่วงสายวานนี้ (15 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุ สภ.ธารโต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนร้ายฆ่าตัดคอชาวบ้านเสียชีวิต บนขนำภายในสวนทุเรียน ที่บ้านหลังเกษตร ม.7 ต.ธารโต อ.ธารโต จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.ประเดิมชัย ไพรสนธ์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.ธารโต นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบศพชายไทยนอนเสียชีวิตในสภาพที่ไม่มีศีรษะ บริเวณลำตัวถูกแทงด้วยของมีคมจำนวนหลายแผล และถูกเผาไหม้เกรียม
ห่างจากจุดเกิดเหตุเล็กน้อยพบศีรษะที่คนร้ายนำมาเสียบไว้ มีดพร้าที่มีคราบเลือด 1 เล่มและใบปลิวที่มีข้อความโจมตีเจ้าหน้าที่อีก 1 แผ่น สอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายกิมเซียง แซ่ตั้ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 3 ต.เสนานิคม อ.เสนานิคม จ.อำนาจเจริญ ที่มารับจ้างทำสวนและกรีดยางในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง.
ที่พรรคมาตุภูมิ ตึกเบญจมาศ วานนี้ (15 มิ.ย.) นายมั่น พัธโนทัย นายมุข สุไลมาน พร้อมด้วยนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน และนายนัจมุดดิน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคมาตุภูมิ (พรรคราษฎรเดิม) ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ว่า ส.ส.ของพรรคในพื้นที่มีความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือ 1.ขอให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการสังหารหมู่ผู้กำลังละหมาดในมัสยิดอัลฟุรกอนในคืนวันที่ 8 มิ.ย. 2.ขอให้รัฐบาลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบกรณีสังหารในมัสยิดอัลฟุรกอน ให้เท่าเทียมกับกรณีร้ายแรงอื่นๆ 3.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการสร้างความสมานฉันท์ความเข้าใจอันดีระหว่างพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมในพื้นที่และทั่วประเทศในเชิงรุกเข้าถึงผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา นักการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนผู้นำชุมชนอย่างเร่งด่วน
4.ขอให้รัฐบาลสั่งการกองกำลังต่างๆ ในพื้นที่ดำเนินมาตรการควบคุมสถานการณ์และคุ้มครองสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกกลุ่ม 5.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดเสนอ พ.ร.บ.สำนักงานบริหารกิจการชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสู่การพิจาราของสภาฯโดยด่วน และ 6.ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ว.ในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมปรึกษาหารือ หามาตรการการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว และไม่ควรฉกฉวยเหตุการณ์มาสร้างโอกาสทางการเมือง
นายนัจมุดดินกล่าวว่า เหตุการณ์ยิงประชาชนในมัสยิดถูกตีแผ่ไปทั่วโลกถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไขจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวในการสร้างความแตกแยก ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาดูแล จากนั้นให้มีการแถลงต่อประชาชนเป็นระยะๆ ทำความจริงให้ปรากฏให้ได้ โดยเฉพาะปลอกกระสุนที่เจอในที่เกิดเหตุ 109 ปลอก เป็นปืนเอ็ม 16 และปืนชนิดลูกซองอีกจำนวนหนึ่ง
"ผมไปดูที่เกิดเหตุทำให้คิดตรงกับประชาชนว่าคนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้เป็นบุคคลที่มีความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ การใช้อาวุธ จึงคิดว่าใช้กำลังเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวคงไม่พอที่จะเรียกความเชื่อมั่นคืน ที่สำคัญต้องทำให้เชื่อได้ว่า เป็นการแก้ปัญหาตามหลักการเมืองนำการทหาร"
***จี้ "มาร์ค" ควรเด็ดขาดดับไฟใต้
นายมุขกล่าวว่า งบประมาณที่รัฐบาลใช้ควรมองวัตถุประสงค์ที่ลงไปแล้วเห็นผลจริงมากกว่าหว่านโดยไม่คำนึงความต้องการประชาชน บางทีนำชาวบ้านไปอบรมสัมมนาเป็นเวลานาน ทำให้คนในพื้นที่ขาดโอกาสในการทำงานและการแก้ปัญหาต้องใช้ลักษณะนโยบาย 3 จังหวัดเป็นพิเศษ ที่ไม่เหมือนกับจังหวัดอื่น จึงจะแก้ไขปัญหาได้ โดยทำลักษณะเป็นเขตปกครองพิเศษ
"อย่าเพิ่งตัดรอนสิ่งเหล่านั้น ถ้ารัฐบาลมองไม่เห็นปัญหาและปล่อยคนตายทุกวันๆ ใช้ไม่ได้ คนที่มีหน้าที่บริหารประเทศจะปล่อยคนตายทุกวันไม่ได้ ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลา" นายเด่นกล่าวและว่า อยากขอร้องนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าจะใช้การเมืองนำการทหารนั้นขอให้ทำอย่างจริงจังอย่าพูดเฉยๆ เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีการขยับอะไร หากมีการเอาการเมืองนำจริงก็ต้องใช้อำนาจของนายกฯเองเลย ไม่ใช่ไปฟังทหาร ซึ่งขณะนี้พื้นที่ในภาคใต้ทหารยังคงดูแลอยู่
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็น ผอ.กอ.รมน.อยู่ นายเด่น กล่าวว่า "ก็นั่นแหล่ะนายกรัฐมนตรีเป็นทั้งนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล และเป็น ผอ.กอ.รมน.ก็น่าจะออกคำสั่งเอง ไม่ต้องไปฟังทหาร ส่วนรัฐมนตรีที่กำกับดูแลภาคใต้ขณะนี้นั้นคิดว่ายังไม่ได้ใช้ศักยภาพในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่"
นายอารีเพ็ญกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับร่าง พ.ร.บ.สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นร่างที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเอง และเชื่อว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาภาคใต้ได้ ดังนั้น ก็จะขอรอดูความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีว่าจะช่วยผลักดันร่าง สบ.ชต.ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาได้หรือไม่ เพราะไม่อยากคิดว่าที่ช้าอยู่ขณะนี้เป็นเพราะเกรงใจใคร
**ปชป.เสนอตั้งองค์กรถาวรดับไฟใต้
ที่รัฐสภาวันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือร่วมกับ ส.ส.5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และคณะทำงานปฏิบัติการเพื่อประเมินสถานการณ์ โดยมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยมหาดไทย และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ได้ข้อสรุปว่า ควรมีการปรับปรุงโครงสร้างฝ่ายปกครอง โดยมีการตั้งองค์กรถาวรเข้ามาแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งต้องเร่งรัดการออกกฎหมายสำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (สบ.ชต.) ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอไว้ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ นายชวน ได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคนให้ลงพื้นที่พบประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะชาวบ้านหวั่นไหวกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นและมีความคาดหวังต่อการแก้ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังแสดงความเป็นห่วงต่อความพยายามที่จะสร้างความบาดหมางครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้น ระหว่างพี่น้องศาสนาอิสลามและพี่น้องศาสนาพุทธด้วย
**"สุเทพ" เตรียมผลาญงบเพิ่มอีก
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ซึ่งเข้าร่วมหารือด้วย เห็นว่าปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข คือ ความคับแค้นใจที่มีการกราดยิงมัสยิดที่ จ.นราธิวาส ที่จะต้องจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดก็ตาม ขณะเดียวกัน ต้องแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเมื่อ พ.ร.ก.กู้เงินผ่านสภาฯก็จะเร่งนำเงินลงไปพัฒนาทันที ส่วนความหวาดกลัวในใจของประชาชน ต้องทำให้อำนาจรัฐสามารถให้หลักประกันความปลอดภัยกับประชาชนให้มากขึ้น และยืนยันว่า ที่ผ่านมาในการทำหน้าที่ก็ดูแลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีเอกภาพเกิดขึ้น
นายสุเทพกล่าวก่อนหน้านี้ด้วยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดกวดขันคนเข้า-ออกวัดและมัสยิดเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความปลอดภัย เพราะผู้ก่อการร้ายมีเป้าหมายให้คนที่นับถือศาสนาต่างกันเข้าใจผิดกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เพราะฉะนั้นต้องช่วยกัน อย่าให้ประชาชนเข้าใจผิดกันและรัฐบาลไม่มีนโยบายเจรจากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งการลงพื้นที่ที่ผ่านมามีคนติดต่อขอมอบตัว แต่ขอดูก่อนว่าเชื่อถือได้หรือไม่
**ผบ.ทบ.โบ้ยใช้การเมืองนำดับไฟใต้
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าจะต้องเน้นที่การเมืองนำการทหาร คือการพัฒนาทุกๆ มิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา เพื่อกล่อมจิตใจประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่และเป็นผู้บริสุทธิ์ใช้การสร้างความเข้าใจในกลุ่มที่สามารถทำได้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้กฎหมายดำเนินการกับผู้ที่มีความผิดและจะใช้การปฏิบัติการทางทหารเมื่อพบผู้มีอาวุธ
"แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว เราไม่มีหนทางอื่นที่จะปฏิบัติ การใช้การทหารปราบปรามทำไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา ส่วนรวมยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะนำไปผูกกับเหตุการณ์ที่ยังเกิดขึ้น"
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราเคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ทั่วประเทศในครั้งนั้นเราประกาศสงครามเลย มียอดผู้เสียชีวิต 2,500 คนก็เกิดปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนตามมามากมาย ถ้าเราทำเช่นเดียวกันในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีเรื่องเชื้อชาติ และศาสนามาเกี่ยวข้อง จะยิ่งมีปัญหาแทรกซ้อนมาก ทั้งวัฒนธรรม ศาสนา และองค์กรระหว่างประเทศ คงไม่นิ่งเฉย
"การเปลี่ยนจิตใจคนต้องใช้เวลา แต่เราเชื่อมั่นว่า ที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่กว่า 90% เข้าใจและยอมรับอำนาจรัฐ สามารถพูดคุยได้ กำลังพลส่วนใหญ่ลงไปอยู่กับประชาชนเป็นหลัก เราสามารถเข้าได้ทุกหมู่บ้าน เข้าใจกัน ร่วมมือกันทำงาน เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเกิดจากคนส่วนน้อย ต้องหาทางแก้ไขต่อไป"
ส่วนระยะเวลา 3 ปีที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง คาดหวังว่าจะสร้างความสงบให้เกิดขึ้นได้ กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การทำงานมีการกำหนดเป็นแผนงานอยู่แล้ว แต่จะให้ปัญหาหมดไป 100% คงตอบยาก แต่ก็ต้องใช้แนวทางการสร้างความเข้าใจ และมาตรการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทั่วโลกยอมรับ คิดว่าแนวโน้มน่าจะประสบความสำเร็จ
**โหด! ฆ่าตัดหัวลูกจ้างสวนยาง
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ด้วยกัน โดยเฉพาะที่ จ.ยะลา เมื่อช่วงสายวานนี้ (15 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุ สภ.ธารโต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนร้ายฆ่าตัดคอชาวบ้านเสียชีวิต บนขนำภายในสวนทุเรียน ที่บ้านหลังเกษตร ม.7 ต.ธารโต อ.ธารโต จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.ประเดิมชัย ไพรสนธ์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.ธารโต นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบศพชายไทยนอนเสียชีวิตในสภาพที่ไม่มีศีรษะ บริเวณลำตัวถูกแทงด้วยของมีคมจำนวนหลายแผล และถูกเผาไหม้เกรียม
ห่างจากจุดเกิดเหตุเล็กน้อยพบศีรษะที่คนร้ายนำมาเสียบไว้ มีดพร้าที่มีคราบเลือด 1 เล่มและใบปลิวที่มีข้อความโจมตีเจ้าหน้าที่อีก 1 แผ่น สอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายกิมเซียง แซ่ตั้ง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 3 ต.เสนานิคม อ.เสนานิคม จ.อำนาจเจริญ ที่มารับจ้างทำสวนและกรีดยางในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง.