ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มก่อความไม่สงบอำมหิตเกินมนุษย์ แถมยังลอบกัดรายวัน ป่วนปัตตานีอีกหลายจุด ยิง 2 สามี-ภรรยากลางชุมชนตำบลตะลุโบะก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาซ้ำอย่างโหดเหี้ยม พร้อมยิงสองพ่อ-ลูกวัย 11 ขวบ สาหัส ลอบถล่มทหารเจ็บอีก 2 นาย
กลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ท้าทายอำนาจรัฐต่อเนื่อง เมื่อเวลา 06.50 น. วานนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงแล้วเผาภายในซอย 5 ม.8 บ้านดือราแฮ ต.ตะลุโบะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตทั้ง 2 อยู่ในสภาพกอดกันถูกเผาดำเป็นตอตะโกและคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กมว 952 ปัตตานี ทราบชื่อคือ นายดำรง ลิ่มดำรง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ซ.5 ถ.มะกรูด ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี และนางสุดาภรณ์ ลิ่มดำรง อายุ 42 ปี
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายดำรง ขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปส่งนางสุดาภรณ์ ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัท ทีทีแอนที ตั้งอยู่ริมถนนสาย 42 โดยทั้ง 2 จะใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปกลับทุกวัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนทั้ง 2 เสียหลักล้ม ซึ่งช่วงที่คนร้ายจะเดินเข้ามายิงซ้ำ นางสุดาภรณ์ ได้ยกมือขอชีวิต แต่คนร้ายไม่สนจึงยิงซ้ำอีกก่อนจะราดน้ำมันจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก จากนั้นคนร้ายเร่งเครื่องหลบหนีไป
**โจรใต้ลอบกัดแอบยิง 2 พ่อ-ลูกสาหัส
ในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.อุทัย ชัยมาลา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุบนถนนสาย 42 ยะหริ่ง-เมืองปัตตานี ที่บริเวณ ม.3 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง-ดำ ทะเบียน กนบ 971 ปัตตานี ล้มอยู่ข้างทาง ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายภิรมย์ อนุรักษ์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 78/1 ม.4 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และดญ.พัชรี กวางแก้ว อายุ 11 ปี นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 บุตรสาวได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่นายภิรมย์ ขับขี่รถ จยย.เพื่อจะไปส่งภรรยาไปยังบ้านพักที่ อ.เมือง และจะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนโดยมีนางจุฬาภรณ์ สิทธิเกตุ อายุ 27 ปี ภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วยและกำลังอุ้มลูกสาว วัย 10 เดือน ส่วนเด็กหญิงพัชรี นั่งด้านหน้า ปรากฏว่าขณะเดินทางได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามมาด้านหลัง จากนั้นได้ขับแซงด้านหน้าชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิง 4 นัด ถูกทั้ง 2 จนรถเสียหลักชนเกาะกลางถนน ส่วนภรรยาและลูกวัย 10 เดือนมีบาดแผลที่ศีรษะเล็กน้อย หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป สาเหตุเชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมต้องการสร้างสถานการณ์ โดยการทำร้ายผู้บริสุทธิ์
**ป่วนไม่หยุดบึ้มอีกทหารปัตตานีเจ็บ 2
ต่อเวลา 10.50 น.ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณริมถนน สาย 410 ยะลา-ปัตตานี บริเวณ ม.4 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ได้รับบาดเจ็บ 2 นายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี เหตุเกิดขณะเจ้าหน้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าว กำลังเดินลาดตระเวนเส้นทาง เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าวคนร้ายได้กดระเบิดขึ้น
**ผู้ว่าฯปัตตานีจี้จนท.เกาะติดแนวร่วม
นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ประสานสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเกาะติดความเคลื่อนไหวกลุ่มแนวร่วมขบวนการก่อเหตุความไม่สงบอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หลังจากที่พบว่าในช่วงนี้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุสร้างสถานการณ์ที่รุนแรงกระทบความรู้สึกของประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะวันนี้ก่อเหตุสะเทือนขวัญโดยมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ขณะที่หน่วยข่าวกรองของเจ้าหน้าที่ทหารได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าทุกฝ่ายเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากนายสะมาแอ อภิบาลแบ แกนนำกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ ได้ประชุมกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ภายในป่าสวนยางแห่งหนึ่ง มีการแบ่งกลุ่มเพื่อก่อเหตุร้ายตั้งแต่วัน 15 - 26 ม.ค.53 นี้เป็นต้นไป
**ตร.ยะลาล่าคนร้ายตามกล้องวงจรปิด
ด้าน พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.รักษาการ ผกก.สภ.เมืองยะลา กล่าวถึงความคืบหน้าติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดว่า ขณะนี้ได้นำภาพจากวงจรปิดมาตรวจสอบพบว่า คนวางเป็นชายวัยรุ่นอายุราว 25-30 ปี ส่วนผู้มาส่งระเบิดเป็นหญิงวัยเดียวกันในเวลา 03.05 น. ซึ่งพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยะลา และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา ได้พยายามปะติดปะต่อภาพของกลุ่มคนร้ายที่ใช้เส้นทางในการหลบหนี เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลามาแล้ว
**เรือเหาะตรวจการณ์ไฟใต้ทดลองบินแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าโครงการเรือเหาะตรวจการณ์ หรือบอลลูนขนาดยักษ์ติดกล้องอินฟาเรดเพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วานนี้ (14 ม.ค.) ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจทางอากาศ ได้มีการทดลองบินเพื่อใช้งานในการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่าสามารถใช้การได้ดีและเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่ และจะได้มีการติดตั้งระบบเชื่อมโยงสัญญาณเครือข่ายกับภาคพื้นดินและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มใช้งานปฏิบัติการในพื้นที่ได้ในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม โครงการเรือเหาะตรวจการณ์นี้รัฐบาลได้อนุมัติเงินจำนวน 350 ล้านบาท ซึ่งมีการจัดซื้อจากบริษัทแอร์เรียอินเตอร์เนชันแนล ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 ลำ ในราคาเฉพาะตัวเรือบอลลูน 260 ล้านบาท กล้องส่องกลางวันและกลางคืนรวม 2 ตัว ราคา 70 ล้านบาท ส่วนอีก 20 ล้านบาท ใช้สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารภาคพื้นดิน
กลุ่มก่อความไม่สงบสร้างสถานการณ์ท้าทายอำนาจรัฐต่อเนื่อง เมื่อเวลา 06.50 น. วานนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงแล้วเผาภายในซอย 5 ม.8 บ้านดือราแฮ ต.ตะลุโบะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตทั้ง 2 อยู่ในสภาพกอดกันถูกเผาดำเป็นตอตะโกและคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กมว 952 ปัตตานี ทราบชื่อคือ นายดำรง ลิ่มดำรง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ซ.5 ถ.มะกรูด ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี และนางสุดาภรณ์ ลิ่มดำรง อายุ 42 ปี
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายดำรง ขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปส่งนางสุดาภรณ์ ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัท ทีทีแอนที ตั้งอยู่ริมถนนสาย 42 โดยทั้ง 2 จะใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปกลับทุกวัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนทั้ง 2 เสียหลักล้ม ซึ่งช่วงที่คนร้ายจะเดินเข้ามายิงซ้ำ นางสุดาภรณ์ ได้ยกมือขอชีวิต แต่คนร้ายไม่สนจึงยิงซ้ำอีกก่อนจะราดน้ำมันจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก จากนั้นคนร้ายเร่งเครื่องหลบหนีไป
**โจรใต้ลอบกัดแอบยิง 2 พ่อ-ลูกสาหัส
ในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.อุทัย ชัยมาลา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุบนถนนสาย 42 ยะหริ่ง-เมืองปัตตานี ที่บริเวณ ม.3 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง-ดำ ทะเบียน กนบ 971 ปัตตานี ล้มอยู่ข้างทาง ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายภิรมย์ อนุรักษ์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 78/1 ม.4 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และดญ.พัชรี กวางแก้ว อายุ 11 ปี นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 บุตรสาวได้รับบาดเจ็บ
สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่นายภิรมย์ ขับขี่รถ จยย.เพื่อจะไปส่งภรรยาไปยังบ้านพักที่ อ.เมือง และจะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนโดยมีนางจุฬาภรณ์ สิทธิเกตุ อายุ 27 ปี ภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วยและกำลังอุ้มลูกสาว วัย 10 เดือน ส่วนเด็กหญิงพัชรี นั่งด้านหน้า ปรากฏว่าขณะเดินทางได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามมาด้านหลัง จากนั้นได้ขับแซงด้านหน้าชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิง 4 นัด ถูกทั้ง 2 จนรถเสียหลักชนเกาะกลางถนน ส่วนภรรยาและลูกวัย 10 เดือนมีบาดแผลที่ศีรษะเล็กน้อย หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป สาเหตุเชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมต้องการสร้างสถานการณ์ โดยการทำร้ายผู้บริสุทธิ์
**ป่วนไม่หยุดบึ้มอีกทหารปัตตานีเจ็บ 2
ต่อเวลา 10.50 น.ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณริมถนน สาย 410 ยะลา-ปัตตานี บริเวณ ม.4 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ได้รับบาดเจ็บ 2 นายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี เหตุเกิดขณะเจ้าหน้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าว กำลังเดินลาดตระเวนเส้นทาง เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าวคนร้ายได้กดระเบิดขึ้น
**ผู้ว่าฯปัตตานีจี้จนท.เกาะติดแนวร่วม
นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ประสานสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเกาะติดความเคลื่อนไหวกลุ่มแนวร่วมขบวนการก่อเหตุความไม่สงบอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หลังจากที่พบว่าในช่วงนี้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุสร้างสถานการณ์ที่รุนแรงกระทบความรู้สึกของประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะวันนี้ก่อเหตุสะเทือนขวัญโดยมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ขณะที่หน่วยข่าวกรองของเจ้าหน้าที่ทหารได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าทุกฝ่ายเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากนายสะมาแอ อภิบาลแบ แกนนำกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ ได้ประชุมกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ภายในป่าสวนยางแห่งหนึ่ง มีการแบ่งกลุ่มเพื่อก่อเหตุร้ายตั้งแต่วัน 15 - 26 ม.ค.53 นี้เป็นต้นไป
**ตร.ยะลาล่าคนร้ายตามกล้องวงจรปิด
ด้าน พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.รักษาการ ผกก.สภ.เมืองยะลา กล่าวถึงความคืบหน้าติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดว่า ขณะนี้ได้นำภาพจากวงจรปิดมาตรวจสอบพบว่า คนวางเป็นชายวัยรุ่นอายุราว 25-30 ปี ส่วนผู้มาส่งระเบิดเป็นหญิงวัยเดียวกันในเวลา 03.05 น. ซึ่งพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยะลา และกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา ได้พยายามปะติดปะต่อภาพของกลุ่มคนร้ายที่ใช้เส้นทางในการหลบหนี เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลามาแล้ว
**เรือเหาะตรวจการณ์ไฟใต้ทดลองบินแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าโครงการเรือเหาะตรวจการณ์ หรือบอลลูนขนาดยักษ์ติดกล้องอินฟาเรดเพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วานนี้ (14 ม.ค.) ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจทางอากาศ ได้มีการทดลองบินเพื่อใช้งานในการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่าสามารถใช้การได้ดีและเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่ และจะได้มีการติดตั้งระบบเชื่อมโยงสัญญาณเครือข่ายกับภาคพื้นดินและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มใช้งานปฏิบัติการในพื้นที่ได้ในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม โครงการเรือเหาะตรวจการณ์นี้รัฐบาลได้อนุมัติเงินจำนวน 350 ล้านบาท ซึ่งมีการจัดซื้อจากบริษัทแอร์เรียอินเตอร์เนชันแนล ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 ลำ ในราคาเฉพาะตัวเรือบอลลูน 260 ล้านบาท กล้องส่องกลางวันและกลางคืนรวม 2 ตัว ราคา 70 ล้านบาท ส่วนอีก 20 ล้านบาท ใช้สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารภาคพื้นดิน