แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักชาวอเมริกันพิชิตชัยเหนือ แอนดี เมอร์เรย์ 3-1 เซต เตรียมถอนแค้น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลก ในรอบชิงชนะเลิศศึกเทนนิสวิมเบิลดัน ประจำปี 2009
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ชิงเงินรางวัลรวมทั้งหมด 12,550,000 ปอนด์ (ประมาณ 690 ล้านบาท) ณ สังเวียนคอร์ตหญ้าที่ ออล อิงแลนด์ คลับ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2552
ในประเภทชายเดี่ยว รอบตัดเชือกคู่ที่สอง แอนดี เมอร์เรย์ มือ 3 ของโลกจากสหราชอาณาจักร เปิดบ้านชนกับ แอนดี ร็อดดิก มือ 6 ของรายการชาวอเมริกัน โดยเซตแรกทั้งสองฝ่ายไม่ผิดพลาดในเกมเสิร์ฟของตัวเอง แต่ “เอ-ร็อด” มาสบโอกาสเบรกเกมสำคัญในเกมที่ 10 เอาชนะไปได้ก่อนที่ 6-4 เกม
แต่ลงมาเล่นเซตสอง เมอร์เรย์ ทวงคืนทันควันประเดิมเบรกได้บ้าง จากนั้น ร็อดดิก พยายามเบรกเกมเสิร์ฟของตัวเองคืนมา แต่ เมอร์เรย์ ประคองตัวเก็บเซตคืนมาบ้างที่ 6-4 เกม ในเซตที่สาม “เอ-ร็อด” เจอสถานการณ์ถึง 3 เบรกพอยท์ แต่อาศัยเสิร์ฟหนักขึ้นเล่นหน้าเนตเร็วพลิกกลับมารักษาเอาไว้ได้ขึ้นนำ 1-0
สถานการณ์กลับมาเป็นของ ร็อดดิก บ้างเมื่อ เมอร์เรย์ ตีโฟร์แฮนด์จากท้ายคอร์ตลึกเลยออกไป ทำให้โดนเบรกเกมเสิร์ฟในเกมที่ 4 การแข่งขันดำเนินมาถึงเกมที่ 9 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นเมื่อ ร็อดดิก เจอถึง 3 เบรกพอยท์ก่อนโดน เมอร์เรย์ เบรกจนได้ไล่มา 4-5 เกม ทั้งคู่ออกมารักษาเกมเสิร์ฟจนต้องดวลกันถึงไทเบรก แต่เป็นนักหวดมะกันเฉือนไป 7-6 (9/7) ขึ้นนำ 2-1 เซต
แมตช์ดำเนินมาในเซตที่ 4 ทั้งคู่ยังออกมาเล่นกันได้อย่างสูสีที่สุด จนต้องตัดสินถึงช่วงไทเบรกอีกครั้ง และก็เป็น ร็อดดิก ที่บดเอาชนะไปได้ในที่สุด 3-1 เซต 6-4, 4-6, 7-6 (9/7), 7-6 (7/5) ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยเอาชนะเขาได้ทั้งสองครั้งที่เจอกันในรอบชิงเมื่อปี 2004 และ 2005
ภายหลังการแข่งขัน ร็อดดิก ให้สัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ ถึงเคล็ดลับในความสำเร็จตรงนี้ “ในช่วงปิดฤดูกาล คุณรู้ในสิ่งที่ต้องทำ ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับตัวเอง ให้โอกาสตัวเองทุกอย่าง โดยผมทำงานอย่างหนัก มุ่งมั่นกับทุกสิ่งในเรื่องของการลดน้ำหนัก นอนหลับพักผ่อน ผมให้โอกาสตัวเองในการไปถึงความสำเร็จ และก็หวังว่าจะสามารถชะลอสถิติการคว้าแชมป์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (ที่หวังคว้าแกรนด์สแลม หนที่ 15 ในอาชีพ) เอาไว้ให้ได้”
ด้าน เมอร์เรย์ กล่าวเช่นกัน “ผมมีปีที่ยอดเยี่ยม เล่นได้ในระดับท็อป แต่มันคงเป็นทัศนคติที่ย่ำแย่หากคุณแพ้แค่แมตช์เดียวแล้วยอมเสียแล้ว ดังนั้นผมต้องกลับมาให้เร็วที่สุด ทำงานของตัวเอง ปรับปรุงเพื่อกลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ชิงเงินรางวัลรวมทั้งหมด 12,550,000 ปอนด์ (ประมาณ 690 ล้านบาท) ณ สังเวียนคอร์ตหญ้าที่ ออล อิงแลนด์ คลับ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประจำคืนวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2552
ในประเภทชายเดี่ยว รอบตัดเชือกคู่ที่สอง แอนดี เมอร์เรย์ มือ 3 ของโลกจากสหราชอาณาจักร เปิดบ้านชนกับ แอนดี ร็อดดิก มือ 6 ของรายการชาวอเมริกัน โดยเซตแรกทั้งสองฝ่ายไม่ผิดพลาดในเกมเสิร์ฟของตัวเอง แต่ “เอ-ร็อด” มาสบโอกาสเบรกเกมสำคัญในเกมที่ 10 เอาชนะไปได้ก่อนที่ 6-4 เกม
แต่ลงมาเล่นเซตสอง เมอร์เรย์ ทวงคืนทันควันประเดิมเบรกได้บ้าง จากนั้น ร็อดดิก พยายามเบรกเกมเสิร์ฟของตัวเองคืนมา แต่ เมอร์เรย์ ประคองตัวเก็บเซตคืนมาบ้างที่ 6-4 เกม ในเซตที่สาม “เอ-ร็อด” เจอสถานการณ์ถึง 3 เบรกพอยท์ แต่อาศัยเสิร์ฟหนักขึ้นเล่นหน้าเนตเร็วพลิกกลับมารักษาเอาไว้ได้ขึ้นนำ 1-0
สถานการณ์กลับมาเป็นของ ร็อดดิก บ้างเมื่อ เมอร์เรย์ ตีโฟร์แฮนด์จากท้ายคอร์ตลึกเลยออกไป ทำให้โดนเบรกเกมเสิร์ฟในเกมที่ 4 การแข่งขันดำเนินมาถึงเกมที่ 9 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นเมื่อ ร็อดดิก เจอถึง 3 เบรกพอยท์ก่อนโดน เมอร์เรย์ เบรกจนได้ไล่มา 4-5 เกม ทั้งคู่ออกมารักษาเกมเสิร์ฟจนต้องดวลกันถึงไทเบรก แต่เป็นนักหวดมะกันเฉือนไป 7-6 (9/7) ขึ้นนำ 2-1 เซต
แมตช์ดำเนินมาในเซตที่ 4 ทั้งคู่ยังออกมาเล่นกันได้อย่างสูสีที่สุด จนต้องตัดสินถึงช่วงไทเบรกอีกครั้ง และก็เป็น ร็อดดิก ที่บดเอาชนะไปได้ในที่สุด 3-1 เซต 6-4, 4-6, 7-6 (9/7), 7-6 (7/5) ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยเอาชนะเขาได้ทั้งสองครั้งที่เจอกันในรอบชิงเมื่อปี 2004 และ 2005
ภายหลังการแข่งขัน ร็อดดิก ให้สัมภาษณ์ผ่าน “รอยเตอร์ส” สื่อชั้นนำ ถึงเคล็ดลับในความสำเร็จตรงนี้ “ในช่วงปิดฤดูกาล คุณรู้ในสิ่งที่ต้องทำ ต้องเตรียมความพร้อมสำหรับตัวเอง ให้โอกาสตัวเองทุกอย่าง โดยผมทำงานอย่างหนัก มุ่งมั่นกับทุกสิ่งในเรื่องของการลดน้ำหนัก นอนหลับพักผ่อน ผมให้โอกาสตัวเองในการไปถึงความสำเร็จ และก็หวังว่าจะสามารถชะลอสถิติการคว้าแชมป์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (ที่หวังคว้าแกรนด์สแลม หนที่ 15 ในอาชีพ) เอาไว้ให้ได้”
ด้าน เมอร์เรย์ กล่าวเช่นกัน “ผมมีปีที่ยอดเยี่ยม เล่นได้ในระดับท็อป แต่มันคงเป็นทัศนคติที่ย่ำแย่หากคุณแพ้แค่แมตช์เดียวแล้วยอมเสียแล้ว ดังนั้นผมต้องกลับมาให้เร็วที่สุด ทำงานของตัวเอง ปรับปรุงเพื่อกลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”