เพนนี เพอร์รี ลูกสาวของ เฟรด เพอร์รี ตำนานแชมป์ วิมเบิลดัน ปี 1934-1936 ชาวอังกฤษเชื่อว่าหากคุณพ่อยังมีชีวิตอยู่จะต้องดีใจมากๆถ้าได้เห็น แอนดี เมอร์เรย์ ยอดนักเทนนิสมือ 3 ของโลกก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ชายเดี่ยว วิมเบิลดัน 2009 ในวันอาทิตย์นี้พร้อมสิ้นสุดการรอคอย "แชมป์ในบ้าน" อันยาวนาน 73 ปีของชาวเมืองผู้ดี
หลังจาก ทิม เฮนแมน เลิกเล่นไปในปี 2007 เมอร์เรย์ ขึ้นมาเป็นความหวังของชาวสหราชอาณาจักรที่จะได้เห็นนักเทนนิสเจ้าถิ่นคนแรกในรอบ 73 ปีที่สามารถคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ได้สำเร็จหลังจาก เฟรด เพอร์รี ตำนานผู้ล่วงลับทำไว้ในปี 1936 โดยใน วิมเบิลดัน 2009 ณ สังเวียน ออล อิงแลนด์ กรุงลอนดอน แฟนสักหลาดผู้ดีมีความเชื่อมั่นในตัว เมอร์เรย์ เป็นอย่างมากเนื่องจากหวดจาก ดันเบลน สกอตแลนด์ ผู้นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวโยงกับ เพอร์รี
โดย เมอร์เรย์ วัย 22 ปี ใส่ชุดแข่งขันยี่ห้อ "เฟรด เพอร์รี" นอกจากนี้ยังเกิดทางเหนือของ สกอตแลนด์ ส่วน เพอร์รี เกิดทางเหนือของ วัตฟอร์ด ยิ่งไปกว่านั้น เมอร์เรย์ ยังขึ้นมาเป็นมือ 3 ของโลกในวาระครบรอบ 100 ปี เพอร์รี และ ครบรอบ 75 ปีที่ตำนานผู้ล่วงลับได้แชมป์ วิมเบิลดัน สมัยแรกในปี 1934
แม้แต่ เพนนี เพอร์รี ลูกสาวของ เฟรด เพอร์รี ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน สหรัฐฯ ยังมองว่า เมอร์เรย์ มีหลายสิ่งคล้ายคุณพ่อของเธอเมื่อออกมากล่าวผ่าน เดอะ ซัน ว่า “มีหลายอย่างที่ แอนดี เหมือนคุณพ่อของฉันแม้ว่าเกมเทนนิสและวันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป สิ่งหนึ่งที่สองคนนี้คล้ายกันมากคือทั้งคู่เป็นเด็กที่เติบโตมาในแถบชนบท อีกอย่างคือทั้งคู่ต่างมีหัวใจที่แข็งแกร่ง"
"แม้ว่าคุณพ่อจะไม่เคยมีชุดสวยๆใสเหมือนทุกวันนี้ แต่ท่านต้องดีใจแน่ถ้ารู้ว่า แอนดี ใส่เสื้อยี่ห้อ เฟรด เพอร์รี คว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้" ลูกสาวตำนาน กล่าวพร้อมเผยต่อทันทีว่าฝ่ายจัดการแข่งขันได้โทรศัพท์เชิญเธอมาร่วมงานมอบรางวัลแชมป์ ชายเดี่ยว ในวันอาทิตย์นี้ "ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรตินี้ ฉันหวังว่า แอนดี จะเป็นผู้ชนะในวันนั้นและเราจะได้พบกันเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ฉันเคยพบกับ จูดี เมอร์เรย์ คุณแม่ของเขามาหลายครั้งแต่ยังไม่เคยเจอ แอนดี มาก่อน"
ทั้งนี้ เมอร์เรย์ มีโปรแกรมลงเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศพบกับ ฮวน คาร์ลอส เฟร์เรโร อดีตมือ 1 ของโลกชาวสเปนเป็นคู่ที่ 2 ในเซนเตอร์ คอร์ต (คู่แรก 19.00น.) วันนี้(1ก.ค.) โดยหากมือ 3 ของโลกทะลุไปเป็นแชมป์จะนับเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการแรกของเขานอกจากนี้ยังจะได้เงินรางวัล 850,000 ปอนด์ (ราว 48.5 ล้านบาท) ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลถ้าเทียบกับเงิน 10 ปอนด์ (ราว 570 บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ซึ่ง เพอร์รี ได้รับเมื่อ 73 ปีก่อน