xs
xsm
sm
md
lg

ชุดสุดท้ายคือ “ไม้ในฝัน” / วันปีย์ สัจจมาร์ค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ "The Golf Touch" โดย "วันปีย์ สัจจมาร์ค"

ในช่วงที่ผ่านการเริ่มเล่นกอล์ฟใหม่ๆและพัฒนาเกมส์ของตัวเอง นักกอล์ฟส่วนมากควรได้มีโอกาสลองผิดลองถูกกับไม้กอล์ฟมาสัก 2-3 ชุด ในชุดหลังๆก็น่าจะได้มีการทดลองเปลี่ยนก้าน เติมน้ำหนัก ดัด lie angle เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนกระทั่งแน่ใจว่า “Spec” นี้เหมาะสำหรับฉัน เมื่อนั้นแหละคุณจึงพร้อมจะคิดเรื่องไม้ในฝัน ซึ่งที่จริงแล้วชุดนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ก็ปล่อยให้ฝันต่อไป แต่ถ้าจะมี ต้องคิดดีๆ เพราะอาจจะต้องทุ่มทุนสร้าง

ไม้ในฝันอาจจะเป็นของหายาก แต่ก็ไม่จำเป็น อาจจะเป็นไม้ที่ราคาสูงมาก แต่ก็อีก ไม่จำเป็นเช่นกัน สิ่งที่ต้องมีคือความพึงพอใจของเจ้าของ มีความมั่นใจทุกครั้งที่จับ เป็นชุดที่ทำให้เลิกกระวนกระวาย หรืออยากดู catalog ไม้กอล์ฟใหม่ๆ อารมณ์เข้าใจง่ายๆคือ “ชุดนี้ใช่เลย!”

ชุดในฝันนี้นอกจากใช้ได้ดีแล้ว ถ้าเป็นไปได้ควรสวยถึงสวยมาก สวยขนาดเป็นที่อิจฉาของเพื่อนฝูง คนอื่นเห็นควรอยากเข้ามาลูบๆคลำๆ แต่เกรงใจไม่กล้าขอลองตี ส่วนเจ้าของแค่มีครอบครองก็สุขแล้ว

ผมโชคดีมีอยู่ในมือถึง 2 ชุด Miura เบลด MB5002 limited edition และ Epon AF TOUR ทั้งคู่เสียบก้านยาวตามสั่ง หมุน ”Spine” ไล่ความแข็งต่างกันระหว่างเหล็กยาวและเหล็กสั้น ใส่เฟอรู่ลายเงินและทอง กริพชั่งน้ำหนักก่อนประกอบทุกชิ้นและพัน 2ชั้นให้พอดีมือ

สรุปคือ ทำมา “ตามสั่ง” ในทุกๆลายละเอียด ดังนั้นถ้าตีไม่ดีห้ามโทษไม้ โทษตัวเองอย่างเดียว!

กรณียกเว้นจาก ไม้เริ่มต้น ไม้ในช่วงพัฒนาและไม้ในฝัน มีเป็นไปได้อีกอย่างเดียวคือ “ไม้บังคับใช้” เช่น เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือเป็นโปรในสังกัดของแบรนด์ไม้กอล์ฟ ซึ่งมีความจำเป็นต้องตียี่ห้อนี้เท่านั้น

ถ้าโชคดีก็พอจะมีใจให้ไม้อยู่บ้าง ถ้าโชคร้ายก็ต้องทน หรือกรณีผู้ใหญ่ให้มาถ้าอยากก้าวหน้า ชอบไม่ชอบก็ต้องใช้ ส่วนมากนักกอล์ฟพวกนี้มักมี 2ชุด ชุดที่สองอาจจะเป็นชุดในฝันก็ได้ แต่ต้องเอาไว้ตีกับเพื่อนๆเท่านั้น อย่าคิดว่าเป็นแต่เฉพาะพวกเราๆนะครับ มือระดับต้นๆของโลกที่ให้ “ยี่ห้อ X” ผลิตแต่ปั้มตรา “ยี่ห้อ Y” มาบนใบเหล็ก เพื่อเป็นไปตามข้อตกลงก็มีมาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟระดับไหนก็ตาม ก่อนที่จะไม่มีแรงเล่นกอล์ฟ ผมอยากให้ทุกคนมีไม้ในฝันกันทุกคน เปรียบเสมือนกระบี่คู่ใจของจอมยุทธนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น