นิก โบเลตเทียรี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทนนิสระดับโลกออกมาปฏิเสธไม่ได้มีส่วนปลูกฝังให้นักเทนนิสที่จบจาก อคาเดมี ของเขา "ร้องดัง" เอาเปรียบคู่ต่อสู้
ก่อนหน้านี้วงการเทนนิสหญิงมี โมนิกา เซเลส และ มาเรีย ชาราโปวา สองยอดนักเทนนิสที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงร้อง ก่อนที่จอมร้องดังคนที่ 3 จะเกิดขึ้นเมื่อสามสัปดาห์ก่อนเมื่อสำนักข่าวทั่วโลกแห่เสนอข่าว มิเชล ลาร์เชอร์ เดอ บริโต สาวน้อยวัย 16 ปีจากโปรตุเกสคำรามลั่นตั้งแต่รอบคัดเลือกจนตกรอบ 3 เฟรนช์ โอเพน 2009 โดยหวดสาวจอมร้องดัง 3 คนข้างต้นเป็นศิษย์ร่วมสำนักเทนนิส นิก โบเลตเทียรี ทำให้บุคคลในวงการเทนนิสไล่ตั้งแต่อดีต กรรมการ หรือ ตำนานอย่าง มาร์ตินา นาฟราติโลวา ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแต่เป็นการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อ "เอาเปรียบ" คู่ต่อสู้
ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา นิก โบเลตเทียรี อดีตนักเทนนิสอาชีพซึ่งผันตัวมาเปิดอคาเดมี ใน ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกว่า "ไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่ผมบอกให้เด็กๆในโรงเรียนเทนนิสของผมร้องเสียงดัง ผมเพียงแต่บอกว่าให้พวกเธอปลดปล่อยพลังออกมาให้เต็มที่ เพราะการกักเก็บพลังไว้ภายในระหว่างตีบอลไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย"
ด้าน มิเชล ลาร์เชอร์ เดอ บริโต วัย 16 ปีผลผลิตรุ่นล่าสุดของ นิก โบเลตเทียรี อคาเดมี ที่ออกมาสร้างชื่อเสียงใน ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ กล่าวว่า "ฉันร้องดังมาตั้งแต่เริ่มเล่นเทนนิสแล้ว หากใครจะมาตั้งกฎห้ามร้องดังห้ามคำรามในเวลานี้คงไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ ตัวฉันเพิ่งอายุ 16 ปีเเละยังต้องเรียนรู้อีกมาก บางทีฉันอาจจะควบคุมเสียงร้องได้ถ้าพยายาม แต่ใจจริงไม่อยากทำอะไรแบบนั้นเพราะ โมนิกา เซเลส และ มาเรีย ชาราโปวา ก็ร้องดังแต่ก็ยังก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์ได้"
ทั้งนี้นักเทนนิสจอมร้องดังที่น่าจะถูกจับตามองมากที่สุดใน วิมเบิลดัน 2009 ซึ่งจะประเดิมสนามรอบแรกวันที่ 22 มิถุนายนนี้นอกเหนือจาก ชาราโปวา , เดอ บริโต แล้วยังมี เซเรนา วิลเลียมส์ รวมถึง วีนัส วิลเลียมส์ แชมป์เก่า เนื่องจากถูกอ้างชื่ออยู่ในเนื้อข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ตามสื่อต่างๆอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฝ่ายจัดการแข่งขันและสหพันธ์เทนนิสนานาชาติกำลังหาวิธีทีเหมาะสมมาจัดการกับจอมร้องดังต่อไป