มาร์ตินา นาฟราติโลวา ตำนานเทนนิสเจ้าของ 18 แชมป์แกรนด์สแลมวัย 52 ปีเป็นบุคคลในวงการเทนนิสรายล่าสุดที่ออกมาตราหน้านักหวดที่ชอบส่งเสียงดังในจังหวะตีบอลว่าเป็นพวก "ขี้โกง"
เมื่อคืนวันอังคารที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา นาฟราติโลวา ตำนานชาวเช็กโอนสัญชาติเป็นอเมริกันเดินทางไปที่ โรงแรมพาวิลอง อาร์เมนองเวียง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อรับรางวัล ฟิลลิป ชาตริเยร์ จากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติหรือไอทีเอฟ จากผลงานบำเพ็ญประโยชน์ให่แก่วงการเทนนิสตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และได้มีโอกาสพูดถึงประเด็นการ "ร้องเสียงดัง" ของนักเทนนิสที่กลับมาเป็นที่ถกเถียงกันอีกครั้งหลังจาก มิเชล ลาร์เชอร์ เดอ บริโต สาววัย 16 ปีจากโปรตุเกสร้องลั่นคอร์ต โรลังด์ การ์รอส 2009 ตั้งแต่รอบแรกจนกระเด็นตกรอบ 3 ไป
นาฟราติโลวา เผยกับ ไทม์ส ออนไลน์ (Times Online) ว่า “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไม่เห็นจำเป็นต้องร้องเสียงดังเวลาตีบอล แต่เขาก็ยังโชว์ผลงานได้ดี ผิดกับนักเทนนิสบางคนที่ต้องร้องทุกจังหวะในระดับเสียงที่ดังจนรับไม่ได้ ซึ่งฉันมองว่ามันเป็นการเอาเปรียบและโกงคู่แข่งอย่างจงใจ น่าจะมีใครดำเนินการอะไรบางอย่างเพื่อจัดการกับเรื่องนี้"
"ยังจำได้แม่นสมัยที่ต้องแข่งขันกับ โมนิกา เซเลส แล้วถูกเธอคำรามใส่จนแทบไม่ได้ยินเสียงลูกบอลกระทบพื้น ตอนนั้นฉันพูดกับตนเองว่า 'จะบอกแอมไพร์ดีไหม ทำอย่างไรดี?' เพราะ เซเลส ก็เป็นเพื่อนแต่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างตัวฉันเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ" นาฟราติโลวา ร่ายยาวพร้อมเผยต่ออีกว่าถึงบอกแชร์ แอมไพร์ ไปแล้วแต่ใช่ว่าจะเล่นเทนนิสได้ง่าย" พอไปบอก แอมไพร์ แฟนเทนนิสก็จะเริ่มไม่พอใจหาว่าคุณเรื่องมากและจะหันมาต่อต้านคุณ ดังนั้นใครเสียงดังควรถูกเตือนหรือถูกลงโทษอย่างไรควรเป็นหน้าที่ของแอมไพร์หรือกรรมการประจำทัวร์นาเมนต์ที่จะเข้ามาดูแลไม่ควรให้นักกีฬาออกมาประท้วงหรือให้สัมภาษณ์โจมตีกันเอง"
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านักเทนนิสที่ขึ้นชื่อเรื่องร้องดังไม่ว่าจะเป็น เซเรนา วิลเลียมส์ ,มาเรีย ชาราโปวา (ร้องดัง 101.2 เดซิเบล / เครื่องบิน 120 เดซิเบล) ,โมนิกา เซเลส และล่าสุด มิเชล ลาร์เชอร์ เดอ บริโต เป็นศิษย์ร่วมสถาบัน นิก บอลเลตเทียรี ในสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องการร้องดังนี้น่าจะถูกยกขึ้นมาพูดคุยในที่ประชุมเทนนิสแกรนด์สแลมที่กรุงปารีสเมื่อวันพุธที่ผ่านมา(3มิ.ย.)เรียบร้อยแล้วแต่คงต้องรอผลประชุมอีกครั้ง
