ออร์แลนโด แมจิก เจ็บปวดโดน ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ชู้ตสามแต้มสำคัญช่วย แอลเอ เลเกอร์ส บุกมาต่อเวลาพิชิตชัย 99-91 คะแนน ขึ้นแท่นนำ 3-1 เกม ในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2008/09
ที่ออร์แลนโด : แมจิก ทิ้งโอกาสตามเสมอซีรีส์ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อเก็บความได้เปรียบจากครึ่งแรกไม่ได้ แถมยังมีเจอทีเด็ด ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ส่องสามแต้มทั้งในช่วงเวลาปกติและการต่อเวลาช่วยให้ แอลเอ เลเกอร์ส นับถอยหลังสู่การเป็นแชมป์สมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์
ขุนพลเจ้าบ้านอาจย่ามใจไปหน่อยเมื่อทิ้งห่างตอนจบควอเตอร์ที่สองถึง 49-37 คะแนน โดย เลเกอร์ส เจอปัญหาฟาล์วถ้วนหน้าทั้ง เพา กาซอล, แอนดรูว์ บายนัม หรือว่า ลามาร์ โอดอม แถมทีมเยือนยังชู้ตกันไม่เอาอ่าวฟิลด์โกลลงแค่ 14 จาก 42 ครั้ง (คิดเป็นแค่ 33 เปอร์เซ็นต์) แต่ลงมาลุยต่อครึ่งหลังทุกอย่างกลับตาลปัตร
เมื่อ โคบี ไบรอันท์ นำผู้มาเยือนกลับมาได้อย่างเหลือเชื่อ ควอเตอร์สามควอเตอร์เดียว เลเกอร์ส ทำไป 30 แต้ม ปล่อยให้เจ้าถิ่นได้มาแค่ 14 แต้มเท่านั้น แต่ มิคาเอล พีเอตรุส การ์ดชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ โคลด มาเกเลเล อดีตมิดฟิลด์ทีม “ตราไก่” โชว์ทีเด็ดฉีกหนี โคบี เข้าไปเลย์อัพตามเสมอ 7-5-75 คะแนน ช่วงกลางควอเตอร์ที่ 4
เกมเบียดกันไปมาจนถึงช่วงไคลน์แม็กซ์ท้ายควอเตอร์ ฟิสเชอร์ ซึ่งสองเกมแรกโดนวิจารณ์อย่างหนัก มาสร้างผลงานชิ้นโบแดงส่องสามแต้มลงกลางห่วงให้ เลเกอร์ส ตามเสมอ 87-87 คะแนน ก่อนหมดเวลาแค่ 4.6 วินาที แมจิก เรียกเวลานอก เฮโด เทอร์โกกลู ส่งบอลให้ พีเอตรุส ได้ชู้ตทว่าบอลกระฉอกขอบห่วงออกมา ยังหาผู้ชนะไม่ได้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 5 นาที
เป็นทาง เลเกอร์ส ที่คุมจังหวะเกมได้เหนือกว่า และก็เป็น ฟิสเชอร์ การ์ดรุ่นน้าอีกแล้วที่กระโดดชู้ตเหนือ จาเมียร์ เนลสัน ซุกตาข่ายเป็นสามแต้ม เจ้าบ้านพยายามโต้คืนไป เทอร์โกกลู พลาดยิงไกลแถมตัวเองลื่นล้มปล่อย เพา กาซอล เลี้ยงไปสแลมห่วง ทิ้งห่าง 5 แต้มเมื่อเหลือ 21.6 วินาที
ท้ายเกมเจ้าถิ่นออกอาการหงุดหวิด พีเอตรุส ฟาล์วหนักทุบหลัง กาซอล ขณะที่ฟอร์เวิร์ดทีมชาติสเปนลอยส่งบอลลงห่วง เล่นเอาเกือบจะมีเรื่องกัน ท้ายที่สุด เลเกอร์ส บุกคว้าชัยเกมสำคัญ 99-91 คะแนน ขึ้นแท่นนำซีรีส์ 3-1 เกม แต่เช้าวันจันทร์ตามวัน-เวลาประเทศไทย ฟิล แจ็คสัน ยังต้องพาทีมมาเยือน แมจิก ที่แอมเวย์ อารีนา ในเกมที่ 5 ถ้ายังตัดสินแชมป์ไม่ได้ ซีรีส์จะโยกไปที่ สเตเปิล เซ็นเตอร์ ในสองเกมสุดท้ายของฤดูกาล
โดยเกมนี้ เลเกอร์ส ได้ทาง โคบี ทำไปสูงสุดของเกม 32 แต้ม 7 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ กาซอล เสริม 16 แต้ม 10 รีบาวด์ เทรเวอร์ อริซา เร่งเครื่องได้มา 16 แต้ม 9 รีบาวด์ ฟิสเชอร์ มีเกมที่ยอดเยี่ยมให้ตัวเองและทีม 12 แต้ม 4 รีบาวด์ โอดอม ลงจากม้านั่งสำรองเก็บ 9 แต้ม 5 รีบาวด์ ทำให้เฟรนไชส์มีโอกาสสัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002
ด้านของเจ้าถิ่นมี เทอร์โกกลู ทำสูงสุดของทีม 25 แต้ม 5 รีบาวด์ 3 แอสซิสต์ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เก็บไปถึง 16 แต้ม 21 รีบาวด์ กับอีก 9 บล็อก (เป็นสถิติในรอบชิงแชมป์ NBA) ราเฟอร์ อัลสตัน ดีแค่ครึ่งแรกมี 11 แต้ม ราชาร์ด ลูอิส เครื่องดับได้เพียง 6 แต้ม 7 รีบาวด์ พีเอตรุส ลงมาสอย 15 แต้ม แต่ไม่ดีพอ แมจิก อยู่ในสภาพหลังพิงเชือกแล้ว
ที่ออร์แลนโด : แมจิก ทิ้งโอกาสตามเสมอซีรีส์ไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อเก็บความได้เปรียบจากครึ่งแรกไม่ได้ แถมยังมีเจอทีเด็ด ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ส่องสามแต้มทั้งในช่วงเวลาปกติและการต่อเวลาช่วยให้ แอลเอ เลเกอร์ส นับถอยหลังสู่การเป็นแชมป์สมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์
ขุนพลเจ้าบ้านอาจย่ามใจไปหน่อยเมื่อทิ้งห่างตอนจบควอเตอร์ที่สองถึง 49-37 คะแนน โดย เลเกอร์ส เจอปัญหาฟาล์วถ้วนหน้าทั้ง เพา กาซอล, แอนดรูว์ บายนัม หรือว่า ลามาร์ โอดอม แถมทีมเยือนยังชู้ตกันไม่เอาอ่าวฟิลด์โกลลงแค่ 14 จาก 42 ครั้ง (คิดเป็นแค่ 33 เปอร์เซ็นต์) แต่ลงมาลุยต่อครึ่งหลังทุกอย่างกลับตาลปัตร
เมื่อ โคบี ไบรอันท์ นำผู้มาเยือนกลับมาได้อย่างเหลือเชื่อ ควอเตอร์สามควอเตอร์เดียว เลเกอร์ส ทำไป 30 แต้ม ปล่อยให้เจ้าถิ่นได้มาแค่ 14 แต้มเท่านั้น แต่ มิคาเอล พีเอตรุส การ์ดชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ โคลด มาเกเลเล อดีตมิดฟิลด์ทีม “ตราไก่” โชว์ทีเด็ดฉีกหนี โคบี เข้าไปเลย์อัพตามเสมอ 7-5-75 คะแนน ช่วงกลางควอเตอร์ที่ 4
เกมเบียดกันไปมาจนถึงช่วงไคลน์แม็กซ์ท้ายควอเตอร์ ฟิสเชอร์ ซึ่งสองเกมแรกโดนวิจารณ์อย่างหนัก มาสร้างผลงานชิ้นโบแดงส่องสามแต้มลงกลางห่วงให้ เลเกอร์ส ตามเสมอ 87-87 คะแนน ก่อนหมดเวลาแค่ 4.6 วินาที แมจิก เรียกเวลานอก เฮโด เทอร์โกกลู ส่งบอลให้ พีเอตรุส ได้ชู้ตทว่าบอลกระฉอกขอบห่วงออกมา ยังหาผู้ชนะไม่ได้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 5 นาที
เป็นทาง เลเกอร์ส ที่คุมจังหวะเกมได้เหนือกว่า และก็เป็น ฟิสเชอร์ การ์ดรุ่นน้าอีกแล้วที่กระโดดชู้ตเหนือ จาเมียร์ เนลสัน ซุกตาข่ายเป็นสามแต้ม เจ้าบ้านพยายามโต้คืนไป เทอร์โกกลู พลาดยิงไกลแถมตัวเองลื่นล้มปล่อย เพา กาซอล เลี้ยงไปสแลมห่วง ทิ้งห่าง 5 แต้มเมื่อเหลือ 21.6 วินาที
ท้ายเกมเจ้าถิ่นออกอาการหงุดหวิด พีเอตรุส ฟาล์วหนักทุบหลัง กาซอล ขณะที่ฟอร์เวิร์ดทีมชาติสเปนลอยส่งบอลลงห่วง เล่นเอาเกือบจะมีเรื่องกัน ท้ายที่สุด เลเกอร์ส บุกคว้าชัยเกมสำคัญ 99-91 คะแนน ขึ้นแท่นนำซีรีส์ 3-1 เกม แต่เช้าวันจันทร์ตามวัน-เวลาประเทศไทย ฟิล แจ็คสัน ยังต้องพาทีมมาเยือน แมจิก ที่แอมเวย์ อารีนา ในเกมที่ 5 ถ้ายังตัดสินแชมป์ไม่ได้ ซีรีส์จะโยกไปที่ สเตเปิล เซ็นเตอร์ ในสองเกมสุดท้ายของฤดูกาล
โดยเกมนี้ เลเกอร์ส ได้ทาง โคบี ทำไปสูงสุดของเกม 32 แต้ม 7 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ กาซอล เสริม 16 แต้ม 10 รีบาวด์ เทรเวอร์ อริซา เร่งเครื่องได้มา 16 แต้ม 9 รีบาวด์ ฟิสเชอร์ มีเกมที่ยอดเยี่ยมให้ตัวเองและทีม 12 แต้ม 4 รีบาวด์ โอดอม ลงจากม้านั่งสำรองเก็บ 9 แต้ม 5 รีบาวด์ ทำให้เฟรนไชส์มีโอกาสสัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002
ด้านของเจ้าถิ่นมี เทอร์โกกลู ทำสูงสุดของทีม 25 แต้ม 5 รีบาวด์ 3 แอสซิสต์ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เก็บไปถึง 16 แต้ม 21 รีบาวด์ กับอีก 9 บล็อก (เป็นสถิติในรอบชิงแชมป์ NBA) ราเฟอร์ อัลสตัน ดีแค่ครึ่งแรกมี 11 แต้ม ราชาร์ด ลูอิส เครื่องดับได้เพียง 6 แต้ม 7 รีบาวด์ พีเอตรุส ลงมาสอย 15 แต้ม แต่ไม่ดีพอ แมจิก อยู่ในสภาพหลังพิงเชือกแล้ว