เดินทางมาถึงสถานีสุดท้ายกันแล้วสำหรับศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศประจำฤดูกาล 2008/09 การพบกันระหว่าง แอลเอ เลเกอร์ส กับ ออร์แลนโด แมจิก ระเบิดความแม่นยำเกมแรกกันในวันนี้ และบรรทัดต่อจากนี้คือบทวิเคราะห์วิจารณ์โดย “ลุงแซม” คอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ ว่าทีมใดกันจะเก็บซีรีส์สำเร็จพร้อมคว้าโทรฟีแชมป์มานอนกอด
เกียรติยศต่างกับลิบ
แอลเอ เลเกอร์ส ผ่านเข้าชิง NBA เป็นสมัยที่ 30 หลังหักด่าน เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในรอบชิงแชมป์สายตะวันตก 4-2 เกม และกำลังตามหาแชมป์หนที่ 15 เพื่อไล่หลัง บอสตัน เซลติกส์ (แชมป์ 17 สมัย) ให้กระชั้นขึ้น หลังโดนคู่ปรับตลอดกาลทำแสบเอาไว้เมื่อซีซั่นก่อน ขณะที่ ออร์แลนโด แมจิก พลิกเล็กๆ โค่น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่มีซูเปอร์สตาร์อย่าง เลอบรอน เจมส์ ลงได้ 4-2 เกมเช่นกันทางฝั่งตะวันออก พร้อมเข้าชิงเป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ หนแรกเกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีก่อน แต่ก็ปราชัยย่อยยับให้แก่ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ แบบเกมศูนย์
ประสบการณ์โค้ช
ฟิล แจ็คสัน กำลังมองหาแหวนแชมป์วงที่ 10 ในฐานะโค้ช และวงที่ 12 นับรวมถึงตอนเป็นผู้เล่น ทว่า 6 ปีมาแล้วที่ เลเกอร์ส ไต่ขึ้นบัลลังก์แชมป์ไม่ได้ ขณะที่ สแตน แวน กันดี อาจไม่ประสบความสำเร็จสูงสุดกับ ไมอามี ฮีท แต่เขาทำในสิ่งที่ยอดโค้ชอย่าง ชัค เดลีย์ และ ด็อกซ์ ริเวอร์ส ทำไม่ได้นั่นก็คือการพา แมจิก พ้นอาถรรพ์ร่วงรอบแรกถึง 6 ปี ใช้เวลาแค่สองปีพาทีมเข้ารอบตัดเชือกของสาย (ปี 2007) และทะลุมาถึงรอบชิงอย่างรวดเร็ว
เทียบขุมกำลัง
ในส่วนของแบ็กคอร์ต ดีเร็ค ฟิสเชอร์ การ์ดจ่ายตัวเก๋าค่อนข้างเบียดกับ ราเฟอร์ อัลสตัน ที่แมจิกไปเทรดมาจาก ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ หลังจากที่ จาเมียร์ เนลสัน ปิดเทอมยาวไป ในเพลย์ออฟรอบที่ผ่านๆ มา ฟิสเชอร์ สู้ไม่ได้ทั้ง เดอรอน วิลเลียมส์, แอรอน บรูกส์ และ ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ ขณะที่ อัลสตัน ก้าวขึ้นมาคุมบอลแทน เนลสัน ได้อย่างเหลือเชื่อ แม้ประสิทธิภาพเกมรุกเทียบเคียงไม่ได้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งชู้ตติงการ์ด แม้ คอร์ทนีย์ ลี มีปีรุคกี้อันเหลือเชื่อ แต่จะไปเทียบกับซูเปอร์สตาร์อย่าง โคบี ไบรอันท์ คงใช่เรื่อง
มาดูที่แผงฟรอนท์คอร์ต ตำแหน่งเซ็นเตอร์ไม่ว่าเลเกอร์สจะเอา เพา กาซอล หรือ แอนดรูว์ บายนัม ลงค้ำ ชั่วโมงนี้คงเป็นรอง “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ที่เฉลี่ยถึง 21.7 แต้ม 15.4 รีบาวด์ กับอีก 2.2 บล็อกต่อเกมในช่วงโพสต์ซีซั่น ส่วน พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ราชาร์ด ลูอิส สามารถฉีกตัวเองมายิงวงนอก ซึ่งจะสร้างปัญหาให้ กาซอล หรือ ลามาร์ โอดอม ได้พอสมควร ด้าน สมอล ฟอร์เวิร์ด เฮโด เทอร์โกกลู ถือเป็นคีย์แมนของแมจิก ไม่ง่ายเลยที่ เทรเวอร์ อริซา จะเอาอยู่
อย่างไรก็ตาม บนม้านั่งสำรองตอนนี้ เลเกอร์ส ดูเหลื่อมกว่าเล็กๆ โอดอม, แชนนอน บราวน์, ลุค วอลตัน, ซาชา วูยาซิช และจอร์แดน ฟาร์มาร์ ได้ความมั่นใจคืนมา ขณะที่ทางแมจิก มิคาเอล พีเอตรุส เล่นเอา เลอบรอน หืดจับในรอบที่ผ่านมา แต่ใช่การันตีว่าจะทำสำเร็จอีกครั้งในการชน โคบี ที่ชอบนักยามคับขัน ส่วน แอนโธนีย์ จอห์นสัน กับ เจ.เจ. รีดิก บทบาทอาจไม่มากนัก
จุดอ่อน-จุดแข็ง
เลเกอร์ส ถือเป็นทีมซึ่งมีขุมพลังทรงประสิทธิภาพที่สุด โคบี ใช้จุดแข็งความเป็นซูเปอร์สตาร์ ดึงดับเบิลทีมเป็นตัวล่อเปิดทางให้เพื่อนๆ มีจังหวะทำแต้ม จุดอ่อนเดียวของพวกเขาคือ “ความมั่นใจ” หากวันใดไม่เต็มร้อยก็บ้อท่าเอาง่ายๆ ด้านของแมจิก การเล่นเป็นทีมและทีเด็ดส่องวงนอกที่แม่นยำทำให้มีวันนี้ เป็นที่ทราบดีว่า ฮาวเวิร์ด แข็งแกร่งไม่เป็นรองใครในลีก ทว่า “ซูเปอร์แมน” มีปัญหาเรื่องฟรีโทรล์ (แม้ดีขึ้นในรอบที่ผ่านมา) แถมเสียฟาล์วค่อนข้างเร็ว ถ้า มาร์ซิน กอร์ทแทต ก้าวขึ้นมาทดแทนไม่ได้ นี่จะเป็นบ่อน้ำมันดีๆ นี่เอง
ฟันธง
เลเกอร์ส กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น บรรดาตัวช่วย โคบี เล่นกันด้วยความมั่นใจมากขึ้น แม้ แมจิก กำลังใจมาเพียบ แต่เมื่อลงสนามจริง เลเกอร์ส จะใช้ฝีมือและประสบการณ์ความเก๋าที่เหนือกว่าเก็บซีรีส์ได้ที่ 4-2 เกม หรือถ้าเกิดต้องวัดถึงฎีกา เลเกอร์ส เชื่อค่อนข้างขนมกินได้ เพราะพวกเขาชนะรวด 9 เกมติดที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ 14 ครั้งหลังสุดในเกมตัดสินชะตามีพลาดไปแค่เกมเดียว เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของ เซลติกส์ ตั้งแต่เมื่อปี 1969