คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
พรุ่งนี้แล้วนะครับที่ซีรีส์รอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) จะรูดม่านเกมแรกกัน ปีนี้ฤกษ์งามยามดี แอลเอ เลเกอร์ส ผ่านด่านคู่ต่อสู้ที่แข็งสุดอย่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เข้ามาเจอกับ ออร์แลนโด แมจิก ใครที่อยากดูการวัดฝีมือกันระหว่าง โคบี ไบรอันท์ กับ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ต้องผิดหวังไป แต่การประจันหน้ากันระหว่าง โคบี กับ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
แต่วันนี้ขออนุญาตไม่นำเอาซีรีส์ระหว่าง เลเกอร์ส กับ แมจิก มาแลกเปลี่ยนทรรศนะกัน เนื่องจากมีคิวพรีวิวเกมชิงแชมป์ยัดห่วง NBA กันในหน้าหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ฉบับวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2552 ลองหามาอ่านกันดูได้ แล้วบนเนื้อหาของคอลัมน์ตอนนี้เราจะพูดคุยเรื่องอะไรกันดี ?
เอาเป็นว่าเรามาคุยกันถึงทีมที่เสียท่าในรอบชิงแชมป์สายกันดีกว่า เริ่มจาก “เดนเวอร์ นักเก็ตส์” การต้อนตือ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ แบบบาสฯ คนละชั้นในรอบแรก กอปรกับสอนเชิง ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ในรอบสอง ทำให้ผมอยากดูฟอร์มการเล่นของ นักเก็ตส์ เป็นอย่างยิ่ง และก็ได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ เมื่อเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่บ้านเรายิงสัญญาณถ่ายทอดสดเกมชิงแชมป์สายตะวันตก แทนที่จะเป็นฟากตะวันออกเหมือนหลายๆ ปีที่ผ่านมา
จากการได้นั่งชมทั้ง 6 เกมในซีรีส์ นักเก็ตส์ กับ เลเกอร์ส บอกได้เลยว่าสุดแสนเสียดายแทน นักเก็ตส์ ถ้าเกมแรกไม่มาพลาดช่วงท้าย โคบี คงไม่มีโอกาสพา เลเกอร์ส ไปแก้ตัวในรอบชิงชนะเลิศ เนื่องจาก 5 เกมแรกเป็น นักเก็ตส์ ที่ดูเหนือกว่า แต่ด้วยสถานการณ์หลังพิงฝาตกเป็นรอง 2-3 เกม ลูกทีมของ จอร์จ คาร์ล โดนความกดดันถลาโถม ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ หงุดหงิดและใจร้อนเกินไป ส่วนวงในที่เคยช่วยกันทำมาหากินทั้ง เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ติน และ คริส แอนเดอร์เซน กลับโดน เพา กาซอล กับ ลามาร์ โอดอม เล่นงานป่นปี้ นักเก็ตส์ เลยต้องมานับหนึ่งกันใหม่หลังจบซีซั่น 2008/09
เป็นการบ้านให้ มาร์ค วาร์เคนเตียน ผู้จัดการทั่วไปดีกรีผู้บริการยอดเยี่ยมของ NBA ประจำปีนี้ ต้องไปขบคิดกันต่อในช่วงซัมเมอร์ หลังสร้างผลงานชิ้นโบแดงเทรด อัลเลน ไอเวอร์สัน ให้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ แลกมาซึ่งการ์ดแม่ทัพ บิลล์อัพส์ แถมยังเซ็น “เบิร์ดแมน” แอนเดอร์เซน มาจากตลาดฟรีเอเย่นต์อีกต่างหาก
โดยสิ่งแรกที่ วาร์เคนเตียน น่าจะกำลังคิดอยู่คือการจับ มาร์ติน เซ็นสัญญาแล้วเทรดส่งต่อให้ทีมอื่น เพื่อเป็นการเคลียร์เพดานค่าจ้างให้โล่งขึ้นสำหรับต่อสัญญา แอนเดอร์เซน ที่ชนะใจแฟนๆ นักเก็ตส์ ด้วยลูกบ้าและความขยัน จนทำให้ผมคิดถึง “เดอะ เวิร์ม” เดนนิส ร็อดแมน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ ชิคาโก บูลส์ ประกาศความเกรียงไกรมาแล้วในยุคสมัยหนึ่ง ในส่วนของฟรีเอเย่นต์รายอื่นในทีม ดาห์นเต โจนส์ เด่นในเกมรับมีโอกาสชนะใจบอร์ดบริหาร ส่วน ไลนาส ไคลซา ยังต้องลุ้นหน่อย จากพื้นฐานที่ดี มีโค้ชฝีมือเยี่ยม นักเก็ตส์ รอแต่งเสริมเพิ่มผู้เล่นเข้ามาอีกสักนิด ฤดูกาลหน้าใครก็ประมาททีมนี้ไม่ได้
ไปดูผู้แพ้ของฝั่งตะวันออกกันบ้าง “คาวาเลียร์ส” สร้างผลงานในฤดูกาลปกติชนะถึง 66 แพ้แค่ 16 เกม ทุกสายตาจึงมองมาที่เฟรนไชส์แห่งนี้ที่มี เลอบรอน เจมส์ เป็นตัวชูโรง การเก็บกวาด พิสตันส์ และ แอตแลนตา ฮอว์คส แบบเกมศูนย์ ยิ่งทำให้รัศมีของ “แคฟส์แมน” เปล่งประกาย แต่ท้ายที่สุดโรงละครแห่งความฝันมีอันต้องเก็บฉาก เมื่อโดนทีมเวิร์คและความครบเครื่องทั้งวงนอกวงในของ แมจิก เล่นงานจนต้องรับกับความเป็นจริง
หลังจากที่ปราชัย 2-4 เกม ดูเหมือน เลอบรอน จะผิดหวังเอามากๆ มันก็น่าอยู่หรอก เพราะหากมองรายชื่อผู้เล่น คาวาเลียร์ส ดูดีระดับ B+ แถม ไมค์ บราวน์ พิสูจน์กึ๋นตัวเองได้เยี่ยมจนคว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีมาครอง แต่พอลงสนามเข้าจริงๆ เลอบรอน กลับต้องแบกภาระมากเกินไป โม วิลเลียมส์ ดันโม้จนได้เรื่อง แต่จุดเปราะของ “แคฟส์แมน” เห็นจะเป็นเกมวงใน ซีดรูนาส อิเกาส์คาส เป็นเซ็นเตอร์ที่แม่นยำตามสูตรพวกยุโรปตะวันออก แต่ไม่ดุดันเอาเสียเลย อันแดร์สัน วาเรเจา ก็ไม่คงเส้นคงวา แถม เบน วอลเลซ เล่นได้แค่เกมรับ นี่ก็ร่ำๆ อาจประกาศรีไทร์ในเร็ววันนี้
ดังนั้นสิ่งที่ แดนนี เฟอร์รี ผู้จัดการทั่วไปต้องมาทำการบ้านเห็นจะเป็นการคิดถึงเรื่องแยกทางกับ วอลลี เซอร์บิแอค และ โจ สมิธ ซึ่งเป็น “อันรีสตริก ฟรีเอเย่นต์”ไม่มีอะไรผูกมัด แล้วหาเซ็นเตอร์สหรือผู้เล่นวงในสไตล์ดุดันเข้ามา แต่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องเร่งเจรจาต่อสัญญา เลอบรอน ให้ได้เสียก่อน แม้ซูเปอร์สตาร์เอ่ยปากยังสุขดีในถิ่นควิกเคน โลนส์ อารีนา ทว่าถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปถึงปี 2010 เงินตราและความสำเร็จที่ดีกว่าคงไม่เข้าใครออกใครเหมือนกัน
พรุ่งนี้แล้วนะครับที่ซีรีส์รอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) จะรูดม่านเกมแรกกัน ปีนี้ฤกษ์งามยามดี แอลเอ เลเกอร์ส ผ่านด่านคู่ต่อสู้ที่แข็งสุดอย่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เข้ามาเจอกับ ออร์แลนโด แมจิก ใครที่อยากดูการวัดฝีมือกันระหว่าง โคบี ไบรอันท์ กับ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ต้องผิดหวังไป แต่การประจันหน้ากันระหว่าง โคบี กับ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
แต่วันนี้ขออนุญาตไม่นำเอาซีรีส์ระหว่าง เลเกอร์ส กับ แมจิก มาแลกเปลี่ยนทรรศนะกัน เนื่องจากมีคิวพรีวิวเกมชิงแชมป์ยัดห่วง NBA กันในหน้าหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ฉบับวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2552 ลองหามาอ่านกันดูได้ แล้วบนเนื้อหาของคอลัมน์ตอนนี้เราจะพูดคุยเรื่องอะไรกันดี ?
เอาเป็นว่าเรามาคุยกันถึงทีมที่เสียท่าในรอบชิงแชมป์สายกันดีกว่า เริ่มจาก “เดนเวอร์ นักเก็ตส์” การต้อนตือ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ แบบบาสฯ คนละชั้นในรอบแรก กอปรกับสอนเชิง ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ในรอบสอง ทำให้ผมอยากดูฟอร์มการเล่นของ นักเก็ตส์ เป็นอย่างยิ่ง และก็ได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้ เมื่อเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่บ้านเรายิงสัญญาณถ่ายทอดสดเกมชิงแชมป์สายตะวันตก แทนที่จะเป็นฟากตะวันออกเหมือนหลายๆ ปีที่ผ่านมา
จากการได้นั่งชมทั้ง 6 เกมในซีรีส์ นักเก็ตส์ กับ เลเกอร์ส บอกได้เลยว่าสุดแสนเสียดายแทน นักเก็ตส์ ถ้าเกมแรกไม่มาพลาดช่วงท้าย โคบี คงไม่มีโอกาสพา เลเกอร์ส ไปแก้ตัวในรอบชิงชนะเลิศ เนื่องจาก 5 เกมแรกเป็น นักเก็ตส์ ที่ดูเหนือกว่า แต่ด้วยสถานการณ์หลังพิงฝาตกเป็นรอง 2-3 เกม ลูกทีมของ จอร์จ คาร์ล โดนความกดดันถลาโถม ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ หงุดหงิดและใจร้อนเกินไป ส่วนวงในที่เคยช่วยกันทำมาหากินทั้ง เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ติน และ คริส แอนเดอร์เซน กลับโดน เพา กาซอล กับ ลามาร์ โอดอม เล่นงานป่นปี้ นักเก็ตส์ เลยต้องมานับหนึ่งกันใหม่หลังจบซีซั่น 2008/09
เป็นการบ้านให้ มาร์ค วาร์เคนเตียน ผู้จัดการทั่วไปดีกรีผู้บริการยอดเยี่ยมของ NBA ประจำปีนี้ ต้องไปขบคิดกันต่อในช่วงซัมเมอร์ หลังสร้างผลงานชิ้นโบแดงเทรด อัลเลน ไอเวอร์สัน ให้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ แลกมาซึ่งการ์ดแม่ทัพ บิลล์อัพส์ แถมยังเซ็น “เบิร์ดแมน” แอนเดอร์เซน มาจากตลาดฟรีเอเย่นต์อีกต่างหาก
โดยสิ่งแรกที่ วาร์เคนเตียน น่าจะกำลังคิดอยู่คือการจับ มาร์ติน เซ็นสัญญาแล้วเทรดส่งต่อให้ทีมอื่น เพื่อเป็นการเคลียร์เพดานค่าจ้างให้โล่งขึ้นสำหรับต่อสัญญา แอนเดอร์เซน ที่ชนะใจแฟนๆ นักเก็ตส์ ด้วยลูกบ้าและความขยัน จนทำให้ผมคิดถึง “เดอะ เวิร์ม” เดนนิส ร็อดแมน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ ชิคาโก บูลส์ ประกาศความเกรียงไกรมาแล้วในยุคสมัยหนึ่ง ในส่วนของฟรีเอเย่นต์รายอื่นในทีม ดาห์นเต โจนส์ เด่นในเกมรับมีโอกาสชนะใจบอร์ดบริหาร ส่วน ไลนาส ไคลซา ยังต้องลุ้นหน่อย จากพื้นฐานที่ดี มีโค้ชฝีมือเยี่ยม นักเก็ตส์ รอแต่งเสริมเพิ่มผู้เล่นเข้ามาอีกสักนิด ฤดูกาลหน้าใครก็ประมาททีมนี้ไม่ได้
ไปดูผู้แพ้ของฝั่งตะวันออกกันบ้าง “คาวาเลียร์ส” สร้างผลงานในฤดูกาลปกติชนะถึง 66 แพ้แค่ 16 เกม ทุกสายตาจึงมองมาที่เฟรนไชส์แห่งนี้ที่มี เลอบรอน เจมส์ เป็นตัวชูโรง การเก็บกวาด พิสตันส์ และ แอตแลนตา ฮอว์คส แบบเกมศูนย์ ยิ่งทำให้รัศมีของ “แคฟส์แมน” เปล่งประกาย แต่ท้ายที่สุดโรงละครแห่งความฝันมีอันต้องเก็บฉาก เมื่อโดนทีมเวิร์คและความครบเครื่องทั้งวงนอกวงในของ แมจิก เล่นงานจนต้องรับกับความเป็นจริง
หลังจากที่ปราชัย 2-4 เกม ดูเหมือน เลอบรอน จะผิดหวังเอามากๆ มันก็น่าอยู่หรอก เพราะหากมองรายชื่อผู้เล่น คาวาเลียร์ส ดูดีระดับ B+ แถม ไมค์ บราวน์ พิสูจน์กึ๋นตัวเองได้เยี่ยมจนคว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีมาครอง แต่พอลงสนามเข้าจริงๆ เลอบรอน กลับต้องแบกภาระมากเกินไป โม วิลเลียมส์ ดันโม้จนได้เรื่อง แต่จุดเปราะของ “แคฟส์แมน” เห็นจะเป็นเกมวงใน ซีดรูนาส อิเกาส์คาส เป็นเซ็นเตอร์ที่แม่นยำตามสูตรพวกยุโรปตะวันออก แต่ไม่ดุดันเอาเสียเลย อันแดร์สัน วาเรเจา ก็ไม่คงเส้นคงวา แถม เบน วอลเลซ เล่นได้แค่เกมรับ นี่ก็ร่ำๆ อาจประกาศรีไทร์ในเร็ววันนี้
ดังนั้นสิ่งที่ แดนนี เฟอร์รี ผู้จัดการทั่วไปต้องมาทำการบ้านเห็นจะเป็นการคิดถึงเรื่องแยกทางกับ วอลลี เซอร์บิแอค และ โจ สมิธ ซึ่งเป็น “อันรีสตริก ฟรีเอเย่นต์”ไม่มีอะไรผูกมัด แล้วหาเซ็นเตอร์สหรือผู้เล่นวงในสไตล์ดุดันเข้ามา แต่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคงต้องเร่งเจรจาต่อสัญญา เลอบรอน ให้ได้เสียก่อน แม้ซูเปอร์สตาร์เอ่ยปากยังสุขดีในถิ่นควิกเคน โลนส์ อารีนา ทว่าถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปถึงปี 2010 เงินตราและความสำเร็จที่ดีกว่าคงไม่เข้าใครออกใครเหมือนกัน