คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ก่อนเปิดซีซั่น 2008/09 หลายคนอยากเห็น “รีแมตช์” คู่ชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เป็นทาง แอลเอ เลเกอร์ส ล้างตา บอสตัน เซลติกส์ แต่พอจบฤดูกาลปกติวี่แวว เลเกอร์ส แย่งแชมป์กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เด่นตระหง่านเป็นตัวเลือกเดียวในสายตาบรรดานักวิเคราะห์วิจารณ์ ทว่าหากมันไม่เกิดขึ้นก็มิใช่เรื่องพลิกโผถล่มทลายแต่อย่างใด
เลอบรอน เจมส์ โชว์ฟอร์มสมราคาผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) นำพลพรรค “แคฟส์แมน” ประกาศศักดาไล่อัด ดีทรอยต์ พิสตันส์ กับ แอตแลนตา ฮอว์คส แบบเกมศูนย์ กรุยทางเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายตะวันออกตามคาด แต่การมาเจอกับ ออร์แลนโด แมจิก ไม่มีทางที่เหตุการณ์แฮตทริก “4-0 เกม” จะเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งผมมองว่าการเจอกับ แมจิก ยากกว่าต้องดวลแม่น “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ เสียด้วยซ้ำ
คงไม่ปฏิเสธว่า คาวาเลียร์ส ก่อร่างสร้างทีมได้ยอดเยี่ยมในปีนี้ การมาของ โม วิลเลียมส์ ทำให้ เลอบรอน ไม่ต้องคอยถือบอลอยู่คนเดียวเพราะจะทำให้โดนคีย์ได้ง่าย แถม เดลอนเต เวสต์ ยังมาปล่อยทีเด็ดถูกที่ถูกเวลา กอปรกับวงใน อันแดร์สัน วาเรเจา ผนึกกำลัง “บิ๊กซี” ซีดรูนาส อิเกาส์คาส ได้ดีกว่าที่คิด แต่มันไม่ง่ายหรอกที่ลูกทีมของ ไมค์ บราวน์ จะผ่านด่าน แมจิก ง่ายๆ ดีไม่ดีอาจโดนเด็กๆ ของ สแตน แวน กันดี เล่นกลใส่
หลายคนบอกว่าไม่มีใครในลีกหยุดยั้ง เลอบรอน และผมก็ไม่คิดว่า เฮโด เทอร์โกกลู หรือ ราชาร์ด ลูอิส จะหยุด เลอบรอน ได้ตลอดทั้งเกม แต่ก็หาใช่จะชะลอไม่ได้ แวน กันดี ทราบดีและคงไม่เสียเวลาไปดับเบิลทีม ขอให้ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ซ้อนวงในให้ดี “ซูเปอร์แมน” อย่าไปเสียฟาล์วง่ายๆ เหมือนรอบที่ผ่านมา ก็พอถูไถในเกมรับ และถ้า เลอบรอน ทำได้เพียงแค่ค่าเฉลี่ย 30.7 คะแนน เหมือนกับที่พบ แมจิก มาสามเกมในฤดูกาลปกติ “แคฟส์แมน” งานเข้าแน่นอน
เนื่องจากมีไม่กี่ครั้งที่ โม (วิลเลียมส์), อิเกาส์คาส หรือ วาเรเจา จะผีเข้าทำแต้มเป็นกอบเป็นกำพร้อมๆ กัน ในเมื่อบอลส่วนใหญ่อยู่ในมือ เลอบรอน เป็นหลัก ผิดกับทาง แมจิก ที่ตัวจริงทั้ง 5 คนมีโอกาสทำแต้มสองหลักถ้วนหน้า จากบอลที่กระจายไปทั่วไม่ขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง อีกทั้ง แมจิก ครบเครื่องทั้งรุก-รับ ฮาวเวิร์ด มาตรฐานทำแต้มควบรีบาวด์ “ดับเบิล-ดับเบิล” สบายๆ แม้รูปร่างเป็นรอง “บิ๊กซี” แต่เซ็นเตอร์จากยุโรปตะวันออกสไตล์ไม่ดุดัน ดังนั้น “ซูเปอร์แมน” สามารถเซฟฟาล์วได้ ถ้าคู่แข่งเกิดไม่แม่นด้วยแล้วยิ่งสบายใหญ่
ส่วนอาวุธหนัก แมจิก เป็นทีมที่ชู้ตสามแต้มแม่นยำที่สุดในลีก เคยส่องไกลใส่ห่วง แคฟส์ มาแล้ว 13 จาก 27 ครั้ง ในเกมที่พวกเขาชู้ตฟิลด์โกลลงห่วงคิดเป็นถึงร้อยละ 54 ถ้าเกิด เทอร์โกกลู ทำได้ตามมาตรฐาน คาวาเลียร์ส อาจน้ำตาตกเหมือนกับที่ เซลติกส์ เพิ่งโดนมาในรอบสอง
ไปดูทางฝั่งตะวันตก แอลเอ เลเกอร์ส เสียเหงื่อมากกว่าที่คิดโดน ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ไร้ เหยา หมิง ตั้งแต่เกมที่ 4 ยื้อถึงฎีกา (เกม 7) มาเจอกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในรอบชิงแชมป์สาย ถ้าลูกทีมของ ฟิล แจ็คสัน ยังเล่นกันแบบสามวันดีสี่วันไข้ เด็กๆ ของ จอร์จ คาร์ล พร้อมพ่นพิษใส่ทันที แม้ตามสถิติแล้ว นักเก็ตส์ ค่อนข้างเป็นเชือกกล้วยสำหรับ เลเกอร์ส เจอกันในฤดูกาลปกติแพ้ถึง 3 จาก 4 เกม ส่วนในเพลย์ออฟ เลเกอร์ส ชนะได้ตั้ง 13 จากการเจอกันมา 15 หน
จริงๆ แล้วชื่อชั้นตัวผู้เล่น เลเกอร์ส ดีที่สุดใน NBA และฟรอนท์คอร์ตของพวกเขาไม่น่าเป็นรองใครในเมื่อคุณมี “ทวิน ทาวเวอร์” อย่าง เพา กาซอล และ แอนดรูว์ บายนัม ปักหลักแถมยังมี ลามาร์ โอดอม เป็นตัวเสริม แต่กลับกลายเป็นว่า กาซอล เล่นเกมรุกได้ไม่สุดๆ บายนัม ยังไม่แกร่งพอ โอดอม ก็ไม่คงเส้นคงวาอีก ดีที่สำรองอย่าง เทรเวอร์ อริซา แจ้งเกิดได้เต็มตัว
แต่ถ้าสถานการณ์ไม่พลิกฟื้น เลเกอร์ส เจอกับปัญหาแน่เพราะฟรอนท์คอร์ต นักเก็ตส์ ก็แกร่งไม่แพ้กัน เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ตินส์, คาร์เมโล แอนโธนีย์ ที่ผ่านมาประสานงานได้สุดยอด คริส (เบิร์ดแมน) แอนเดอร์เซน ขยันอย่างม้าศึก แถมแบ็คคอร์ตถ้าไม่นับ โคบี ต้องถือว่า ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ เหนือกว่า ดีเร็ค ฟิสเชอร์ เป็นกระบุง เรียกว่าขืนปล่อยให้ นักเก็ตส์ มาฉกเกมที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ ในอารมณ์ที่ผู้เล่น เลเกอร์ส ยังดูล้าๆ คงไม่ง่ายไปทวงคืนถึง เป็ปซี เซ็นเตอร์
ก่อนเปิดซีซั่น 2008/09 หลายคนอยากเห็น “รีแมตช์” คู่ชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เป็นทาง แอลเอ เลเกอร์ส ล้างตา บอสตัน เซลติกส์ แต่พอจบฤดูกาลปกติวี่แวว เลเกอร์ส แย่งแชมป์กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เด่นตระหง่านเป็นตัวเลือกเดียวในสายตาบรรดานักวิเคราะห์วิจารณ์ ทว่าหากมันไม่เกิดขึ้นก็มิใช่เรื่องพลิกโผถล่มทลายแต่อย่างใด
เลอบรอน เจมส์ โชว์ฟอร์มสมราคาผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) นำพลพรรค “แคฟส์แมน” ประกาศศักดาไล่อัด ดีทรอยต์ พิสตันส์ กับ แอตแลนตา ฮอว์คส แบบเกมศูนย์ กรุยทางเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายตะวันออกตามคาด แต่การมาเจอกับ ออร์แลนโด แมจิก ไม่มีทางที่เหตุการณ์แฮตทริก “4-0 เกม” จะเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งผมมองว่าการเจอกับ แมจิก ยากกว่าต้องดวลแม่น “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ เสียด้วยซ้ำ
คงไม่ปฏิเสธว่า คาวาเลียร์ส ก่อร่างสร้างทีมได้ยอดเยี่ยมในปีนี้ การมาของ โม วิลเลียมส์ ทำให้ เลอบรอน ไม่ต้องคอยถือบอลอยู่คนเดียวเพราะจะทำให้โดนคีย์ได้ง่าย แถม เดลอนเต เวสต์ ยังมาปล่อยทีเด็ดถูกที่ถูกเวลา กอปรกับวงใน อันแดร์สัน วาเรเจา ผนึกกำลัง “บิ๊กซี” ซีดรูนาส อิเกาส์คาส ได้ดีกว่าที่คิด แต่มันไม่ง่ายหรอกที่ลูกทีมของ ไมค์ บราวน์ จะผ่านด่าน แมจิก ง่ายๆ ดีไม่ดีอาจโดนเด็กๆ ของ สแตน แวน กันดี เล่นกลใส่
หลายคนบอกว่าไม่มีใครในลีกหยุดยั้ง เลอบรอน และผมก็ไม่คิดว่า เฮโด เทอร์โกกลู หรือ ราชาร์ด ลูอิส จะหยุด เลอบรอน ได้ตลอดทั้งเกม แต่ก็หาใช่จะชะลอไม่ได้ แวน กันดี ทราบดีและคงไม่เสียเวลาไปดับเบิลทีม ขอให้ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ซ้อนวงในให้ดี “ซูเปอร์แมน” อย่าไปเสียฟาล์วง่ายๆ เหมือนรอบที่ผ่านมา ก็พอถูไถในเกมรับ และถ้า เลอบรอน ทำได้เพียงแค่ค่าเฉลี่ย 30.7 คะแนน เหมือนกับที่พบ แมจิก มาสามเกมในฤดูกาลปกติ “แคฟส์แมน” งานเข้าแน่นอน
เนื่องจากมีไม่กี่ครั้งที่ โม (วิลเลียมส์), อิเกาส์คาส หรือ วาเรเจา จะผีเข้าทำแต้มเป็นกอบเป็นกำพร้อมๆ กัน ในเมื่อบอลส่วนใหญ่อยู่ในมือ เลอบรอน เป็นหลัก ผิดกับทาง แมจิก ที่ตัวจริงทั้ง 5 คนมีโอกาสทำแต้มสองหลักถ้วนหน้า จากบอลที่กระจายไปทั่วไม่ขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง อีกทั้ง แมจิก ครบเครื่องทั้งรุก-รับ ฮาวเวิร์ด มาตรฐานทำแต้มควบรีบาวด์ “ดับเบิล-ดับเบิล” สบายๆ แม้รูปร่างเป็นรอง “บิ๊กซี” แต่เซ็นเตอร์จากยุโรปตะวันออกสไตล์ไม่ดุดัน ดังนั้น “ซูเปอร์แมน” สามารถเซฟฟาล์วได้ ถ้าคู่แข่งเกิดไม่แม่นด้วยแล้วยิ่งสบายใหญ่
ส่วนอาวุธหนัก แมจิก เป็นทีมที่ชู้ตสามแต้มแม่นยำที่สุดในลีก เคยส่องไกลใส่ห่วง แคฟส์ มาแล้ว 13 จาก 27 ครั้ง ในเกมที่พวกเขาชู้ตฟิลด์โกลลงห่วงคิดเป็นถึงร้อยละ 54 ถ้าเกิด เทอร์โกกลู ทำได้ตามมาตรฐาน คาวาเลียร์ส อาจน้ำตาตกเหมือนกับที่ เซลติกส์ เพิ่งโดนมาในรอบสอง
ไปดูทางฝั่งตะวันตก แอลเอ เลเกอร์ส เสียเหงื่อมากกว่าที่คิดโดน ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ไร้ เหยา หมิง ตั้งแต่เกมที่ 4 ยื้อถึงฎีกา (เกม 7) มาเจอกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในรอบชิงแชมป์สาย ถ้าลูกทีมของ ฟิล แจ็คสัน ยังเล่นกันแบบสามวันดีสี่วันไข้ เด็กๆ ของ จอร์จ คาร์ล พร้อมพ่นพิษใส่ทันที แม้ตามสถิติแล้ว นักเก็ตส์ ค่อนข้างเป็นเชือกกล้วยสำหรับ เลเกอร์ส เจอกันในฤดูกาลปกติแพ้ถึง 3 จาก 4 เกม ส่วนในเพลย์ออฟ เลเกอร์ส ชนะได้ตั้ง 13 จากการเจอกันมา 15 หน
จริงๆ แล้วชื่อชั้นตัวผู้เล่น เลเกอร์ส ดีที่สุดใน NBA และฟรอนท์คอร์ตของพวกเขาไม่น่าเป็นรองใครในเมื่อคุณมี “ทวิน ทาวเวอร์” อย่าง เพา กาซอล และ แอนดรูว์ บายนัม ปักหลักแถมยังมี ลามาร์ โอดอม เป็นตัวเสริม แต่กลับกลายเป็นว่า กาซอล เล่นเกมรุกได้ไม่สุดๆ บายนัม ยังไม่แกร่งพอ โอดอม ก็ไม่คงเส้นคงวาอีก ดีที่สำรองอย่าง เทรเวอร์ อริซา แจ้งเกิดได้เต็มตัว
แต่ถ้าสถานการณ์ไม่พลิกฟื้น เลเกอร์ส เจอกับปัญหาแน่เพราะฟรอนท์คอร์ต นักเก็ตส์ ก็แกร่งไม่แพ้กัน เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ตินส์, คาร์เมโล แอนโธนีย์ ที่ผ่านมาประสานงานได้สุดยอด คริส (เบิร์ดแมน) แอนเดอร์เซน ขยันอย่างม้าศึก แถมแบ็คคอร์ตถ้าไม่นับ โคบี ต้องถือว่า ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ เหนือกว่า ดีเร็ค ฟิสเชอร์ เป็นกระบุง เรียกว่าขืนปล่อยให้ นักเก็ตส์ มาฉกเกมที่สเตเปิล เซ็นเตอร์ ในอารมณ์ที่ผู้เล่น เลเกอร์ส ยังดูล้าๆ คงไม่ง่ายไปทวงคืนถึง เป็ปซี เซ็นเตอร์