คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ใครที่ยังคาใจอยากเห็น แอลเอ เลเกอร์ส กับ บอสตัน เซลติกส์ ไปรีแมตช์กันในรอบชิงชนะเลิศ ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2008/09 คงต้องลุ้นกันหน่อย เมื่อสองยักษ์ใหญ่เปิดหัวเพลย์ออฟรอบสอง ด้วยความพ่ายแพ้ (ซะงั้น)
เริ่มกันที่ฝั่งตะวันออก หลังจากปิดซีรีส์ดุเดือด ต่อเวลารวมๆ 7 ครั้งเป็นประวัติศาสตร์เพลย์ออฟ กว่าจะหักเขา “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ ลงได้ 4-3 เกม ปรากฏว่า บอสตัน เซลติกส์ สตาร์ทรอบตัดเชือกคอนเฟอเรนซ์ ไม่สวยเอาเสียเลย พลิกล็อกเล็กๆ พ่ายคาถิ่นแก่ ออร์แลนโด แมจิก 90-95 คะแนน
ที่ผมบอกว่าคู่นี้พลิกล็อกเล็กๆ เนื่องจากลูกทีมของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส มีเวลาพักแค่วันเดียวเองก่อนเปิด ทีดี แบงค์นอร์ธ การ์เดน รับมือ แมจิก ที่ได้ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด กลับมาจากโทษแบน อีกทั้งทีมอันดับ 3 ของฝั่งสภาพสดกว่าเพราะมีเวลาพักมากกว่า 2-3 วันจากการเผด็จศึก ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ได้ใน 6 เกม
ซึ่งเกมแรกที่ผ่านไป เรย์ อัลเลน การ์ดจอมเก๋าวัย 33 ปี หมดแรงข้าวต้มหรืออย่างไร ผิดฟอร์มมีเพียง 9 แต้ม ชู้ตฟิลด์โกลลงแค่ 2 จากโอกาส 12 หน นี่เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในความล้มเหลว แต่เหตุผลหลักเลยที่ทำให้ เซลติกส์ อาจต้องหืดจับเล่นถึงฎีกาไปเรื่อยๆ คือ การปิดเทอมยาวของ เควิน การ์เนตต์ มีอาการระบมที่เข่า การขาดหายไปของฟอร์เวิร์ดระดับออล-สตาร์ ทำให้ “แชมป์เก่า” ขาดไปเฉลี่ยเกือบ 16 คะแนนต่อเกม แถม “เกมรับ” เจอปัญหาอย่างชัดเจน
ในเกมกับบูลส์ ที่ผมเห็นคือ “บิ๊ก เบบี้” เกล็น เดวิส เสริมงาน เคนดริก เพอร์กินส์ ยอดเยี่ยม แต่ แบรด มิลเลอร์ ผนวกรวม โยอาคิม โนอาห์ เทียบไม่ได้กับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด สตาร์ของแมจิก แม้ เพอร์กินส์ พอรีบาวด์แข่งได้แต่การเจาะทำคะแนนวงในแทบไม่ได้เลย
สำหรับความพ่ายแพ้เป็นประเดิมของ เซลติกส์ ไม่ได้ทำให้นักวิเคราะห์วิจารณ์สะดุ้งโหยง เพราะฤดูกาลก่อนหากจำกันได้ เด็กๆ ของ ริเวอร์ส หืดเหมือนกันในรอบแรกกว่าจะผ่าน แอตแลนตา ฮอว์คส แต่พอเริ่มเข้าที่ เซลติกส์ ก็ก้าวขึ้นสู่แชมป์สมัยที่ 18 อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเมื่อซีซั่นก่อนพวกเขามี “เค.จี.” เป็นหัวใจสำคัญ มาปีนี้เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไหนจะ แมจิก ทีมที่แม่นสามแต้มสุดใน NBA ขวางทาง ด่านหน้า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เต็งแชมป์ปีนี้ยังรอล้างแค้นอยู่อีก
พูดถึง “แคฟส์แมน” ขอแสดงความยินดีด้วยกับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ที่คู่ควรของ เลอบรอน เจมส์ ปีนี้ต้องยอมรับว่าซูเปอร์สตาร์วัย 24 ปี พัฒนาฝีมือขึ้นมากมาย สภาพร่างกายสดและแกร่งเกินใครจะต้าน นี่เป็นโอกาสดีที่สุดแล้วก็ว่าได้สำหรับการเขยิบใกล้แชมป์ NBA เมื่อ คาวาเลียร์ส แต่งเติมองค์ประกอบสนับสนุนแม่ทัพของทีมได้ดี
โดยในรอบสองลูกทีมของ ไมค์ บราวน์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีรอเจอ ฮอว์คส ซึ่ง ณ วันปั่นต้นฉบับการแข่งขันยังไม่มีขึ้น แต่ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกถล่มทลายหรือสนิมเกาะมือ แคฟส์ ไม่น่าพลาดเปิดบ้านทุบ “เหยี่ยวน้อย” ที่เพิ่งกรำศึกกับ ไมอามี ฮีท มา 7 เกม ทั้งนี้ผมกล้าฟันธงว่า คาวาเลียร์ส จะเข้าชิงแชมป์สายแน่นอน เนื่องจากผลงานนอกบ้านของ ฮอว์คส (16-27 เกม) ไม่ดีพอฉกแม้สักเกมเดียวจาก ควิกเคน โลนส์ อารีนา
ข้ามไปดูฝั่งตะวันตกบ้าง แอลเอ เลเกอร์ส เล่นเอาแฟนๆ สะท้านปราชัยคา สเตเปิล เซ็นเตอร์ ต่อ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ 92-100 คะแนน การได้พักร่วมสัปดาห์หลังสอนบาสฯ ยูทาห์ แจซซ์ 4-1 เกม ทำให้ความต่อเนื่องขาดหายไปหรือไม่? เป็นคำถามที่น่าคิด แต่ผมอยากให้เครดิต ริค อเดลมัน มากกว่า โค้ชผู้นี้ปรับเกมได้เยี่ยมหลังมีบทเรียนปราชัย เลเกอร์ส เรียบวุธทั้ง 4 เกมในฤดูกาลปกติ
มาคราวนี้ เหยา หมิง เซ็นเตอร์ชาวจีนขุนฟอร์มเก่งได้ถึง 28 แต้ม แถมตัวช่วยอย่าง หลุยส์ สโคลา, แอรอน บรูกส์, เชน แบตติเยร์ และ รอน อาร์เตสท์ ทำงานไม่ขาดตกบกพร่อง แต่นี่เพิ่งเกมแรก เลเกอร์ส ไม่ยอมหยุดเส้นทางแค่รอบสองง่ายๆ แน่นอน ส่วนอีกคู่หนึ่งนั้นต้องกาหัวไว้เลยสำหรับเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทีมม้ามืดในการลุ้นแชมป์ ออกนำ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แล้ว 1-0 เกม ไว้โอกาสหน้าเราจะมาคุยถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในซีรีส์นี้ เนื่องจากพื้นที่ตอนนี้หมดลงพอดี
ใครที่ยังคาใจอยากเห็น แอลเอ เลเกอร์ส กับ บอสตัน เซลติกส์ ไปรีแมตช์กันในรอบชิงชนะเลิศ ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2008/09 คงต้องลุ้นกันหน่อย เมื่อสองยักษ์ใหญ่เปิดหัวเพลย์ออฟรอบสอง ด้วยความพ่ายแพ้ (ซะงั้น)
เริ่มกันที่ฝั่งตะวันออก หลังจากปิดซีรีส์ดุเดือด ต่อเวลารวมๆ 7 ครั้งเป็นประวัติศาสตร์เพลย์ออฟ กว่าจะหักเขา “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ ลงได้ 4-3 เกม ปรากฏว่า บอสตัน เซลติกส์ สตาร์ทรอบตัดเชือกคอนเฟอเรนซ์ ไม่สวยเอาเสียเลย พลิกล็อกเล็กๆ พ่ายคาถิ่นแก่ ออร์แลนโด แมจิก 90-95 คะแนน
ที่ผมบอกว่าคู่นี้พลิกล็อกเล็กๆ เนื่องจากลูกทีมของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส มีเวลาพักแค่วันเดียวเองก่อนเปิด ทีดี แบงค์นอร์ธ การ์เดน รับมือ แมจิก ที่ได้ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด กลับมาจากโทษแบน อีกทั้งทีมอันดับ 3 ของฝั่งสภาพสดกว่าเพราะมีเวลาพักมากกว่า 2-3 วันจากการเผด็จศึก ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ได้ใน 6 เกม
ซึ่งเกมแรกที่ผ่านไป เรย์ อัลเลน การ์ดจอมเก๋าวัย 33 ปี หมดแรงข้าวต้มหรืออย่างไร ผิดฟอร์มมีเพียง 9 แต้ม ชู้ตฟิลด์โกลลงแค่ 2 จากโอกาส 12 หน นี่เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในความล้มเหลว แต่เหตุผลหลักเลยที่ทำให้ เซลติกส์ อาจต้องหืดจับเล่นถึงฎีกาไปเรื่อยๆ คือ การปิดเทอมยาวของ เควิน การ์เนตต์ มีอาการระบมที่เข่า การขาดหายไปของฟอร์เวิร์ดระดับออล-สตาร์ ทำให้ “แชมป์เก่า” ขาดไปเฉลี่ยเกือบ 16 คะแนนต่อเกม แถม “เกมรับ” เจอปัญหาอย่างชัดเจน
ในเกมกับบูลส์ ที่ผมเห็นคือ “บิ๊ก เบบี้” เกล็น เดวิส เสริมงาน เคนดริก เพอร์กินส์ ยอดเยี่ยม แต่ แบรด มิลเลอร์ ผนวกรวม โยอาคิม โนอาห์ เทียบไม่ได้กับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด สตาร์ของแมจิก แม้ เพอร์กินส์ พอรีบาวด์แข่งได้แต่การเจาะทำคะแนนวงในแทบไม่ได้เลย
สำหรับความพ่ายแพ้เป็นประเดิมของ เซลติกส์ ไม่ได้ทำให้นักวิเคราะห์วิจารณ์สะดุ้งโหยง เพราะฤดูกาลก่อนหากจำกันได้ เด็กๆ ของ ริเวอร์ส หืดเหมือนกันในรอบแรกกว่าจะผ่าน แอตแลนตา ฮอว์คส แต่พอเริ่มเข้าที่ เซลติกส์ ก็ก้าวขึ้นสู่แชมป์สมัยที่ 18 อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเมื่อซีซั่นก่อนพวกเขามี “เค.จี.” เป็นหัวใจสำคัญ มาปีนี้เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไหนจะ แมจิก ทีมที่แม่นสามแต้มสุดใน NBA ขวางทาง ด่านหน้า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เต็งแชมป์ปีนี้ยังรอล้างแค้นอยู่อีก
พูดถึง “แคฟส์แมน” ขอแสดงความยินดีด้วยกับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ที่คู่ควรของ เลอบรอน เจมส์ ปีนี้ต้องยอมรับว่าซูเปอร์สตาร์วัย 24 ปี พัฒนาฝีมือขึ้นมากมาย สภาพร่างกายสดและแกร่งเกินใครจะต้าน นี่เป็นโอกาสดีที่สุดแล้วก็ว่าได้สำหรับการเขยิบใกล้แชมป์ NBA เมื่อ คาวาเลียร์ส แต่งเติมองค์ประกอบสนับสนุนแม่ทัพของทีมได้ดี
โดยในรอบสองลูกทีมของ ไมค์ บราวน์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีรอเจอ ฮอว์คส ซึ่ง ณ วันปั่นต้นฉบับการแข่งขันยังไม่มีขึ้น แต่ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกถล่มทลายหรือสนิมเกาะมือ แคฟส์ ไม่น่าพลาดเปิดบ้านทุบ “เหยี่ยวน้อย” ที่เพิ่งกรำศึกกับ ไมอามี ฮีท มา 7 เกม ทั้งนี้ผมกล้าฟันธงว่า คาวาเลียร์ส จะเข้าชิงแชมป์สายแน่นอน เนื่องจากผลงานนอกบ้านของ ฮอว์คส (16-27 เกม) ไม่ดีพอฉกแม้สักเกมเดียวจาก ควิกเคน โลนส์ อารีนา
ข้ามไปดูฝั่งตะวันตกบ้าง แอลเอ เลเกอร์ส เล่นเอาแฟนๆ สะท้านปราชัยคา สเตเปิล เซ็นเตอร์ ต่อ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ 92-100 คะแนน การได้พักร่วมสัปดาห์หลังสอนบาสฯ ยูทาห์ แจซซ์ 4-1 เกม ทำให้ความต่อเนื่องขาดหายไปหรือไม่? เป็นคำถามที่น่าคิด แต่ผมอยากให้เครดิต ริค อเดลมัน มากกว่า โค้ชผู้นี้ปรับเกมได้เยี่ยมหลังมีบทเรียนปราชัย เลเกอร์ส เรียบวุธทั้ง 4 เกมในฤดูกาลปกติ
มาคราวนี้ เหยา หมิง เซ็นเตอร์ชาวจีนขุนฟอร์มเก่งได้ถึง 28 แต้ม แถมตัวช่วยอย่าง หลุยส์ สโคลา, แอรอน บรูกส์, เชน แบตติเยร์ และ รอน อาร์เตสท์ ทำงานไม่ขาดตกบกพร่อง แต่นี่เพิ่งเกมแรก เลเกอร์ส ไม่ยอมหยุดเส้นทางแค่รอบสองง่ายๆ แน่นอน ส่วนอีกคู่หนึ่งนั้นต้องกาหัวไว้เลยสำหรับเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทีมม้ามืดในการลุ้นแชมป์ ออกนำ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แล้ว 1-0 เกม ไว้โอกาสหน้าเราจะมาคุยถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในซีรีส์นี้ เนื่องจากพื้นที่ตอนนี้หมดลงพอดี
