คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ใครที่ถวิลหารอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำฤดูกาล 2008/09 เป็นการเจอกันระหว่าง เลอบรอน เจมส์ ปะทะฝีมือ โคบี ไบรอันท์!!! ไม่ใช่สิ...ต้องเป็น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ดวลแม่น แอลเอ เลเกอร์ส (เฮ้อ) คิดเปลี่ยนใจเหมือนผมบ้างหรือยัง มาเชียร์ให้มีซีรีส์ ออร์แลนโด แมจิก เผชิญหน้า เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เกิดขึ้นกันดีกว่า
ว่ากันถึงเกมชิงแชมป์สายของ NBA ต้องบอกว่าปีนี้สนุกดุเดือด ใครที่มองว่า ออร์แลนโด แมจิก ฟลุคที่ผ่านด่าน “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ มาได้ คงหยุดความคิดดังกล่าวไปแล้ว เมื่อลูกทีมของ สแตน แวน กันดี รวมพลังกันทำผลงานยอดเยี่ยมเล่นเอา เลอบรอน และพลพรรค “แคฟส์แมน” ลากเลือดถึงวันนี้ ส่วนทางฝั่งตะวันตก เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ของเค้าดีจริง ต้อนตือ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ และ ดัลลัฟ แมฟเวอร์ริกส์ มาในสองรอบก่อนหน้านี้ นี่ถ้ายังเก็บทีมเต็งอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส ลงได้อีก ก็จะผ่านเข้ารอบชิงอย่างเต็มภาคภูมิ
ปีก่อนๆ เราได้ดูเกมชิงแชมป์สายตะวันออกเสียเป็นส่วนใหญ่ คราวนี้เคเบิลทีวียักษ์ใหญ่บ้านเราได้ลิขสิทธิ์เป็นเกมใหญ่ของฝั่งตะวันตก ซึ่งที่ติดตามมา 4 เกม ผมมองว่า นักเก็ตส์ เสียหายที่ไม่ได้นำ 3-1 เกม เนื่องจากลูกทีมของ จอร์จ คาร์ล ข่มทางเด็กๆ ของ ฟิล แจ็คสัน อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นแผงฟรอนท์คอร์ต หรือ แบ็กคอร์ต
โดยเฉพาะเมื่อผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ จะสังเกตได้ว่า “บาสฯ ชายเดี่ยว” แบกทีมไม่ได้อีกต่อไป โคบี คนเดียวเข็น เลเกอร์ส แทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้า เพา กาซอล ยังไม่หนักแน่นวงใน เกรงว่าอาถรรพ์ไร้ “ชาคิว โอนีล” แล้วไม่ได้แชมป์ คงต้องติดตรึงใจ โคบี อยู่ต่อไป
หลายคนพยายามมองหาปัจจัย เอ็กซ์ (X) ที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการไขให้ผ่านซีรีส์นี้ไปได้ หลายคนเคยมองว่า แอนดรูว์ บายนัม จะประสานเกมวงในกับ กาซอล ทะลวงกำแพงเกมรับอันหนาแน่นของ นักเก็ตส์ ให้ทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าดูโอร่าง 7 ฟุตทั้งสองคนโดน เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ติน หรือว่า คริส เฮนเดอร์เซน ผลัดกันลงมาบดขยี้แย่งรีบาวด์ โดยเฉพาะรายหลัง ความขยันตั้งใจของ “เดอะ เบิร์ดแมน” ได้ใจแฟนๆ จริงๆ
แต่ปัจจัยสำคัญที่แท้จริงของ นักเก็ตส์ ผมมองว่า เจ.อาร์.สมิธ เป็นกุญแจดอกนั้น จำได้ติดตาตอน เลเกอร์ส พยายามเขยิบไล่จี้ในเกมที่ 4 หมอนี่เป็นต้องส่องสามแต้มจัดไปไม่ให้เสียตลอด ถ้าเกมรับชัวร์กว่านี้และเล่นได้คงเส้นคงวาอีกสักหน่อย แบ็กคอร์ต นักเก็ตส์ คงไม่เป็นรองใครในลีก แค่นี้ โคบี ก็ปวดเศียรเวียนเกล้า เพราะรุ่นเก๋าอย่าง ดีเร็ค ฟิสเชอร์ จับทาง ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ หรือว่า สมิธ ไม่อยู่เลย
ข้ามฟากไปตะวันออกเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า “บาสฯ ชายเดี่ยว” ต่อกรลำบากเมื่อเจอ “ทีมเวิร์ค” มันทำให้ผมนึกถึงคำให้สัมภาษณ์ของ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ ขึ้นมาทันที ตำนาน ฟีนิกซ์ ซันส์ กล่าวก่อนซีรีส์จะเริ่มขึ้นว่า แมจิก มีขุมกำลังที่เพียบพร้อมกว่า คาวาเลียร์ส และเป็นทีมที่เยี่ยมสุดของ NBA ณ เวลานี้ แต่ประเด็นหลังผมยังตะขิดตะขวงใจเมื่อได้เห็นฟอร์ม นักเก็ตส์
สำหรับ 3 เกมที่ผ่านพ้นไป ถ้าไม่มีลูกชู้ตสามแต้มปาฏิหาริย์ของ เลอบรอน ในวินาทีสุดท้ายของเกมที่ 2 ซีรีส์จะกลายเป็น แมจิก ออกนำ 3-0 เกม แต่แค่ตามหลัง 1-2 เกม ผมว่า “แคฟส์แมน” ก็มึนตึ้บแล้ว วงใน ซีดรูนาส อิเกาส์คาส กับ อันแดร์สัน วาเรเจา เอา “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ไม่อยู่ทั้งที่รูปร่างได้เปรียบ แบ็กคอร์ต โม วิลเลียมส์ ได้แต่โม้ สู้ความเก๋าเกมของ ราเฟอร์ อัลสตัน ไม่ได้ แถมทาง แมจิก ยังมีปัจจัย X จากม้านั่งสำรอง มิคาเอล พีเอตรุส ซึ่งซีรีส์นี้ทำเฉลี่ย 13 แต้ม และความฟิตของ “แอร์ ฟรานซ์” ปั่นป่วน เลอบรอน ได้พอสมควร
เมื่อสำรองดีเช่นนี้ ไม่ง่ายแน่นอนครับที่ คาวาเลียร์ส จะพลิกสถานการณ์ เนื่องจาก แมจิก ทีมนี้ตัวจริงทั้ง 5 คนมีโอกาสสกอร์สองหลักในทุกๆ เกม ยิ่งมาได้ความช่วยเหลือจาก พีเอตรุส ด้วยแล้ว เครียดๆๆๆ แทน เลอบรอน
ใครที่ถวิลหารอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำฤดูกาล 2008/09 เป็นการเจอกันระหว่าง เลอบรอน เจมส์ ปะทะฝีมือ โคบี ไบรอันท์!!! ไม่ใช่สิ...ต้องเป็น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ดวลแม่น แอลเอ เลเกอร์ส (เฮ้อ) คิดเปลี่ยนใจเหมือนผมบ้างหรือยัง มาเชียร์ให้มีซีรีส์ ออร์แลนโด แมจิก เผชิญหน้า เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เกิดขึ้นกันดีกว่า
ว่ากันถึงเกมชิงแชมป์สายของ NBA ต้องบอกว่าปีนี้สนุกดุเดือด ใครที่มองว่า ออร์แลนโด แมจิก ฟลุคที่ผ่านด่าน “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ มาได้ คงหยุดความคิดดังกล่าวไปแล้ว เมื่อลูกทีมของ สแตน แวน กันดี รวมพลังกันทำผลงานยอดเยี่ยมเล่นเอา เลอบรอน และพลพรรค “แคฟส์แมน” ลากเลือดถึงวันนี้ ส่วนทางฝั่งตะวันตก เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ของเค้าดีจริง ต้อนตือ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ และ ดัลลัฟ แมฟเวอร์ริกส์ มาในสองรอบก่อนหน้านี้ นี่ถ้ายังเก็บทีมเต็งอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส ลงได้อีก ก็จะผ่านเข้ารอบชิงอย่างเต็มภาคภูมิ
ปีก่อนๆ เราได้ดูเกมชิงแชมป์สายตะวันออกเสียเป็นส่วนใหญ่ คราวนี้เคเบิลทีวียักษ์ใหญ่บ้านเราได้ลิขสิทธิ์เป็นเกมใหญ่ของฝั่งตะวันตก ซึ่งที่ติดตามมา 4 เกม ผมมองว่า นักเก็ตส์ เสียหายที่ไม่ได้นำ 3-1 เกม เนื่องจากลูกทีมของ จอร์จ คาร์ล ข่มทางเด็กๆ ของ ฟิล แจ็คสัน อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นแผงฟรอนท์คอร์ต หรือ แบ็กคอร์ต
โดยเฉพาะเมื่อผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ จะสังเกตได้ว่า “บาสฯ ชายเดี่ยว” แบกทีมไม่ได้อีกต่อไป โคบี คนเดียวเข็น เลเกอร์ส แทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้า เพา กาซอล ยังไม่หนักแน่นวงใน เกรงว่าอาถรรพ์ไร้ “ชาคิว โอนีล” แล้วไม่ได้แชมป์ คงต้องติดตรึงใจ โคบี อยู่ต่อไป
หลายคนพยายามมองหาปัจจัย เอ็กซ์ (X) ที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการไขให้ผ่านซีรีส์นี้ไปได้ หลายคนเคยมองว่า แอนดรูว์ บายนัม จะประสานเกมวงในกับ กาซอล ทะลวงกำแพงเกมรับอันหนาแน่นของ นักเก็ตส์ ให้ทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าดูโอร่าง 7 ฟุตทั้งสองคนโดน เนเน ฮิลาริโอ, เคนยอน มาร์ติน หรือว่า คริส เฮนเดอร์เซน ผลัดกันลงมาบดขยี้แย่งรีบาวด์ โดยเฉพาะรายหลัง ความขยันตั้งใจของ “เดอะ เบิร์ดแมน” ได้ใจแฟนๆ จริงๆ
แต่ปัจจัยสำคัญที่แท้จริงของ นักเก็ตส์ ผมมองว่า เจ.อาร์.สมิธ เป็นกุญแจดอกนั้น จำได้ติดตาตอน เลเกอร์ส พยายามเขยิบไล่จี้ในเกมที่ 4 หมอนี่เป็นต้องส่องสามแต้มจัดไปไม่ให้เสียตลอด ถ้าเกมรับชัวร์กว่านี้และเล่นได้คงเส้นคงวาอีกสักหน่อย แบ็กคอร์ต นักเก็ตส์ คงไม่เป็นรองใครในลีก แค่นี้ โคบี ก็ปวดเศียรเวียนเกล้า เพราะรุ่นเก๋าอย่าง ดีเร็ค ฟิสเชอร์ จับทาง ชอนซีย์ บิลล์อัพส์ หรือว่า สมิธ ไม่อยู่เลย
ข้ามฟากไปตะวันออกเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า “บาสฯ ชายเดี่ยว” ต่อกรลำบากเมื่อเจอ “ทีมเวิร์ค” มันทำให้ผมนึกถึงคำให้สัมภาษณ์ของ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ ขึ้นมาทันที ตำนาน ฟีนิกซ์ ซันส์ กล่าวก่อนซีรีส์จะเริ่มขึ้นว่า แมจิก มีขุมกำลังที่เพียบพร้อมกว่า คาวาเลียร์ส และเป็นทีมที่เยี่ยมสุดของ NBA ณ เวลานี้ แต่ประเด็นหลังผมยังตะขิดตะขวงใจเมื่อได้เห็นฟอร์ม นักเก็ตส์
สำหรับ 3 เกมที่ผ่านพ้นไป ถ้าไม่มีลูกชู้ตสามแต้มปาฏิหาริย์ของ เลอบรอน ในวินาทีสุดท้ายของเกมที่ 2 ซีรีส์จะกลายเป็น แมจิก ออกนำ 3-0 เกม แต่แค่ตามหลัง 1-2 เกม ผมว่า “แคฟส์แมน” ก็มึนตึ้บแล้ว วงใน ซีดรูนาส อิเกาส์คาส กับ อันแดร์สัน วาเรเจา เอา “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ไม่อยู่ทั้งที่รูปร่างได้เปรียบ แบ็กคอร์ต โม วิลเลียมส์ ได้แต่โม้ สู้ความเก๋าเกมของ ราเฟอร์ อัลสตัน ไม่ได้ แถมทาง แมจิก ยังมีปัจจัย X จากม้านั่งสำรอง มิคาเอล พีเอตรุส ซึ่งซีรีส์นี้ทำเฉลี่ย 13 แต้ม และความฟิตของ “แอร์ ฟรานซ์” ปั่นป่วน เลอบรอน ได้พอสมควร
เมื่อสำรองดีเช่นนี้ ไม่ง่ายแน่นอนครับที่ คาวาเลียร์ส จะพลิกสถานการณ์ เนื่องจาก แมจิก ทีมนี้ตัวจริงทั้ง 5 คนมีโอกาสสกอร์สองหลักในทุกๆ เกม ยิ่งมาได้ความช่วยเหลือจาก พีเอตรุส ด้วยแล้ว เครียดๆๆๆ แทน เลอบรอน