เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส รับเป็นงานท้าทายยิ่งในการพาต้นสังกัดพลิกสถานการณ์กลับมาล้มซีรีส์ใส่ ออร์แลนโด แมจิก เพื่อกรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA)
แม้ เลอบรอน เจมส์ ผู้เล่นทรงคุณค่าลีก (MVP) ทำเฉลี่ย 42.3 แต้ม 7.3 รีบาวด์ กับอีก 7.3 แอสซิสต์ ในซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันออก ทว่า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ทีมที่มีสถิติชนะ 66 แพ้แค่ 16 เกมในฤดูกาลปกติ กลับตกเป็นรอง ออร์แลนโด แมจิก (อันดับ 3 ของฝั่ง) 1-3 เกม และไม่สามารถแพ้ได้อีกแล้วในซีรีส์ผู้ชนะ 4 จาก 7 เกมได้ผ่านเข้ารอบ
เมื่อเข้าสู่สถานการณ์เข้าด้ายเข้าเข็ม เลอบรอน ให้สัมภาษณ์กับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “ผมต้องก้าวขึ้นมาเจอความท้าทาย และผมก็คิดว่าตัวเองต้องลุย ต้องนำความเป็นผู้นำออกมาดั่งที่พูดเอาไว้ ดังนั้นผมพร้อมออกไปลุย และก็คิดว่าเพื่อนๆ คงพร้อมเช่นกัน”
ด้าน ไมค์ บราวน์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี ยังมีความเชื่อใน “แคฟส์แมน” เช่นกัน “นี่อาจเป็นซีรีส์ที่คุณถามหามันอยู่ ออร์แลนโด (แมจิก) แค่เล่นได้เหนือกว่าเราเล็กน้อย แต่ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่น ยังรู้สึกได้ถึงการประสานงานกันในทีม ผมคิดว่าเรายังมีโอกาสเป็นผู้ชนะในซีรีส์นี้”
ในส่วนของ แมจิก ที่ต้องการกลับสู่รอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง หลังจากประวัติศาสตร์หนเดียวของเฟรนไชส์ เกิดขึ้นเมื่อปี 1995 สมัยที่ ชาคิว โอนีล ปะทะฝีมือ ฮาคีม โอลาจูวอน และก็เป็น ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่เผด็จศึก แมจิก ราบคาบ 4-0 เกม ผงาดคว้าแชมป์ไปครอง
โดย ราชาร์ด ลูอิส ฟอร์เวิร์ดดาวเด่นของแมจิก เผย “เราขึ้นนำ 3-1 เกม แต่ยังไม่สามารถผ่อนคลายกันได้ ทุกอย่างยังสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เรายังต้องเดินทางไปเยือนคลีฟแนลนด์ เพื่อพยายามมองหาโอกาสปิดฉากลงให้ได้”
ซึ่งแนวโน้มที่ แมจิก จะเข้าชิงหนที่ 2 มีอยู่มากทีเดียว เนื่องจาก 62 ปีของเพลย์ออฟ มีอยู่ 190 ทีมที่ขึ้นหน้า 3-1 เกม แล้วได้เข้าชิงชนะเลิศ NBA ถึง 182 เกม และแนวโน้มของ แมจิก ดีไม่น้อยเนื่องจากเอาชนะ คาวาเลียร์ส ได้ 10 จาก 14 ครั้งหลังที่เจอกัน เป็นหนึ่งใน 3 ทีม (รวม แอลเอ เลเกอร์ส, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส) ที่ปราบพยศ “แคฟส์แมน” ถึงควิกเคน โลนส์ อารีนา ในฤดูกาลนี้
แม้ เลอบรอน เจมส์ ผู้เล่นทรงคุณค่าลีก (MVP) ทำเฉลี่ย 42.3 แต้ม 7.3 รีบาวด์ กับอีก 7.3 แอสซิสต์ ในซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันออก ทว่า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ทีมที่มีสถิติชนะ 66 แพ้แค่ 16 เกมในฤดูกาลปกติ กลับตกเป็นรอง ออร์แลนโด แมจิก (อันดับ 3 ของฝั่ง) 1-3 เกม และไม่สามารถแพ้ได้อีกแล้วในซีรีส์ผู้ชนะ 4 จาก 7 เกมได้ผ่านเข้ารอบ
เมื่อเข้าสู่สถานการณ์เข้าด้ายเข้าเข็ม เลอบรอน ให้สัมภาษณ์กับ “เอพี” สื่อชั้นนำ “ผมต้องก้าวขึ้นมาเจอความท้าทาย และผมก็คิดว่าตัวเองต้องลุย ต้องนำความเป็นผู้นำออกมาดั่งที่พูดเอาไว้ ดังนั้นผมพร้อมออกไปลุย และก็คิดว่าเพื่อนๆ คงพร้อมเช่นกัน”
ด้าน ไมค์ บราวน์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี ยังมีความเชื่อใน “แคฟส์แมน” เช่นกัน “นี่อาจเป็นซีรีส์ที่คุณถามหามันอยู่ ออร์แลนโด (แมจิก) แค่เล่นได้เหนือกว่าเราเล็กน้อย แต่ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่น ยังรู้สึกได้ถึงการประสานงานกันในทีม ผมคิดว่าเรายังมีโอกาสเป็นผู้ชนะในซีรีส์นี้”
ในส่วนของ แมจิก ที่ต้องการกลับสู่รอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง หลังจากประวัติศาสตร์หนเดียวของเฟรนไชส์ เกิดขึ้นเมื่อปี 1995 สมัยที่ ชาคิว โอนีล ปะทะฝีมือ ฮาคีม โอลาจูวอน และก็เป็น ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่เผด็จศึก แมจิก ราบคาบ 4-0 เกม ผงาดคว้าแชมป์ไปครอง
โดย ราชาร์ด ลูอิส ฟอร์เวิร์ดดาวเด่นของแมจิก เผย “เราขึ้นนำ 3-1 เกม แต่ยังไม่สามารถผ่อนคลายกันได้ ทุกอย่างยังสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เรายังต้องเดินทางไปเยือนคลีฟแนลนด์ เพื่อพยายามมองหาโอกาสปิดฉากลงให้ได้”
ซึ่งแนวโน้มที่ แมจิก จะเข้าชิงหนที่ 2 มีอยู่มากทีเดียว เนื่องจาก 62 ปีของเพลย์ออฟ มีอยู่ 190 ทีมที่ขึ้นหน้า 3-1 เกม แล้วได้เข้าชิงชนะเลิศ NBA ถึง 182 เกม และแนวโน้มของ แมจิก ดีไม่น้อยเนื่องจากเอาชนะ คาวาเลียร์ส ได้ 10 จาก 14 ครั้งหลังที่เจอกัน เป็นหนึ่งใน 3 ทีม (รวม แอลเอ เลเกอร์ส, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส) ที่ปราบพยศ “แคฟส์แมน” ถึงควิกเคน โลนส์ อารีนา ในฤดูกาลนี้
