ฟุตบอลลีกทั่วทั้งยุโรปทราบโฉมหน้าแชมป์กันไปหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อรอชมเกม “ดรีม ไฟนัล” ณ สังเวียนแข้ง สตาดิโอ โอลิมปิกโก ในวันพุธที่ 27 พฤษภาคมนี้ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าและอดีตแชมป์ 3 สมัย ที่กำลังลุ้นเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก พบกับ บาร์เซโลนา โคตรทีมเกมบุกจาก ลา ลีกา สเปน อดีตแชมป์ 2 สมัย ที่หวังหยุดยุครุ่งเรืองของสโมสรจากอังกฤษ ที่พาเหรดเข้าชิง 5 ปีติดต่อกันเข้าให้แล้ว
ก่อนเกมหลายฝ่ายกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะสังเวียนแข้งแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดก็เกม โรมา ปะทะ แมนฯยู เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอิตาลี จึงวางมาตรการเข้มกฎเหล็กที่สำคัญคือผู้ชมจะต้องโชว์บัตรประชาชนผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ให้ตรงกับบนตั๋วไม่เช่นนั้นจะอดเข้าสนาม พร้อมแบนของมึนเมาทั้งก่อนและหลังเกม บวกด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 1,500 นาย และยังมีนอกเครื่องแบบที่ปะปนเข้าไปในกลุ่มแฟนบอลด้วย
ที่สำคัญนัดนี้ มัสซิโม บูซัคกา ผู้ตัดสินชาวสวิส จะลงทำหน้าที่ชี้ขาด ซึ่งน่าจะสร้างความอุ่นใจให้กับ แมนฯยู เพราะเคยลงเป่าในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่บุกไปเฉือนชนะ ปอร์โต 1-0 จากลูกยิงไกล 40 กว่าหลาของ คริสเตียโน โรนัลโด เคยมีประสบการณ์ในนัดชิง ยูฟา คัพ ปี 2007 และ ยูโร 2008 รอบตัดเชือกที่ เยอรมัน ชนะ ตุรกี 3-2
แมตช์นี้ แมนฯยู จะสวมยูนิฟอร์มสีขาวทั้งชุด เพราะหวังจะซ้ำรอยนัดชิง คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1991 ที่เอาชนะ บาร์เซโลนา 2-1 จากการเหมายิงของ มาร์ค ฮิวจ์ส ทั้งคู่ไม่เคยเจอกันในนัดชิงถ้วยแชมเปียนส์ลีกมาก่อน ล่าสุดก็เมื่อฤดูกาลที่แล้วในรอบรองชนะเลิศ “ผีแดง” เฉือนชนะไปด้วยประตูรวม 2 นัด 1-0 พร้อมก้าวไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
บรรดาเกจิต่างยกให้ แมนฯ ยู จะป้องกันแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ เพราะความเก๋าและการวางหมากของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่พาทีมเข้าชิง 2 ครั้งคว่ำได้ทั้ง บาเยิร์น มิวนิก ในปี 1999 และเชลซี ในปีที่แล้ว ซึ่งน่าจะงัดกลยุทธ์ที่เคยใช้ได้ผลกับ บาร์เซโลนา ในรอบตัดเชือกเมื่อฤดูกาลที่แล้วมาใช้อีกครั้งคือปล่อยให้คู่ต่อสู้บุกและอดทนรอจังหวะอย่างใจเย็น
ไมเคิล คาร์ริก กองกลางห้องเครื่อง แมนฯยู เผยว่า “ทิศทางที่ บาร์เซโลนา เล่นสามารถเก็บบอลเอาไว้กับตัวนานมาก ดังนั้นเราจะต้องเล่นอย่างอดทนและตั้งรับให้ดีรวมถึงมีสมาธิกับเกมตลอดเวลา เพราะเหมือนเป็นการต่อสู้ทางจิตใจกันเล็กน้อยด้วย และเราค่อยโจมตีพวกเขาในช่วงเวลาที่ถูกต้อง”
เฟอร์กี ต้องลุ้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังคนสำคัญที่วืดลงสนามร่วมเดือน และไม่ได้ลงเรียกความฟิตในเกม พรีเมียร์ชิป นัดสุดท้ายที่ส่งชุด บี บุกอัด ฮัลล์ ซิตี 1-0 อย่างที่หวังเอาไว้ในตอนแรก ส่วน ดาร์เรน เฟลตเชอร์ มิดฟิลด์ผึ้งงานหมดสิทธิ์แน่นอน เพราะติดโทษแบน ระบบน่าจะเป็น 4-3-3 ปาร์ค จี ซอง แข้งปิดทองหลังพระ ที่ไม่มีชื่อนัดชิงในเกมที่แล้วน่าจะได้ออกสตาร์ทำเกมกราบขวา เวย์น รูนีย์ ลากเลื้อยด้านซ้ายและ โรนัลโด ยืนกองหน้าตัวเป้า ส่วน คาร์ลอส เตเบซ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นแค่ตัวสำรองก่อน
ส่วน บาร์เซโลนา ที่กำลังลุ้น 3 แชมป์เช่นเดียวกับ แมนฯยู ไม่เสียเปรียบ เพราะพักนักเตะชุดใหญ่เหมือนกันในเกม ลา ลีกา นัดรองสุดท้ายที่แพ้ โอซาซูนา คาบ้าน 0-1 มีเพียง ซามูเอล เอโต กองหน้าแคเมอรูน ที่ได้ออกสตาร์ท แต่ปัญหาที่ เป๊ป กวาดิโอลา กุนซือหนุ่ม ต้องกุมขมับก็คือในเกมรับที่ปกติก็รั่วอยู่แล้ว ยังจะไม่มี เอริค อบิดัล แบ็กซ้ายติดโทษแบน และ ดาเนียล อัลเวส แบ็กขวาบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ ราฟาเอล มาร์เกซ และ กาเบรียล มิลิโต ทำให้ต้องปรับกระบวนท่ากันวุ่นและยังไม่รู้ด้วยว่าจะออกมาในรูปแบบใด
มีความเป็นไปได้ที่ คาร์เลส ปูโยล จะโยกไปเล่นแบ็กซ้าย ให้ ยายา ตูเร ถอยจากกองกลางมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เคราร์ด ปิเก ที่จะได้ปะทะกับทีมเก่า แมนฯยูไนเต็ด ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะเป็น ซิลวินโญ ส่วนแนวรุกมีข่าวดีเมื่อ เธียร์รี อองรี และ อันเดรียส อิเนียสตา ฟิตกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว พร้อมประสานงานกับ เอโต, ลิโอเนล เมสซี และ ชาบี เฮอร์นานเดซ ที่ซัดกระจายไปถึง 155 ประตูรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้
นอกจากนี้ ไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนพูดถึงก็คือ การดวลกันของ 2 นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก โรนัลโด ปะทะ เมสซี โดยเฉพาะรายหลังมีสถิติไม่สู้ดีคือไม่เคยยิงสโมสรจาก อังกฤษ ได้เลย แถมเล่นไม่ออกในเกมรอบตัดเชือกที่ผ่านกับ เชลซี ด้วย ร้อนถึง อิเนียสตา ต้องมาแก้ต่างแทน “ผมได้แต่หัวเราะตอนได้ยินเรื่องพวกนี้ ถ้าคุณประเมิน เมสซี ต่ำไปแค่เปอร์เซนต์เดียวจะต้องเสียใจแน่นอน สำหรับผมแล้วเขาเก่งที่สุดในโลก สิ่งที่เขาทำกับลูกฟุตบอลไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำได้ ตอนฝึกซ้อมเราเห็นกันจนชินแล้ว”
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
ผีแชมป์ 2-1