ทัพ "กระต่ายแก้ว" บางกอก กล๊าส เอฟซี โชว์ฟอร์มร้อนแรงเปิดบ้านเฉือน "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 ยึดตำแหน่งจ่าฝูงไทยลีกคืนจาก "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 คู่บิ๊กแมตช์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2552 ระหว่างยอดทีมจากเมืองปทุมธานี "กระต่ายแก้ว" บางกอก กล๊าส เอฟซี เปิดบ้านสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ คลอง 6 ต้อนรับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด สโมสรดังจากเมืองนนท์
โดยเกมนี้ถือเป็นศึกนัดสำคัญระหว่างศิษย์เก่าคือทีม บางกอก กล๊าส ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นอดีตนักเตะของสโมสรธนาคารกรุงไทย ต้องทำศึกกับ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม ที่ลงทำหน้าที่หัวหน้าโค้ชอย่างเป็นทางการนัดแรกให้กับทีม "กิเลนเมืองนนท์"
เริ่มเกมทั้งสองฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าหากันอย่างสนุก กระทั่งนาทีที่ 7 ของการแข่งขันมีจังหวะวัดใจ อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินของเกมนี้ เมื่อ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ดาวยิงทีมเยือนจ่ายบอลให้ ซัวมาโฮโร ยายา เพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ อำนาจ แก้วเขียว เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าถิ่นจะตามมาสกัดทั้งบอล และคน แต่ผู้ตัดสินยังใจแข็งไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ เรียกเสียงโห่จากแฟนบอล "อุลตรา" เมืองทองฯ พอสมควร
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 14 "เดอะ แร็บบิท" เกือบได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ พลวัฒน์ วังฆะฮาด แบ็กขวาจอมบุกแอบหาจังหวะซัดไกลระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงเรียดพื้นสนาม เล่นเอา กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมเยือนเกือบพลาด ด้วยการปัดบอลไปชนเสา ทว่ายังตามมาตะครุบไว้ได้
อย่างไรก็ตามจากนั้น เมืองทอง ดูเหมือนจะครองเกมได้มากกว่า รวมทั้งตัดโอกาสทำเกมรุกของ "กระต่ายแก้ว" ไปในตัว นาทีที่ 30 ทีมเยือนเกือบได้ประตูนำอีกครั้ง หลัง กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายด่านเจ้าถิ่น วิ่งออกมาชนกับ สุริยา ดอมไธสง ผู้เล่นทีมเยือนจนตัวเองล้มคว้ำไปในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นการชาร์จผู้รักษาประตู ปล่อยให้เล่นต่อไป และ สุริยา จึงอาศัยช่วงชุลมุนเร่งซัดบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นโด่งย้อยออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 38 อนาวิน จูจีน ดาวเตะคนดังของทีมเจ้าถิ่นออก โดยส่ง ศรัณย์ พรหมแก้ว ลงมาทำหน้าที่แทน ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้เกมรุกที่เคยเป็นจุดเด่นของทีมกลับมาวูบวาบเท่าใดนัก กระทั่งจบ 45 นาทีแรก บางกอก กล๊าส เอฟซี จึงยังเสมอกับ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 0-0
เข้าสู่ช่วงครึ่งเวลาหลัง บางกอก กล๊าส เอฟซี จัดการถอด อาจายี จีเบนกา ซามูเอล ดาวยิงตัวเก่งที่แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมออก แล้วส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ลงมาเล่นแทน ทว่ากลับเป็น เมืองทอง ที่มีลุ้นได้เสียวอีกครั้งจากจังหวะเทกตัวขึ้นโหม่งลูกเตะมุมของ ซีลลา ในนาทีที่ 51 บอลกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 56 ความพยายามเปิดเกมรุกของเจ้าถิ่นเกือบเป็นผล หลัง พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ได้โอกาสซัดไกลจากระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งเรียดไปกับพื้นสนามตรงกรอบประตู แต่นายด่านทีมเยือนยังยืนถูกที่ถูกตำแหน่ง ปัดบอลพ้นอันตรายออกไปได้
ล่วงสู่นาทีที่ 65 เมืองทอง ยูไนเต็ด แก้เกมด้วยการส่ง มาเน มุสตาฟา กับ ธนพัต ณ ท่าเรือ แทนที่ ซัวมาโฮโร ยายา กับ สุริยา ดอมไธสง แต่เมื่อถึงนาทีที่ 70 กลับเป็นแฟนทีม บางกอก กล๊าส เอฟซี ที่ได้เฮ เมื่อ ธนัตถ์ วงค์ศุภลักษณ์ ได้โอกาสยิงประตูในพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษเต็มข้อ บอลพุ่งตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ส่งให้เจ้าถิ่นออกนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 78 "โค้ชแต๊ก" ปรับทีมอีกครั้ง ด้วยการส่ง วาเลรี ซานัว ลงมาเล่นแทน มุสซา ซีลลา แต่ในนาทีที่ 83 ฮานส์ เอ็มเซอร์ กุนซือ บางกอก กล๊าส เอฟซี จัดการถอด รุ่งโรจน์ สว่างศรี อดีตปราการหลังทีมชาติไทยออก แล้วส่ง ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ลงมาเล่นแทน
ช่วงท้ายเกมแม้ว่าทีมเยือนจะพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ตามเสียงเชียร์ของสาวก "อุตราเมืองทอง" ทว่าด้วยเกมรับที่เหนียวแน่น ผสานกับความเหนียวหนึบของ กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายด่านเจ้าถิ่น ส่งผลให้ บางกอก กล๊าส เอฟซี รักษาสกอร์ 1-0 ไว้ได้จนครบ 90 นาทีของการแข่งขัน พร้อมกับเก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่า กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้อีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้กับ เมืองทอง หนอกจอก ยูไนเต็ด ได้อีกด้วย
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม ประกอบด้วย
บางกอก กล๊าส เอฟซี - กฤษณะ กลั่นกลิ่น (ผู้รักษาประตู), พลวัฒน์ วังฆะฮาด, อำนาจ แก้วเขียว (กัปตันทีม), รุ่งโรจน์ สว่างศรี, พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์, อนนท์ บุญสุโข, ธนัตถ์ วงค์ศุภลักษณ์, ศุภชัย คมศิลป์, อนาวิน จูจีน, อาจายี จีเบนกา ซามูเอล,นันทวัฒน์ แทนโสภา
เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด - กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), นวพล ตันตระเสนีย์, เจษฎา จิตสวัสดิ์ (กัปตันทีม), ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, มุสซา ซีลลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, แดงโก ซิอากา, ซัวมาโฮโร ยายา, สุริยา ดอมไธสง, พิเชษฐ์ อินทร์บาง
สรุปผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย
การท่าเรือไทย เอฟซี เสมอ ทีโอที เอฟซี 0-0
บางกอก กล๊าส เอฟซี ชนะ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด 1-0
จุฬา ยูไนเต็ด เสมอ ราชนาวี ระยอง 1-1
ศรีราชา เอฟซี แพ้ สมุทรสงคราม เอฟซี 1-2