"ผมคิดว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่แพร่หลายอยู่แล้วทั่วโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานและสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการบรรจุเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิก" ไทเกอร์ วูดส์ โปรหมายเลข 1 ของโลกชี้แจงหลังจากช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาโปรชื่อดังรวม 18 รายจากทั่วโลกทำหนังสือถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อให้พิจารณาบรรจุกอล์ฟลงในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ปี 2016 ซึ่งนับเป็นความพยายามที่จะนำการดวลวงสวิงกลับสู่การชิงชัยเหรียญรางวัลมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอีกครั้ง หลังจากครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1904
ความเคลื่อนไหวของเหล่าก้านเหล็กซูเปอร์สตาร์ครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟนานาชาติ (ไอจีเอฟ) ที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก โดยเมื่อปีก่อนทางสมาพันธ์ฯได้มีการยื่นเจตจำนงต่อ ไอโอซี เพื่อให้กอล์ฟบรรจุอยู่ในโอลิมปิก พร้อมทั้งเสนอกฎระเบียบและข้อบังคับของการแข่งขันไปด้วย
อย่างไรก็ตาม กอล์ฟจะได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 2016 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประชุมของ ไอโอซี ซึ่งจะเกิดขึ้นที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนตุลาคมนี้ ที่คณะกรรมการจะทำการลงคะแนนโหวตชนิดกีฬาอีก 2 ประเภทเพื่อบรรจุเพิ่มในการแข่งขันปีดังกล่าวและต้องขับเคี่ยวกับอีก 6 ชนิดกีฬาที่ยื่นความจำนงขอเข้าร่วมด้วยเช่นกัน คือ คาราเต้, โรลเลอร์ สปอร์ต, ซอฟท์บอล, เบสบอล, รักบี้ 7 คน และ สควอช
หากความพยายามครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ผู้คนในวงการมั่นใจว่าย่อมส่งผลดีต่อกอล์ฟที่จะมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะแน่ใจได้เลยว่าทุกประเทศต่างต้องการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเพิ่มมากขึ้นและจะหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เล่นของตนเอง อย่างเช่นความเห็นของ แจ็ก นิคลอส ตำนานก้านเหล็กชาวอเมริกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษของ ไอจีเอฟ รณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้กล่าวเอาไว้ว่า
"ผมเชื่อว่าหากมีกอล์ฟเข้าร่วมอยู่ด้วยจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับก้าวย่างที่เดินไปของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและในเวลาเดียวกันสิ่งนี้ย่อมส่งผลกระทบกลับมาให้กอล์ฟมีพัฒนาที่ดีขึ้นเช่นกัน" เจ้าของสถิติคว้าแชมป์เมเจอร์ 18 สมัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การมีกอล์ฟบรรจุอยู่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นเรื่องที่ฟังดูดี แต่เกิดคำถามตามมาว่าจะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคตามมาเนื่องจากไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า โปรแกรมการแข่งขันทัวร์นาเมนท์กอล์ฟแต่ละฤดูกาลถูกจัดวางชนิดสัปดาห์ต่อสัปดาห์ทำให้ยากต่อการสับหลีก ยิ่งการแข่งขันโอลิมปิกมักจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม อันเป็นเวลาใกล้เคียงกับการแข่งเมเจอร์ 2 รายการสำคัญอย่าง ดิ โอเพน และ พีจีเอ แชมเปียนชิป นั่นอาจหมายความว่าเมเจอร์สำคัญของวงการสวิงต้องเลื่อนหมายกำหนดการอกไป
ขณะเดียวกันเมื่อกล่าวถึงเรื่องของศักดิ์ศรีการให้ความสำคัญคงปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรดาก้านเหล็กต่างยกให้การแข่งขันเมเจอร์ทั้ง 4 รายการอยู่ในอันดับสูงสุดมากกว่า ส่วนรองลงมายังมีไรเดอร์ คัพ และ เพรสซิเดนท์ คัพ ซึ่ง 2 รายการนี้เปรียบเสมือนโอลิมปิกของกอล์ฟอยู่กลายๆแล้วนอกจากนี้รูปแบบการแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุมตามที่ ไอจีเอฟ ระบุนั้นอาจจะมองได้ว่านักกอล์ฟคำนึงถึงถึงผลงานของตนเองมากกว่าที่จะมองถึงการเป็นตัวแทนของประเทศชาติ
จากเหตุผลข้างต้นอาจทำให้เหล่าโปรชั้นตัดสินใจไม่เข้าร่วมชิงชัยในโอลิมปิกและสิ่งนี้เองที่จะเป็นผลเสียต่อกอล์ฟเองที่จะถูกถอนออกจากการแข่งขันในภายหลังอันเป็นเหตุผลเดียวกับที่เบสบอลถูกตัดสิทธิ์ไปในลอนดอนเกมส์ปี 2012 เนื่องจากนักเบสบอลชื่อดังไม่เข้าร่วมในหลายครั้งที่ผ่านมา
แต่ถ้ามองในมุมกลับกันด้วยสถานะของรูปแบบกีฬาที่ไม่ต่างจากเทนนิส ซึ่งมีโปรแกรมแข่งสัปดาห์ต่อสัปดาห์ มีรายการแกรนด์สแลมเหมือนกับเมเจอร์กอล์ฟ มีตัวเลขเงินรายได้นักกีฬาสูงกว่ากีฬาประเภทอื่น แต่เทนนิสในโอลิมปิกก็อยู่ในสถานะที่จอมหวดทั้งหลายใฝ่ฝันจะได้คล้องเหรียญรางวัล และบรรดานักกอล์ฟอาชีพไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็คงไม่ปฏิเสธเช่นกันเพราะชัยชนะในโอลิมปิกนั้นแม้ไม่มีผลตอบแทนเป็นเช็คเงินสด หากเกียรติยศจากเหรียญรางวัลคือสิ่งที่จะเติมคำว่า “นักกีฬาอาชีพ” ของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง
