ลิเวอร์พูล รอดตายคารังราวปาฏิหาริย์ หลังถูก อังเดร อาร์ชาวิน เหมา 4 ลูกให้ อาร์เซนอล นำในนาทีที่ 90 ก่อน ยอสซี เบนายูน จะยิงตีเสมอเป็น 4-4 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ต่อความหวังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ไว้ได้
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ.2552
ลิเวอร์พูล 4–4 อาร์เซนอล
บิ๊กแมตช์ตัดสินชะตาการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์รับมือ อาร์เซนอล เกมนี้เจ้าบ้านไร้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ลงบัญชาการ ทำให้ ยอสซี เบนายูน ได้ลงทำเกมโดยมี เดิร์ก เคาท์ เล่นหน้าต่ำคอยสนับสนุน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ส่วนอาคันตุกะปราศจากคู่หัวหอกอย่าง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่เดี้ยง นิคลาส เบนดท์เนอร์ จึงยืนค้ำแดนหน้าเพียงคนเดียวพร้อมทั้งอัดมิดฟิลด์ลงไป 5 คน
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น หงส์แดงก็เปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 3 ตอร์เรส โชว์สปีดแตะบอลแหวก บาการี ซาญา กับ โคโล ตูเร เข้าไปแปไซด์โป้งในเขตโทษด้านซ้าย ทว่าไม่ผ่านมือ ลูคัส ฟาเบียนสกี 3 นาทีต่อมา ตอร์เรส พลิกบอลหน้าเขตโทษก่อนถูก ตูเร บล็อกลูกยิง บอลไปเข้าทาง อัลเบิร์ต ริเอรา กดด้วยซ้ายตรงตัว ฟาเบียนสกี อีก
ลิเวอร์พูลยังคงบุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า นาทีที่ 15 ฮาเวียร์ มาสเชราโน รับบอลจาก ฟาบิโอ ออเรลิโอ ทางด้านซ้ายก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วยิงไกล ลูกบดออกข้างเสาแรกไป จากนั้น นาทีที่ 18 ตอร์เรส เกือบเจาะตาข่ายได้สำเร็จจากการเข่นบนเส้นเขตโทษ แต่ ฟาเบียนสกี ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดก่อนบอลเสียบสามเหลี่ยมได้หวุดหวิด
นาทีที่ 27 เคาท์ มีโอกาสได้ทะลุเข้าหาเขตโทษ แต่ถูก มิคาเอล ซิลแวสตร์ กระแทกล้มลงไป ทว่า ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ กลับนิ่งเฉยปล่อยให้เล่นต่อท่ามกลางเสียงโห่ของเหล่า เดอะ ค็อป ถัดมา 2 นาที ปืนใหญ่เพิ่งได้จังหวะยิงจะแจ้งหนแรก เมื่อ โฮเซ เรนา ชกบอลไม่ดีมาเข้าทาง เชส ฟาเบรกาส ยิงสวนไม่ตรงกรอบ เบนดท์เนอร์ จะแหย่ขาชาร์จก็ไม่ถึง
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก เจ้าบ้านเกือบได้ประตูนำโดย อัลบาโร อาร์เบลัว วางยาวจากกลางสนามให้ ตอร์เรส พักอกแล้วชิงเหลี่ยมหนี ตูเร ก่อนสับไกให้ ฟาเบียนสกี ต้องออกแรงเซฟ 1 นาทีให้หลัง ดาเนียล แอกเกอร์ โฉบเข้ามาโขกลูกเตะมุมเช็ดหนี ฟาเบียนสกี ไปแล้ว แต่ ซาเมียร์ นาสรี ยังยืนคุมเส้นอยู่ที่เสาสองหวดทิ้งออกไปได้
กระทั่งนาทีที่ 36 เดอะ กันเนอร์ส ที่โดนกระหน่ำอยู่พักใหญ่กลับเป็นฝ่ายนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ฟาเบรกาส แย่งบอลจาก มาสเชราโน ได้ นาสรี เข้ามารับช่วงต่อก่อนไหลให้ ฟาเบรกาส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปเปิดให้ อังเดร อาร์ชาวิน แปเน้นๆ ชนใต้คานข้ามเส้นเข้าประตู 2 นาทีให้หลัง หงส์แดงเกือบเอาคืนได้ทันควัน แต่ ฟาเบียนสกี พุ่งปัดลูกยิงของ เบนายูน ได้อย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรก ทีมเยือนยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ขยับสกอร์มาเท่ากันที่ 1-1 จากจังหวะที่ ซาญา หวดสกัดไม่ดี เคาท์ เก็บบอลได้ทางเขตโทษฝั่งขวา แม้จะเปิดติด คีแรน กิบบ์ส ในทีแรก แต่หนสองจัดการตักให้ ตอร์เรส โขกหนีมือ ฟาเบียนสกี ตุงตาข่ายจนได้ จากนั้นประตู 2-1 ของเจ้าบ้านก็ตามมาในนาทีที่ 56 เมื่อ ฟาเบียนสกี เปิดบอลออกมาเข้าทาง เคาท์ กระชากหนี กิบบ์ส ก่อนเปิดให้ เบนายูน โหม่งแฉลบ ซาญา ข้ามเส้นเข้าไป แม้นายทวารโปลจะควักออกมาทีหลังก็ตาม
หงส์แดงยังคงกดดันต่อเนื่อง นาทีที่ 59 อลอนโซ ลักไก่ยิงฟรีคิกเฉี่ยวเสาไกลแบบได้เสียว ทว่า อาร์ชาวิน กลายเป็นตัวทีเด็ดของ อาร์เซนอล อีกครั้งเมื่อฉกบอลจากเท้า อาร์เบลัว ก่อนลากเข้าไปตะบันไซด์ก้อยหนีมือ เรนา เสียบหน้าต่างเสาสองอย่างสวยงามเป็น 2-2 ในนาทีที่ 67 ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติรัสเซียจะทำแฮตทริกแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จใน 3 นาทีให้หลัง โดยเก็บตกซัดลูกที่ ออเรลิโอ สกัดมาเข้าทางลอดตัว เรนา เป็น 3-2
อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านยังไม่ถอดใจไล่ตีคืนเป็น 3-3 ได้ในนาทีที่ 72 เมื่อ ตอร์เรส รับลูกผ่านของ ริเอรา โยกหนี ซิลแวสตร์ แล้วยิงถูก ฟาเบียนสกี ปัดโดนปลายมือก่อนทะลักเข้าสู่ก้นตาข่าย จากนั้น ลิเวอร์พูล เกือบพลิกสถานการณ์ขึ้นนำได้อีกครั้งในนาทีที่ 82 แต่ กิบบ์ส โหม่งเคลียร์ลูกโขกของ ตอร์เรส บนเส้นประตูได้อย่างจวนเจียน
เกมยังคงทวีความเข้มข้นในช่วงท้าย นาทีที่ 90 ธีโอ วัลคอตต์ ตัวสำรองทีมเยือนอาศัยความเร็วกระชากขึ้นมาในจังหวะโต้กลับก่อนใส่พานให้ อาร์ชาวิน กระทุ้งเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาดเป็น 4-3 แต่ ลิเวอร์พูล ยังคงตายยาก มายิงคืนเป็น 4-4 จากการเก็บตกซัดในเขตโทษของ เบนายูน ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่าลงเตะมากกว่า 2 นัด ส่วน อาร์เซนอล รั้งที่ 4 ต่อไป มี 62 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, เดิร์ก เคาท์, อัลเบิร์ต ริเอรา, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
อาร์เซนอล – ลูคัส ฟาเบียนสกี, บาการี ซาญา, โคโล ตูเร, มิคาเอล ซิลแวสตร์, คีแรน กิบบ์ส, อังเดร อาร์ชาวิน, อเล็กซานเดอร์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เนเวส เดนิลสัน, ซาเมียร์ นาสรี, นิคลาส เบนดท์เนอร์
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ.2552
ลิเวอร์พูล 4–4 อาร์เซนอล
บิ๊กแมตช์ตัดสินชะตาการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์รับมือ อาร์เซนอล เกมนี้เจ้าบ้านไร้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ลงบัญชาการ ทำให้ ยอสซี เบนายูน ได้ลงทำเกมโดยมี เดิร์ก เคาท์ เล่นหน้าต่ำคอยสนับสนุน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ส่วนอาคันตุกะปราศจากคู่หัวหอกอย่าง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่เดี้ยง นิคลาส เบนดท์เนอร์ จึงยืนค้ำแดนหน้าเพียงคนเดียวพร้อมทั้งอัดมิดฟิลด์ลงไป 5 คน
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น หงส์แดงก็เปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 3 ตอร์เรส โชว์สปีดแตะบอลแหวก บาการี ซาญา กับ โคโล ตูเร เข้าไปแปไซด์โป้งในเขตโทษด้านซ้าย ทว่าไม่ผ่านมือ ลูคัส ฟาเบียนสกี 3 นาทีต่อมา ตอร์เรส พลิกบอลหน้าเขตโทษก่อนถูก ตูเร บล็อกลูกยิง บอลไปเข้าทาง อัลเบิร์ต ริเอรา กดด้วยซ้ายตรงตัว ฟาเบียนสกี อีก
ลิเวอร์พูลยังคงบุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า นาทีที่ 15 ฮาเวียร์ มาสเชราโน รับบอลจาก ฟาบิโอ ออเรลิโอ ทางด้านซ้ายก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วยิงไกล ลูกบดออกข้างเสาแรกไป จากนั้น นาทีที่ 18 ตอร์เรส เกือบเจาะตาข่ายได้สำเร็จจากการเข่นบนเส้นเขตโทษ แต่ ฟาเบียนสกี ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดก่อนบอลเสียบสามเหลี่ยมได้หวุดหวิด
นาทีที่ 27 เคาท์ มีโอกาสได้ทะลุเข้าหาเขตโทษ แต่ถูก มิคาเอล ซิลแวสตร์ กระแทกล้มลงไป ทว่า ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ กลับนิ่งเฉยปล่อยให้เล่นต่อท่ามกลางเสียงโห่ของเหล่า เดอะ ค็อป ถัดมา 2 นาที ปืนใหญ่เพิ่งได้จังหวะยิงจะแจ้งหนแรก เมื่อ โฮเซ เรนา ชกบอลไม่ดีมาเข้าทาง เชส ฟาเบรกาส ยิงสวนไม่ตรงกรอบ เบนดท์เนอร์ จะแหย่ขาชาร์จก็ไม่ถึง
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก เจ้าบ้านเกือบได้ประตูนำโดย อัลบาโร อาร์เบลัว วางยาวจากกลางสนามให้ ตอร์เรส พักอกแล้วชิงเหลี่ยมหนี ตูเร ก่อนสับไกให้ ฟาเบียนสกี ต้องออกแรงเซฟ 1 นาทีให้หลัง ดาเนียล แอกเกอร์ โฉบเข้ามาโขกลูกเตะมุมเช็ดหนี ฟาเบียนสกี ไปแล้ว แต่ ซาเมียร์ นาสรี ยังยืนคุมเส้นอยู่ที่เสาสองหวดทิ้งออกไปได้
กระทั่งนาทีที่ 36 เดอะ กันเนอร์ส ที่โดนกระหน่ำอยู่พักใหญ่กลับเป็นฝ่ายนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ฟาเบรกาส แย่งบอลจาก มาสเชราโน ได้ นาสรี เข้ามารับช่วงต่อก่อนไหลให้ ฟาเบรกาส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปเปิดให้ อังเดร อาร์ชาวิน แปเน้นๆ ชนใต้คานข้ามเส้นเข้าประตู 2 นาทีให้หลัง หงส์แดงเกือบเอาคืนได้ทันควัน แต่ ฟาเบียนสกี พุ่งปัดลูกยิงของ เบนายูน ได้อย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรก ทีมเยือนยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล ขยับสกอร์มาเท่ากันที่ 1-1 จากจังหวะที่ ซาญา หวดสกัดไม่ดี เคาท์ เก็บบอลได้ทางเขตโทษฝั่งขวา แม้จะเปิดติด คีแรน กิบบ์ส ในทีแรก แต่หนสองจัดการตักให้ ตอร์เรส โขกหนีมือ ฟาเบียนสกี ตุงตาข่ายจนได้ จากนั้นประตู 2-1 ของเจ้าบ้านก็ตามมาในนาทีที่ 56 เมื่อ ฟาเบียนสกี เปิดบอลออกมาเข้าทาง เคาท์ กระชากหนี กิบบ์ส ก่อนเปิดให้ เบนายูน โหม่งแฉลบ ซาญา ข้ามเส้นเข้าไป แม้นายทวารโปลจะควักออกมาทีหลังก็ตาม
หงส์แดงยังคงกดดันต่อเนื่อง นาทีที่ 59 อลอนโซ ลักไก่ยิงฟรีคิกเฉี่ยวเสาไกลแบบได้เสียว ทว่า อาร์ชาวิน กลายเป็นตัวทีเด็ดของ อาร์เซนอล อีกครั้งเมื่อฉกบอลจากเท้า อาร์เบลัว ก่อนลากเข้าไปตะบันไซด์ก้อยหนีมือ เรนา เสียบหน้าต่างเสาสองอย่างสวยงามเป็น 2-2 ในนาทีที่ 67 ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติรัสเซียจะทำแฮตทริกแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จใน 3 นาทีให้หลัง โดยเก็บตกซัดลูกที่ ออเรลิโอ สกัดมาเข้าทางลอดตัว เรนา เป็น 3-2
อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านยังไม่ถอดใจไล่ตีคืนเป็น 3-3 ได้ในนาทีที่ 72 เมื่อ ตอร์เรส รับลูกผ่านของ ริเอรา โยกหนี ซิลแวสตร์ แล้วยิงถูก ฟาเบียนสกี ปัดโดนปลายมือก่อนทะลักเข้าสู่ก้นตาข่าย จากนั้น ลิเวอร์พูล เกือบพลิกสถานการณ์ขึ้นนำได้อีกครั้งในนาทีที่ 82 แต่ กิบบ์ส โหม่งเคลียร์ลูกโขกของ ตอร์เรส บนเส้นประตูได้อย่างจวนเจียน
เกมยังคงทวีความเข้มข้นในช่วงท้าย นาทีที่ 90 ธีโอ วัลคอตต์ ตัวสำรองทีมเยือนอาศัยความเร็วกระชากขึ้นมาในจังหวะโต้กลับก่อนใส่พานให้ อาร์ชาวิน กระทุ้งเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาดเป็น 4-3 แต่ ลิเวอร์พูล ยังคงตายยาก มายิงคืนเป็น 4-4 จากการเก็บตกซัดในเขตโทษของ เบนายูน ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่าลงเตะมากกว่า 2 นัด ส่วน อาร์เซนอล รั้งที่ 4 ต่อไป มี 62 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, เดิร์ก เคาท์, อัลเบิร์ต ริเอรา, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
อาร์เซนอล – ลูคัส ฟาเบียนสกี, บาการี ซาญา, โคโล ตูเร, มิคาเอล ซิลแวสตร์, คีแรน กิบบ์ส, อังเดร อาร์ชาวิน, อเล็กซานเดอร์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เนเวส เดนิลสัน, ซาเมียร์ นาสรี, นิคลาส เบนดท์เนอร์