เดิร์ก เคาท์ สวมบทฮีโร่เบิ้ลสกอร์ช่วย “หงส์แดง” เปิดรังกลับมาจิก วีแกน แอธเลติก ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 3-2 ขณะที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คว้าชัยเหนือ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันเสาร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
ราฟาเอล เบนิเตซ นำทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เดอะ ลาติกส์” วีแกน แอธเลติก โดยเจ้าถิ่นขาด เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ ไรอัน บาเบล ที่เจ็บจากทีมชาติ นัดนี้จึงปรับแท็คติกดัน เดิร์ค เคาท์ ไปล่าตาข่ายร่วมกับ ร็อบบี คีน ให้ทาง เจอร์เมน เพนแนนท์ ทำเกมทางกราบขวา ด้าน สตีฟ บรูซ ตัดสินใจไม่ส่ง เอมิล เฮสกี หัวหอกร่างใหญ่ลงสนาม เนื่องจากเจ็บจากเกมกลางสัปดาห์และก็มีข่าวกับต้นสังกัดเก่า ทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ อาเมอร์ ซากิ ขณะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ วิลสัน ปาลาซิออส ฟิตพอลงช่วยแดนกลาง
เปิดเกมการแข่งขัน วีแกน ไม่เกรงศักดิศรี ลิเวอร์พูล เดินเกมสู้กับเจ้าถิ่นได้อย่างสนุก ถึงนาทีที่ 6 เดอะ ค็อป ได้ลุ้นเมื่อ อัลเบิร์ต ริเอรา ดวลตัวต่อตัวกับ มาริโอ เมลชอต ก่อนเปิดกึ่งยิงกึ่งผ่านเฉียดคานประตูไป ผ่านสิบห้านาทีแรก “หงส์แดง” ต่อเกมได้ดีขึ้น ริเอรา ยังเป็นทีเด็ดทางกราบเปิดเข้ากลางแบบได้เสียแต่ ไตตัส บรัมเบิล สกัดบอลทิ้งไปได้ก่อนที่ เดิร์ค เคาท์ จะเข้าฮอร์สจ่อๆ สามนาทีถัดมา ชาบี อลอนโซ พยายามลักไก่ยิงบอลโค้งข้ามหัวแต่น้ำหนักไม่ได้ คริส เคิร์กแลนด์ รับกินสบาย
ครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี “เดอะ ลาติกส์” เกือบช็อคแฟนๆ เจ้าบ้าน เมื่อ โอลิวิเยร์ กาโป หลุดขึ้นไปอัดด้วยซ้ายเต็มๆ ติดเซฟ โฮเซ เรนา มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสพยายามปรี่เข้าซ้ำแต่แตะบอลยาว นายทวารทีมชาติสเปนเลยเคลียร์พ้นอันตรายหวุดหวิด นาทีที่ 28 ลิเวอร์พูล ใกล้เคียงกับการได้ประตู ริเอรา ป้ายบอลให้ ร็อบบี คีน หลุดเข้าไปปั่นบอลผ่านมือ เคิร์กแลนด์ แต่ก็หลุดเสาไกลออกไป แต่นาทีถัดมากลายเป็น วีแกน ออกนำ 1-0 ดาเนียล แอกเกอร์ พลาดง่ายเสียบอลหน้าประตูโดน อาเมอร์ ซากิ ฉกเข้าไปยิงลอดแขน เรนา เข้าไป
พอเสียประตูไป ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกเป็นการใหญ่ แอกเกอร์ แก้ตัวเติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนหักเข้าเขตโทษเปิดบอลให้ เคาท์ แปเน้นๆ เคิร์กแลนด์ ปัดไม่อยู่บอลกระดอนซุกก้นตาข่าย สกอร์กลับมา 1-1 ในนาทีที่ 37 ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านลองโถมใส่ดูอีกครั้ง นาทีที่ 43 เคาท์ เกือบทำประตูที่สองให้ตัวเองเมื่อยิงทะแยงมุม เคิร์กแลนด์ บินปัดสุดตัวใช้ปลายนิ้วเปลี่ยนทางบอลกระแทกคานออกมาเต็มๆ ทดเจ็บ เจอร์เมน เพนแนนท์ เปิดจากขวาให้ ริเอรา โหม่งเช็ดหลุดกรอบไป แต่ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่วินาที วีแกน พลิกนำ 2-1 อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดให้ ซากิ เอี้ยวตัววอลเล่ย์เข้าไปอย่างสุดสวย
ลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล กางแผนบุกใส่แต่ทำเกมไม่ถนัดนักเนื่องจาก วีแกน วางกำลังในเกมรับอย่างหนาแน่น แต่นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ อลอนโซ เปิดฟรีคิกให้ แอกเกอร์ โหม่งชงไปเสาสอง ลี แคทเทอร์โมล สกัดบอลไว้ได้นิดเดียวก่อนที่ คีน จะเข้าถึง การไม่เด็ดขาดในเกมรับของ “หงส์แดง” เกือบนำมาซึ่งความสูญเสีย กาโป ตัดบอลมาได้ก่อนตบเข้าเสาแรกให้ ซากิ ยิงชนเสา แต่จังหวะดังกล่าวผู้ช่วยผู้ตัดสินก็ยกธงล้ำหน้าไปแล้ว
หนึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกเต็มสูบและก็เกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้ง คีน หยอดบอลให้ เคาท์ สไลด์ยิงด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปติดเท้า เคิร์กแลนด์ 20 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านได้ลุ้นจากฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 20 หลา เจอร์ราร์ด แปบอลหนีกำแพงมนุษย์หลุดเสาไปนิดเดียว ห้านาทีถัดมา วีแกน เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ วาเลนเซีย เสียบสองเท้าใส่ อลอนโซ โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม
ท้ายเกม ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับเอา นาบิล เอลซาร์ และ ยอสซี เบนายูน มาเติมสีสันเกมรุกพร้อมกับถอด อันเดรีย ดอสเซนา กับ อัลวาโร อาร์เบลัว ฟูลแบ็กสองข้างออกมา สตีฟ บรูซ แก้หมากเช่นกันปล่อย เควิน คิลบาน ช่วยเกมรับและก็ให้ ดาเนียล เดอ ริดเดอร์ มาพัก และแท็คติกเจ้าถิ่นได้ผล เอลซาร์ จ่ายบอลให้ ริเอรา ซัดตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 80 อีกห้านาทีถัดมา “หงส์แดง” ที่บดหนักทั้งเกมมาพลิกนำ 3-2 เมื่อ เคาท์ กระโดดเอี้ยวตัวยิงด้วยขวาบอลกระดอนพื้นกระเด้งคานเข้าไปอย่างสุดสวย เป็นประตูชัยช่วยให้ทีมมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด อยู่รองจ่าฝูงตาม เชลซี แค่ประตูได้-เสีย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอกเกอร์ , อันเดรีย ดอสเซนา , เจอร์เมน เพนแนนท์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ชาบี อลอนโซ , อัลเบิร์ต ริเอรา , เดิร์ก เคาท์ , ร็อบบี คีน
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์ , มาริโอ เมลชอต , ไตตัส บรัมเบิล , พอล ชาร์เนอร์ , เมย์นอร์ ฟิเกรัว , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ลี แคทเทอร์โมล , วิลสัน ปาลาซิออส , โอลิวิเยร์ กาโป , ดาเนียล เดอ ริดเดอร์ , อาเมอร์ ซากิ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
[0-1 : ซาโลมอน คาลู (น.14) , 0-2 : ชูเลียโน เบลเล็ตติ (น.51) , 0-3 : ซาโลมอน คาลู (น.53) , 0-4 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.63) , 0-5 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.67)]
อาร์เซนอล 3-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : ลีออน ออสแมน (น.9) , 1-1 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.70) , 3-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.90)]
แอสตัน วิลลา 0-0 ปอร์ทสมัธ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ฟูแลม 0-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : อาเมอร์ ซากิ (น.29) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.37) , 1-2 : อาเมอร์ ซากิ (น.45) , 2-2 : อัลเบิร์ต ริเอรา (น.80) , 3-2 : เดิร์ก เคาท์ (น.85)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.56) , 2-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.69) , 3-0 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.71) , 4-0 : หลุยส์ นานี (น.90)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
ราฟาเอล เบนิเตซ นำทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เดอะ ลาติกส์” วีแกน แอธเลติก โดยเจ้าถิ่นขาด เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ ไรอัน บาเบล ที่เจ็บจากทีมชาติ นัดนี้จึงปรับแท็คติกดัน เดิร์ค เคาท์ ไปล่าตาข่ายร่วมกับ ร็อบบี คีน ให้ทาง เจอร์เมน เพนแนนท์ ทำเกมทางกราบขวา ด้าน สตีฟ บรูซ ตัดสินใจไม่ส่ง เอมิล เฮสกี หัวหอกร่างใหญ่ลงสนาม เนื่องจากเจ็บจากเกมกลางสัปดาห์และก็มีข่าวกับต้นสังกัดเก่า ทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ อาเมอร์ ซากิ ขณะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ วิลสัน ปาลาซิออส ฟิตพอลงช่วยแดนกลาง
เปิดเกมการแข่งขัน วีแกน ไม่เกรงศักดิศรี ลิเวอร์พูล เดินเกมสู้กับเจ้าถิ่นได้อย่างสนุก ถึงนาทีที่ 6 เดอะ ค็อป ได้ลุ้นเมื่อ อัลเบิร์ต ริเอรา ดวลตัวต่อตัวกับ มาริโอ เมลชอต ก่อนเปิดกึ่งยิงกึ่งผ่านเฉียดคานประตูไป ผ่านสิบห้านาทีแรก “หงส์แดง” ต่อเกมได้ดีขึ้น ริเอรา ยังเป็นทีเด็ดทางกราบเปิดเข้ากลางแบบได้เสียแต่ ไตตัส บรัมเบิล สกัดบอลทิ้งไปได้ก่อนที่ เดิร์ค เคาท์ จะเข้าฮอร์สจ่อๆ สามนาทีถัดมา ชาบี อลอนโซ พยายามลักไก่ยิงบอลโค้งข้ามหัวแต่น้ำหนักไม่ได้ คริส เคิร์กแลนด์ รับกินสบาย
ครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี “เดอะ ลาติกส์” เกือบช็อคแฟนๆ เจ้าบ้าน เมื่อ โอลิวิเยร์ กาโป หลุดขึ้นไปอัดด้วยซ้ายเต็มๆ ติดเซฟ โฮเซ เรนา มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสพยายามปรี่เข้าซ้ำแต่แตะบอลยาว นายทวารทีมชาติสเปนเลยเคลียร์พ้นอันตรายหวุดหวิด นาทีที่ 28 ลิเวอร์พูล ใกล้เคียงกับการได้ประตู ริเอรา ป้ายบอลให้ ร็อบบี คีน หลุดเข้าไปปั่นบอลผ่านมือ เคิร์กแลนด์ แต่ก็หลุดเสาไกลออกไป แต่นาทีถัดมากลายเป็น วีแกน ออกนำ 1-0 ดาเนียล แอกเกอร์ พลาดง่ายเสียบอลหน้าประตูโดน อาเมอร์ ซากิ ฉกเข้าไปยิงลอดแขน เรนา เข้าไป
พอเสียประตูไป ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกเป็นการใหญ่ แอกเกอร์ แก้ตัวเติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนหักเข้าเขตโทษเปิดบอลให้ เคาท์ แปเน้นๆ เคิร์กแลนด์ ปัดไม่อยู่บอลกระดอนซุกก้นตาข่าย สกอร์กลับมา 1-1 ในนาทีที่ 37 ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านลองโถมใส่ดูอีกครั้ง นาทีที่ 43 เคาท์ เกือบทำประตูที่สองให้ตัวเองเมื่อยิงทะแยงมุม เคิร์กแลนด์ บินปัดสุดตัวใช้ปลายนิ้วเปลี่ยนทางบอลกระแทกคานออกมาเต็มๆ ทดเจ็บ เจอร์เมน เพนแนนท์ เปิดจากขวาให้ ริเอรา โหม่งเช็ดหลุดกรอบไป แต่ก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่วินาที วีแกน พลิกนำ 2-1 อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดให้ ซากิ เอี้ยวตัววอลเล่ย์เข้าไปอย่างสุดสวย
ลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล กางแผนบุกใส่แต่ทำเกมไม่ถนัดนักเนื่องจาก วีแกน วางกำลังในเกมรับอย่างหนาแน่น แต่นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ อลอนโซ เปิดฟรีคิกให้ แอกเกอร์ โหม่งชงไปเสาสอง ลี แคทเทอร์โมล สกัดบอลไว้ได้นิดเดียวก่อนที่ คีน จะเข้าถึง การไม่เด็ดขาดในเกมรับของ “หงส์แดง” เกือบนำมาซึ่งความสูญเสีย กาโป ตัดบอลมาได้ก่อนตบเข้าเสาแรกให้ ซากิ ยิงชนเสา แต่จังหวะดังกล่าวผู้ช่วยผู้ตัดสินก็ยกธงล้ำหน้าไปแล้ว
หนึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกเต็มสูบและก็เกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้ง คีน หยอดบอลให้ เคาท์ สไลด์ยิงด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปติดเท้า เคิร์กแลนด์ 20 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านได้ลุ้นจากฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 20 หลา เจอร์ราร์ด แปบอลหนีกำแพงมนุษย์หลุดเสาไปนิดเดียว ห้านาทีถัดมา วีแกน เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ วาเลนเซีย เสียบสองเท้าใส่ อลอนโซ โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม
ท้ายเกม ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับเอา นาบิล เอลซาร์ และ ยอสซี เบนายูน มาเติมสีสันเกมรุกพร้อมกับถอด อันเดรีย ดอสเซนา กับ อัลวาโร อาร์เบลัว ฟูลแบ็กสองข้างออกมา สตีฟ บรูซ แก้หมากเช่นกันปล่อย เควิน คิลบาน ช่วยเกมรับและก็ให้ ดาเนียล เดอ ริดเดอร์ มาพัก และแท็คติกเจ้าถิ่นได้ผล เอลซาร์ จ่ายบอลให้ ริเอรา ซัดตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 80 อีกห้านาทีถัดมา “หงส์แดง” ที่บดหนักทั้งเกมมาพลิกนำ 3-2 เมื่อ เคาท์ กระโดดเอี้ยวตัวยิงด้วยขวาบอลกระดอนพื้นกระเด้งคานเข้าไปอย่างสุดสวย เป็นประตูชัยช่วยให้ทีมมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนจากการลงสนาม 8 นัด อยู่รองจ่าฝูงตาม เชลซี แค่ประตูได้-เสีย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอกเกอร์ , อันเดรีย ดอสเซนา , เจอร์เมน เพนแนนท์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ชาบี อลอนโซ , อัลเบิร์ต ริเอรา , เดิร์ก เคาท์ , ร็อบบี คีน
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์ , มาริโอ เมลชอต , ไตตัส บรัมเบิล , พอล ชาร์เนอร์ , เมย์นอร์ ฟิเกรัว , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ลี แคทเทอร์โมล , วิลสัน ปาลาซิออส , โอลิวิเยร์ กาโป , ดาเนียล เดอ ริดเดอร์ , อาเมอร์ ซากิ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
มิดเดิลสโบรช์ 0-5 เชลซี
[0-1 : ซาโลมอน คาลู (น.14) , 0-2 : ชูเลียโน เบลเล็ตติ (น.51) , 0-3 : ซาโลมอน คาลู (น.53) , 0-4 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.63) , 0-5 : ฟลอรองต์ มาลูดา (น.67)]
อาร์เซนอล 3-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : ลีออน ออสแมน (น.9) , 1-1 : ซาเมียร์ นาสรี (น.48) , 2-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.70) , 3-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.90)]
แอสตัน วิลลา 0-0 ปอร์ทสมัธ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ฟูแลม 0-0 ซันเดอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล 3-2 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : อาเมอร์ ซากิ (น.29) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.37) , 1-2 : อาเมอร์ ซากิ (น.45) , 2-2 : อัลเบิร์ต ริเอรา (น.80) , 3-2 : เดิร์ก เคาท์ (น.85)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เวย์น รูนีย์ (น.56) , 2-0 : คริสเตียโน โรนัลโด (น.69) , 3-0 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.71) , 4-0 : หลุยส์ นานี (น.90)]
