xs
xsm
sm
md
lg

"สตีวี่จี" โขกชัยหงส์ลิ่ว, ไล่ "แลมพ์" เชลซีโดน 1-1 ชปล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สตีเวน เจอร์ราร์ด หายเจ็บกลับมาเป็นพระเอกให้ ลิเวอร์พูล อีกครั้งจากการโขกประตูชัยช่วยให้เฉือน โอลิมปิก มาร์กเซย 1-0 ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ส่วน เชลซี แผ่วถูก บอร์กโดซ์ ตีเสมอ 1-1 โดยที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด โดนไล่ออก

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2551
กลุ่ม ดี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1 – 0
โอลิมปิก มาร์เซย (ฝรั่งเศส)

เบน อาร์ฟา (กลาง) พยายามแหวก มาสเชราโน กับ อาร์เบลัว
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เฝ้าบ้านต้อนรับ โอลิมปิก มาร์กเซย โดยเจ้าถิ่นขอแค่เสมอก็จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดนี้ สตีเวน เจอร์ราร์ด สลัดอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวากลับมาประสานงานกับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปนได้อีกครั้ง ส่วนทีมเยือนมี ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา กับ มามาดู เนียง เป็นทีเด็ดในแนวรุก
สตีวี่จี (ขวา) ฮีโร่เจ้าประจำของหงส์
โอกาสแรกของ หงส์แดง เกิดขึ้นในนาทีที่ 17 เมื่อ ดาเนียล แอกเกอร์ ได้บอลบริเวณกลางสนามก่อนลากกินแดนขึ้นมาตะบันเรียดจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งเข้าหากรอบ แต่ สตีฟ ม็องดองดา ล้มตัวรับเอาไว้ได้ เจ้าถิ่นใกล้เคียงกับการได้ประตูมากขึ้นในนาทีที่ 22 เมื่อ เจอร์ราร์ด วางบอลยาวให้ ตอร์เรส สปีดไปรับต่อก่อนกระชากผ่าน วิตอริโน ฮิลตัน มาจนเกือบสุดเส้นหลังฝั่งขวาแล้วเปิดหักกลับมาให้ เดิร์ก เคาท์ สอดเข้าโหม่งที่เสาแรก แต่ ม็องดองดา ยังป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม

ทว่า จากลูกเตะมุมต่อเนื่องก็นำมาสู่สกอร์ 1-0 ของ ลิเวอร์พูล ในนาทีที่ 23 โดย อัลบาโร อาร์เบลัว เก็บบอลจากแถวสองก่อนไหลออกทางขวาให้ ชาบี อลอนโซ เปิดลึกไปถึงเสาสอง เจอร์ราร์ด โฉบเข้ามาโขกเน้นๆ เสียบเสาแรกตุงตาข่าย ชนิดที่ ม็องดองดา ได้แต่ใช้สายตามอง

มาร์กเซย เริ่มครองเกมได้ดีขึ้นหลังผ่านครึ่งชั่วโมงแรก จนเกือบตีเสมอได้ในนาทีที่ 36 จากลูกฟรีคิกกว่า 35 หลาที่ เบน อาร์ฟา เขี่ยให้ ตาเย ตาอิโว ตะบันเรียด แม้ โฮเซ เรนา จะล้มตัวปัดได้ปลายมือ แต่ก็เอาไม่อยู่ก่อนจะแฉลบเสาออกหลังอย่างน่าเสียวไส้

จากลูกเตะมุมต่อเนื่องของทีมเยือนก็ทำเอากองเชียร์เจ้าบ้านใจหายใจคว่ำเช่นกัน โดย เบน อาร์ฟา โยนเลยไปถึงเสาไกล เรนา ออกมาตัดบอลไม่โดน ทว่า ลูกโขกของ โรนัลด์ ซูบาร์ กระดอนลงพื้นก่อนเด้งหลุดกรอบ จากนั้นนาทีที่ 43 เบน อาร์ฟา ควบลูกจากกลางสนามหนีนักเตะหงส์แดง 3 คนแล้วกดเรียดด้วยขวาถูก เรนา คว้าเอาไว้ได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มีลุ้นใกล้เคียงอีกครั้งจากจังหวะที่ อัลเบิร์ต ริเอรา ล็อกบอลหนี ซูบาร์ เข้าเท้าขวาแล้วลองซัดหน้าเขตโทษ แต่ ม็องดองดา ยังปฏิกิริยาไวพอ ล้มตัวปัดออกหลังไปได้ จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นยังคงนำอยู่ 1-0
แลมพาร์ด (ขวา) ถูกใบเหลือง-แดงในนาทีที่ 86 อดช่วยสิงห์บลูส์ลุ้นเข้ารอบนัดหน้า
เข้าสู่ครึ่งหลัง โอแอ็ม กางตำรารุกอย่างหนัก นาทีที่ 48 ซูบาร์ ดันสูงขึ้นมาโหม่งลูกฟรีคิกที่เปิดเข้ามาจากกราบซ้ายส่งบอลหลุดออกไปทางเสาแรก จากนั้น 4 นาที คาริม ซิยานี ตักบอลข้ามแผงหลังหงส์แดงได้สวย แต่ มามาดู เนียง เกี่ยวไม่ติดจึงล้นเข้ามือของ เรนา

นาทีที่ 55 มาร์กเซย สวนกลับน่ากลัว เบอนัวต์ เชย์รู ไหลขึ้นหน้าให้ เนียง เกี่ยวหลบ เจมี คาร์ราเกอร์ แล้วลองปั่นโค้งนอกเขตโทษ แต่บอลไม่หนีกลางประตูมากนัก เรนา จึงรับเข้าซองสบาย ถัดมานาทีเดียว เจอร์ราร์ด ได้จังหวะซัดทแยงมุมจากด้านขวา ลูกหนีมือ ม็องดองดา ออกหลังไปทางเสาสอง

อาคันตุกะจากฝรั่งเศส ดาหน้าบุกไม่ยั้ง นาทีที่ 68 เบน อาร์ฟา ปั่นฟรีคิกจากด้านขวาทำท่าจะเข้าเสาสอง แต่ เรนา ยังซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้ ก่อนที่ เนียง จะพาบอลเข้าไปซัดในเขตโทษในนาทีต่อมา ทว่า อันเดรีย ดอสเซนา แบ็กซ้ายตัวสำรองยังสไลด์ขวางได้ทันเวลา

หงส์แดง หาทางข่มขวัญบ้างในนาทีที่ 76 แต่ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาของ อลอนโซ ที่เจตนายิงอ้อมกำแพงยังเลี้ยวเข้าหากรอบไม่พอจึงหลุดออกหลัง ช่วงที่เหลือแม้ โอแอ็มจะรุกหนัก แต่ก็ทวงประตูคืนไม่สำเร็จ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 11 คะแนน กอดคอ แอตเลติโก มาดริด ที่เฉือน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน 2-1 เข้ารอบน็อกเอาต์

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
– โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เดิร์ก เคาท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, เฟอร์นานโด ตอร์เรส

โอลิมปิก มาร์กเซย – สตีฟ ม็องดองดา, โลร็องต์ บอนนาร์, โรนัลด์ ซูบาร์, วิตอริโน ฮิลตัน, ตาเย ตาอิโว, ลอริค กานา, เบอนัวต์ เชย์รู, คาริม ซิยานี, ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา, บาการี โกเน, มามาดู เนียง

ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่ม เอ
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) เสมอ เชลซี (อังกฤษ) 1-1
(นิโกลาส์ อเนลกา 0-1 น.60), (อาลู ดิยาร์รา 1-1 น.83)
ซีเอฟอาร์ คลูจ (โรมาเนีย) แพ้ โรมา (อิตาลี) 1-3 (มัตเตโอ บริกี 0-1 น.11), (ฟรานเชสโก ต๊อตติ 0-2 น.23), (ยุสซุฟ โกเน 1-2 น.30), (มัตเตโอ บริกี 1-3 น.64)

กลุ่ม บี
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) แพ้ พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-1
(โจซู ซาร์เรียกี 0-1 น.69)
อนอร์โธซิส ฟามากุสตา (ไซปรัส) เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี) 2-2 (นิคอส นิโคลาอู 1-0 น.62), (ซาวิโอ บอร์โตลินี 2-0 น.68), (ดีเอโก 2-1 จุดโทษ น.72), (ฮูโก อัลเมดา 2-2 น.87)

กลุ่ม ซี
ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) ชนะ เอฟซี บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) 5-0
(จาดสัน 1-0 น.32), (วิลเลียน 2-0 น.51), (จาดสัน 3-0 น.65), (จาดสัน 4-0 น.72), (เยฟเฮน เซเลซนียอฟ 5-0 น.75)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) แพ้ บาร์เซโลนา (สเปน) 2-5 (เธียร์รี อองรี 0-1 น.14), (เคราร์ด ปิเก 0-2 น.17), (ลิโอเนล เมสซี 0-3 น.49), (มิเกล เวโลโซ 1-3 น.65), (เลียดสัน 2-3 น.66), (มาร์โก คาเนรา 2-4 ทำเข้าประตูตัวเอง น.67), (โบยาน เคอร์คิช 2-5 จุดโทษ น.73)

กลุ่ม ดี
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 2-1
(ซิเมา ซาโบรซา 1-0 น.14), (มักซี โรดริเกซ 2-0 น.28), (แดนนี โคเวอร์มันส์ 2-1 น.47)
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) ชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 1-0 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-0 น.23)
กำลังโหลดความคิดเห็น