ลิเวอร์พูล เกือบเอาตัวไม่รอดในรังของตัวเองหลังถูก แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำ ก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะมาซัดจุดโทษในช่วงทดเจ็บตีเสมอแบบฉิวเฉียด 1-1 ขณะที่ โรมา คืนฟอร์มสอนเชิง เชลซี 3-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2551
กลุ่ม ดี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1 – 1 แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ลงเล่นในถิ่นรับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด นัดนี้เจ้าบ้านไม่มี เฟอร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าเด็กเก่าของทีมเยือนแม้กระทั่งในรายชื่อตัวสำรอง ทำให้ ร็อบบี คีน รับหน้าที่กองหน้าตัวเป้า ขณะที่อาคันตุกะก็ดร็อป เซอร์คิโอ อกูเอโร ดาวยิงตัวฉกาจไว้ข้างสนาม โดยมี ดีเอโก ฟอร์ลัน ลงล่าตาข่าย
เปิดฉากมาได้เพียง 2 นาที หงส์แดง มีโอกาสคุกคามแนวรับตราหมีก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่โยนโด่งเข้ามา คีน เข้าชาร์จจังหวะแรกแต่โดนไม่เต็ม บอลทะลักไปเข้าทางปืนของ ดาเนียล แอกเกอร์ ที่พยายามล้มตัวยิง แต่ก็ถูกแหย่จากด้านหลัง ทำให้ เลโอ ฟรังโก ป้องกันเอาไว้ได้
เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 14 จากการทิ้งบอลยาวของ ชาบี อลอนโซ แล้ว ร็อบบี คีน โฉบเข้ามาเอาบอลตัดหน้า จอห์นนี ไฮติงกา แถวเส้นเขตโทษก่อนวางเท้าหวดด้วยขวา ลูกติดไซด์ก้อยหนีมือ เลโอ ฟรังโก เฉี่ยวออกไปทางเสาแรกแบบมีเสียว
แอต.มาดริด หาจังหวะตอบโต้ได้น่ากลัวในนาทีที่ 19 จากการเคาน์เตอร์ แอตแทค โดย ฟอร์ลัน จ่ายออกทางกราบซ้ายให้ มาเรียโน เปร์เนีย ที่เติมเกมขึ้นมาเบิ้ลต่อมาหน้าประตู บอลเลยมาถึง ซิเมา ซาโบรซา ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งลูกเหินข้ามคาน
ลิเวอร์พูล ยังเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 27 ฟาบิโอ ออเรลิโอ ดันสูงขึ้นมาตะบันนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ เปาโล อัสซุนเซา ที่พุ่งเข้ามาบล็อกออกหลัง ก่อนที่ ฮาเวียร์ มาสเชราโน จะเก็บตกจากแถวสองหลังจาก เลโอ ฟรังโก ชกลูกเตะมุมออกมา แต่มิดฟิลด์อาร์เจนตินาก็ปั่นโค้งไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 33 เจมี คาร์ราเกอร์ ผ่านบอลจากกลางสนามตัดแนวรับทีมเยือนให้ คีน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ และพยายามแตะหลบ เลโอ ฟรังโก แต่นายทวารอาร์เจนไตน์ยังล้มตัวเหยียดแขนไปขัดจังหวะทันก่อนที่หัวหอกไอริชจะง้างเท้ายิง
จากนั้น 4 นาที แอต.มาดริด ช็อกเหล่า เดอะ ค็อป ด้วยการเจาะตาข่ายขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ไฮติงกา วางบอลยาวให้ อันโตนิโอ โลเปซ สอดขึ้นไปเอาบอลทางด้านขวาก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ มักซี โรดริเกซ แตะลูกหนี คาร์ราเกอร์ แล้วกดด้วยขวาเต็มข้อส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาสองอย่างเฉียบขาด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง หงส์แดงยังคงบุกเป็นระลอก แต่ตราหมีก็หาโอกาสลุ้นทำประตูกดดันได้เช่นกัน นาทีที่ 50 ฟอร์ลัน ซัดเรียดหน้าเขตโทษไปตรงตัว โฮเซ เรนา ถัดมานาทีเดียวก็มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น เมื่อ คีน พยายามหาจังหวะยิงในเขตโทษแล้วบอลกระดอนไปโดนมือของ หลุยส์ เปเรีย แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อท่ามกลางเสียงประท้วงของนักเตะเจ้าบ้าน
ลิเวอร์พูล น่าตีเสมอได้ในนาทีที่ 57 เมื่อ ออเรลิโอ เปิดฟรีคิกไปหน้าประตู แอกเกอร์ โผเข้าโขกเช็ดตัดหน้า เลโอ ฟรังโก แต่บอลลอยไปหล่นบนหลังคาแบบใกล้เคียง นาทีที่ 64 แอกเกอร์ ดันสูงขึ้นมาหาจังหวะล้มตัววอลเลย์ไปเข้าซอง เลโอ ฟรังโก จากนั้น 2 นาที สตีเวน เจอร์ราร์ด ลองกระทุ้งนอกกรอบเขตโทษเฉี่ยวเสาแรก
ผ่านมานาทีที่ 70 เจ้าถิ่นต่อบอลกันอย่างไหลลื่นก่อนที่ คีน จะชิ่งคืนให้ เจอร์ราร์ด แปเหินข้ามคาน ล่วงมาถึงนาทีที่ 83 ดาวิด เอ็นก็อก กองหน้าสำรองได้ยิงมุมแคบติดตัว เลโอ ฟรังโก ที่เสาแรก จากนั้น แอกเกอร์ ได้โหม่งลูกเตะมุม แต่โดนบอลถากๆ จึงออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ คาร์ราเกอร์ จะลองซัดไกล ทว่า เลโอ ฟรังโก ปัดข้ามคานออกไปได้
จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ลิเวอร์พูล ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด ถูก เปร์เนีย กระแทกในเขตโทษ และก็เป็น สตีวี่จี ที่ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดจึงรอดตัวด้วยผลเสมอ 1-1 อย่างหวุดหวิด เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนเท่ากับ แอต.มาดริด แต่รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มดี เนื่องจากผลต่างประตูได้-เสียเป็นรองตราหมี 1 ลูก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, เดิร์ก เคาท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, ร็อบบี คีน
แอตเลติโก มาดริด – เลโอ ฟรังโก, อันโตนิโอ โลเปซ, หลุยส์ เปเรีย, จอหน์นี ไฮติงกา, มาเรียโน เปร์เนีย, เปาโล อัสซุนเซา, ราอูล การ์เซีย, มักซี โรดริเกซ, มานิช ริเบโร, ซิเมา ซาโบรซา, ดีเอโก ฟอร์ลัน
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4
กลุ่ม เอ
โรมา (อิตาลี) ชนะ เชลซี (อังกฤษ) 3-1 (คริสเตียน ปานุชชี 1-0 น.34), (เมียร์โก วูชินิช 2-0 น.48), (เมียร์โก วูชินิช 3-0 น.58), (จอห์น เทอร์รี 3-1 น.75)
ซีเอฟอาร์ คลูจ (โรมาเนีย) แพ้ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) 1-2 (โยอันน์ กูร์คุฟฟ์ 0-1 น.6), (ดานี 1-1 น.9), (เวนเดล 1-2 น.38)
กลุ่ม บี
อนอร์โธซิส ฟามากุสตา (ไซปรัส) เสมอ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 3-3 (มาริโอ บาโลเตลลี 0-1 น.13), (เซดริก บาร์ดง 1-1 น.31), (มาร์โก มาเตรัซซี 1-2 น.44), (จอร์กอส ปานากี 2-2 น.45), (นิโคลอส ฟรูซอส 3-2 น.50), (ฮูลิโอ ครูซ 3-3 น.80)
แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี) แพ้ พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-3 (วาเจลิส มันต์ซิออส 0-1 น.58), (จอร์จอส คารากูนิส 0-2 น.70), (อเล็กซานดรอส ซิโอลิส 0-3 น.83)
กลุ่ม ซี
บาร์เซโลนา (สเปน) เสมอ เอฟซี บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) 1-1 (ลิโอเนล เมสซี 1-0 น.62), (เอเรน แดร์ดิย็อค 1-1 น.82)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ชนะ ชัคห์เตอร์ โดเนสค์ (ยูเครน) 1-0 (แดร์เล 1-0 น.73)
กลุ่ม ดี
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) เสมอ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 1-1 (มักซี โรดริเกซ 0-1 น.37), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-1 จุดโทษ น.90)
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 3-0 (บาการี โกเน 1-0 น.30), (มามาดู เนียง 2-0 น.63), (มามาดู เนียง 3-0 น.71)
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2551
กลุ่ม ดี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1 – 1 แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ลงเล่นในถิ่นรับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด นัดนี้เจ้าบ้านไม่มี เฟอร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าเด็กเก่าของทีมเยือนแม้กระทั่งในรายชื่อตัวสำรอง ทำให้ ร็อบบี คีน รับหน้าที่กองหน้าตัวเป้า ขณะที่อาคันตุกะก็ดร็อป เซอร์คิโอ อกูเอโร ดาวยิงตัวฉกาจไว้ข้างสนาม โดยมี ดีเอโก ฟอร์ลัน ลงล่าตาข่าย
เปิดฉากมาได้เพียง 2 นาที หงส์แดง มีโอกาสคุกคามแนวรับตราหมีก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่โยนโด่งเข้ามา คีน เข้าชาร์จจังหวะแรกแต่โดนไม่เต็ม บอลทะลักไปเข้าทางปืนของ ดาเนียล แอกเกอร์ ที่พยายามล้มตัวยิง แต่ก็ถูกแหย่จากด้านหลัง ทำให้ เลโอ ฟรังโก ป้องกันเอาไว้ได้
เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 14 จากการทิ้งบอลยาวของ ชาบี อลอนโซ แล้ว ร็อบบี คีน โฉบเข้ามาเอาบอลตัดหน้า จอห์นนี ไฮติงกา แถวเส้นเขตโทษก่อนวางเท้าหวดด้วยขวา ลูกติดไซด์ก้อยหนีมือ เลโอ ฟรังโก เฉี่ยวออกไปทางเสาแรกแบบมีเสียว
แอต.มาดริด หาจังหวะตอบโต้ได้น่ากลัวในนาทีที่ 19 จากการเคาน์เตอร์ แอตแทค โดย ฟอร์ลัน จ่ายออกทางกราบซ้ายให้ มาเรียโน เปร์เนีย ที่เติมเกมขึ้นมาเบิ้ลต่อมาหน้าประตู บอลเลยมาถึง ซิเมา ซาโบรซา ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งลูกเหินข้ามคาน
ลิเวอร์พูล ยังเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 27 ฟาบิโอ ออเรลิโอ ดันสูงขึ้นมาตะบันนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ เปาโล อัสซุนเซา ที่พุ่งเข้ามาบล็อกออกหลัง ก่อนที่ ฮาเวียร์ มาสเชราโน จะเก็บตกจากแถวสองหลังจาก เลโอ ฟรังโก ชกลูกเตะมุมออกมา แต่มิดฟิลด์อาร์เจนตินาก็ปั่นโค้งไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 33 เจมี คาร์ราเกอร์ ผ่านบอลจากกลางสนามตัดแนวรับทีมเยือนให้ คีน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ และพยายามแตะหลบ เลโอ ฟรังโก แต่นายทวารอาร์เจนไตน์ยังล้มตัวเหยียดแขนไปขัดจังหวะทันก่อนที่หัวหอกไอริชจะง้างเท้ายิง
จากนั้น 4 นาที แอต.มาดริด ช็อกเหล่า เดอะ ค็อป ด้วยการเจาะตาข่ายขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ไฮติงกา วางบอลยาวให้ อันโตนิโอ โลเปซ สอดขึ้นไปเอาบอลทางด้านขวาก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ มักซี โรดริเกซ แตะลูกหนี คาร์ราเกอร์ แล้วกดด้วยขวาเต็มข้อส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาสองอย่างเฉียบขาด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง หงส์แดงยังคงบุกเป็นระลอก แต่ตราหมีก็หาโอกาสลุ้นทำประตูกดดันได้เช่นกัน นาทีที่ 50 ฟอร์ลัน ซัดเรียดหน้าเขตโทษไปตรงตัว โฮเซ เรนา ถัดมานาทีเดียวก็มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น เมื่อ คีน พยายามหาจังหวะยิงในเขตโทษแล้วบอลกระดอนไปโดนมือของ หลุยส์ เปเรีย แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อท่ามกลางเสียงประท้วงของนักเตะเจ้าบ้าน
ลิเวอร์พูล น่าตีเสมอได้ในนาทีที่ 57 เมื่อ ออเรลิโอ เปิดฟรีคิกไปหน้าประตู แอกเกอร์ โผเข้าโขกเช็ดตัดหน้า เลโอ ฟรังโก แต่บอลลอยไปหล่นบนหลังคาแบบใกล้เคียง นาทีที่ 64 แอกเกอร์ ดันสูงขึ้นมาหาจังหวะล้มตัววอลเลย์ไปเข้าซอง เลโอ ฟรังโก จากนั้น 2 นาที สตีเวน เจอร์ราร์ด ลองกระทุ้งนอกกรอบเขตโทษเฉี่ยวเสาแรก
ผ่านมานาทีที่ 70 เจ้าถิ่นต่อบอลกันอย่างไหลลื่นก่อนที่ คีน จะชิ่งคืนให้ เจอร์ราร์ด แปเหินข้ามคาน ล่วงมาถึงนาทีที่ 83 ดาวิด เอ็นก็อก กองหน้าสำรองได้ยิงมุมแคบติดตัว เลโอ ฟรังโก ที่เสาแรก จากนั้น แอกเกอร์ ได้โหม่งลูกเตะมุม แต่โดนบอลถากๆ จึงออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ คาร์ราเกอร์ จะลองซัดไกล ทว่า เลโอ ฟรังโก ปัดข้ามคานออกไปได้
จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ลิเวอร์พูล ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด ถูก เปร์เนีย กระแทกในเขตโทษ และก็เป็น สตีวี่จี ที่ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาดจึงรอดตัวด้วยผลเสมอ 1-1 อย่างหวุดหวิด เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนเท่ากับ แอต.มาดริด แต่รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มดี เนื่องจากผลต่างประตูได้-เสียเป็นรองตราหมี 1 ลูก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, เดิร์ก เคาท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอรา, ร็อบบี คีน
แอตเลติโก มาดริด – เลโอ ฟรังโก, อันโตนิโอ โลเปซ, หลุยส์ เปเรีย, จอหน์นี ไฮติงกา, มาเรียโน เปร์เนีย, เปาโล อัสซุนเซา, ราอูล การ์เซีย, มักซี โรดริเกซ, มานิช ริเบโร, ซิเมา ซาโบรซา, ดีเอโก ฟอร์ลัน
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4
กลุ่ม เอ
โรมา (อิตาลี) ชนะ เชลซี (อังกฤษ) 3-1 (คริสเตียน ปานุชชี 1-0 น.34), (เมียร์โก วูชินิช 2-0 น.48), (เมียร์โก วูชินิช 3-0 น.58), (จอห์น เทอร์รี 3-1 น.75)
ซีเอฟอาร์ คลูจ (โรมาเนีย) แพ้ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) 1-2 (โยอันน์ กูร์คุฟฟ์ 0-1 น.6), (ดานี 1-1 น.9), (เวนเดล 1-2 น.38)
กลุ่ม บี
อนอร์โธซิส ฟามากุสตา (ไซปรัส) เสมอ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 3-3 (มาริโอ บาโลเตลลี 0-1 น.13), (เซดริก บาร์ดง 1-1 น.31), (มาร์โก มาเตรัซซี 1-2 น.44), (จอร์กอส ปานากี 2-2 น.45), (นิโคลอส ฟรูซอส 3-2 น.50), (ฮูลิโอ ครูซ 3-3 น.80)
แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี) แพ้ พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-3 (วาเจลิส มันต์ซิออส 0-1 น.58), (จอร์จอส คารากูนิส 0-2 น.70), (อเล็กซานดรอส ซิโอลิส 0-3 น.83)
กลุ่ม ซี
บาร์เซโลนา (สเปน) เสมอ เอฟซี บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) 1-1 (ลิโอเนล เมสซี 1-0 น.62), (เอเรน แดร์ดิย็อค 1-1 น.82)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ชนะ ชัคห์เตอร์ โดเนสค์ (ยูเครน) 1-0 (แดร์เล 1-0 น.73)
กลุ่ม ดี
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) เสมอ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 1-1 (มักซี โรดริเกซ 0-1 น.37), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-1 จุดโทษ น.90)
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 3-0 (บาการี โกเน 1-0 น.30), (มามาดู เนียง 2-0 น.63), (มามาดู เนียง 3-0 น.71)