“ราชันชุดขาว” รีล มาดริด อาศัยจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ กอนซาโล ฮิกัวอิน ช่วยให้บุกเชือด “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ถึงรัง 2-1 ในเกมดาร์บีแมตช์ กรุงมาดริด อันสนุกดุเดือดที่ทั้งสองฝ่ายเหลือผู้เล่นฝั่งละ 10 คน
ศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน “มาดริด ดาร์บีแมตช์”
แอตเลติโก มาดริด 1-2 รีล มาดริด
ฮาเวียร์ อากีร์เร นำพลพรรค “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด เปิดรังรับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมเมือง รีล มาดริด โดยเจ้าถิ่นได้ ดีเอโก ฟอร์ลัน ฟิตกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ เซอร์จิโอ อกูเอโร แต่ก็ขาด มักซี โรดริเกซ ในการขึ้นเกมแดนกลาง ด้าน แบรนด์ ชูสเตอร์ ไม่สามารถปล่อย โฮเซ มาเรีย กูตี และ มาฮามาดู ดิยาร์รา ลงช่วยแดนกลาง แต่ได้ เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ กลับมาปั้นเกมให้ ราอูล กอนซาเลซ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันแค่นาทีเดียว แฟนๆ “ราชันชุดขาว” ที่ตามมาเชียร์ถึงบิเซนเต กัลเดรอน ได้กระโดดดีใจแต่หัววัน เมื่อ รุด ฟาน นิสเตลรอย ลักไก่ยิงหักข้อบริเวณกรอบโทษส่งลูกหนังพุ่งเสียบมุมสกอร์เป็น 1-0 ขณะที่ เลโอ ฟรังโก สมาธิไม่ดีและก็พุ่งไปปัดไม่ทัน ให้หลังสองนาทีถัดมา รีล มาดริด เกือบทิ้งห่าง เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งลองซัดบอลไซด์โค้งนายทวารเจ้าถิ่นแก้ตัวปัดบอลชนคานออกมา
พอเสียประตูไป แอต.มาดริด กลับมาตั้งตัวได้ครองบอลได้เหนือกว่า แต่ถึงครึ่งชั่วโมงพอดี “ตราหมี” กลับเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ หลุยส์ เปเรีย เอามือไปฟาดเข้าที่หน้า ชไนจ์เดอร์ เต็มๆ ผู้ตัดสิน คาร์ลอส โกเมซ ควักใบเหลือง-แดงไล่กองหลังเจ้าบ้านออกไป เกมเริ่มเดือดเป็นลำดับ อีกเก้านาทีถัดมา รีล มาดริด มาเหลือผู้เล่นเท่ากัน ฟาน นิสเตลรอย ไปเสียบสกัดช้าใส่ มานิช ริเบโร ทำให้เชิ้ตดำชักใบแดงไล่ดาวยิงชาวดัตช์ออกจากสนามเช่นกัน จบ 45 นาทีแรกผู้มาเยือนนำไปก่อน
เปิดฉากครึ่งหลัง ฮาเวียร์ อากีร์เร แก้เกมด้วยการส่ง ซิเมา ซาโบรซา ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุกและก็เสี่ยงถอด มาเรียโน เปร์เนีย แบ็กซ้ายออกไป และเจ้าบ้านก็เดินเกมใส่เพื่อทวงประตูคืนทันที เกือบได้เฮ เอเวอร์ บาเนกา หลุดไปยิงหักข้อส่งลูกหนังผ่านมือ อีเคร์ คาซียาส แต่ก็ผ่านเสาสองไป นาทีที่ 50 มานิช จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงดีดๆ แฉลบกองหลังทีมเยือนออกหลังไป
แต่ รีล มาดริด ก็ได้สวนกลับมาแบบได้เสียว กอนซาโล ฮิกัวอิน หมุนตัวยิงจ่อๆ ในกรอบโทษ ฟรังโก โชว์เซฟบอลกระฉอกมาเข้าทาง รูเบน เดอ ลาเรด อัดสวนเข้าไปนายด่านเจ้าบ้านใช้ปฏิกิริยาปัดได้อีกอย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 56 เซอร์จิโอ อกูเอโร ลากขึ้นมายิงบอลหักข้อหลุดเสา แอต.มาดริด ชวดได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านครึ่งทางครึ่งหลังทีมเยือนสลับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาทำเกมแทน ชไนจ์เดอร์ เพื่อนร่วมทีมชาติฮอลแลนด์บ้าง
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แอต.มาดริด โหมบุกใส่เป็นระลอก ซิเมา สับไกเฉียดคานไป ห้านาทีถัดมาเมื่อเจาะไม่เข้า บาเนกา ลองยิงจากนอกกรอบแต่บอลพุ่งเรียดไปเข้าซอง คาซียาส ท้ายเกมเจ้าถิ่นโหมบุกกระหน่ำแต่เกือบโดนจังหวะสวนกลับฝังชัย ฮิกัวอิน ยิงเต็มๆ ฟรังโก ปัดไว้ได้บอลกระดอนไปเข้าทาง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท สวนเข้ามาอีกแต่นายทวารอาร์เจนไตน์ วิ่งไปคว้าบอลจากเส้น นาทีสุดท้าย ความพยายามของ “ตราหมี” สำเร็จจนได้ ซิเมา ปั่นฟรีคิกให้ทีมเสมอ 1-1
แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายนาทีที่ 6 รอยสตัน เดรนเธ ปีกสำรองชาวดัตช์ของ รีล มาดริด แตะเข้าเขตโทษก่อนโดน จอห์นนี ไฮติงกา สอยร่วงไป ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษและก็เป็น ฮิกัวอิน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดช่วยให้ รีล มาดริด บุกมาเฉือนชัย 2-1 ขยับขึ้นมาเป็น 16 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ แอต.มาดริด มีอยู่ 9 แต้มดังเดิม อยู่ที่ 7
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แอต.มาดริด : เลโอ ฟรังโก , หลุยส์ เปเรีย , โทมัส อูจ์ฟาลูซี , จอห์นนี ไฮติงกา , มาเรียโน เปร์เนีย , เอเวอร์ บาเนกา , เปาโล อาสซุนเซา , มานิช ริเบโร , ราอูล การ์เซีย , ดีเอโก ฟอร์ลัน , เซอร์จิโอ อกูเอโร
รีล มาดริด : อีเคร์ คาซียาส , เซอร์จิโอ รามอส , เปเป , ฟาบิโอ คันนาวาโร , มาร์เซโล , เฟอร์นานโด กาโก , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , รูเบน เดอ ลาเรด , กอนซาโล ฮิกัวอิน , รุด ฟาน นิสเตลรอย , ราอูล กอนซาเลซ
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่วันเดียวกัน ปรากฏว่า เอสปันญอล เปิดรังยันเสมอ บียาร์รีล 0-0 ทำให้ “เรือดำน้ำ” บียาร์รีล มีเพิ่มเป็น 17 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงดังเดิม ขณะที่ “นกแก้ว” มีตุนเป็น 9 แต้ม รั้งอันดับ 9 ของตาราง
ศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน “มาดริด ดาร์บีแมตช์”
แอตเลติโก มาดริด 1-2 รีล มาดริด
ฮาเวียร์ อากีร์เร นำพลพรรค “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด เปิดรังรับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมเมือง รีล มาดริด โดยเจ้าถิ่นได้ ดีเอโก ฟอร์ลัน ฟิตกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ เซอร์จิโอ อกูเอโร แต่ก็ขาด มักซี โรดริเกซ ในการขึ้นเกมแดนกลาง ด้าน แบรนด์ ชูสเตอร์ ไม่สามารถปล่อย โฮเซ มาเรีย กูตี และ มาฮามาดู ดิยาร์รา ลงช่วยแดนกลาง แต่ได้ เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ กลับมาปั้นเกมให้ ราอูล กอนซาเลซ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันแค่นาทีเดียว แฟนๆ “ราชันชุดขาว” ที่ตามมาเชียร์ถึงบิเซนเต กัลเดรอน ได้กระโดดดีใจแต่หัววัน เมื่อ รุด ฟาน นิสเตลรอย ลักไก่ยิงหักข้อบริเวณกรอบโทษส่งลูกหนังพุ่งเสียบมุมสกอร์เป็น 1-0 ขณะที่ เลโอ ฟรังโก สมาธิไม่ดีและก็พุ่งไปปัดไม่ทัน ให้หลังสองนาทีถัดมา รีล มาดริด เกือบทิ้งห่าง เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งลองซัดบอลไซด์โค้งนายทวารเจ้าถิ่นแก้ตัวปัดบอลชนคานออกมา
พอเสียประตูไป แอต.มาดริด กลับมาตั้งตัวได้ครองบอลได้เหนือกว่า แต่ถึงครึ่งชั่วโมงพอดี “ตราหมี” กลับเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ หลุยส์ เปเรีย เอามือไปฟาดเข้าที่หน้า ชไนจ์เดอร์ เต็มๆ ผู้ตัดสิน คาร์ลอส โกเมซ ควักใบเหลือง-แดงไล่กองหลังเจ้าบ้านออกไป เกมเริ่มเดือดเป็นลำดับ อีกเก้านาทีถัดมา รีล มาดริด มาเหลือผู้เล่นเท่ากัน ฟาน นิสเตลรอย ไปเสียบสกัดช้าใส่ มานิช ริเบโร ทำให้เชิ้ตดำชักใบแดงไล่ดาวยิงชาวดัตช์ออกจากสนามเช่นกัน จบ 45 นาทีแรกผู้มาเยือนนำไปก่อน
เปิดฉากครึ่งหลัง ฮาเวียร์ อากีร์เร แก้เกมด้วยการส่ง ซิเมา ซาโบรซา ลงมาเพิ่มพลังในเกมรุกและก็เสี่ยงถอด มาเรียโน เปร์เนีย แบ็กซ้ายออกไป และเจ้าบ้านก็เดินเกมใส่เพื่อทวงประตูคืนทันที เกือบได้เฮ เอเวอร์ บาเนกา หลุดไปยิงหักข้อส่งลูกหนังผ่านมือ อีเคร์ คาซียาส แต่ก็ผ่านเสาสองไป นาทีที่ 50 มานิช จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงดีดๆ แฉลบกองหลังทีมเยือนออกหลังไป
แต่ รีล มาดริด ก็ได้สวนกลับมาแบบได้เสียว กอนซาโล ฮิกัวอิน หมุนตัวยิงจ่อๆ ในกรอบโทษ ฟรังโก โชว์เซฟบอลกระฉอกมาเข้าทาง รูเบน เดอ ลาเรด อัดสวนเข้าไปนายด่านเจ้าบ้านใช้ปฏิกิริยาปัดได้อีกอย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 56 เซอร์จิโอ อกูเอโร ลากขึ้นมายิงบอลหักข้อหลุดเสา แอต.มาดริด ชวดได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านครึ่งทางครึ่งหลังทีมเยือนสลับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาทำเกมแทน ชไนจ์เดอร์ เพื่อนร่วมทีมชาติฮอลแลนด์บ้าง
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แอต.มาดริด โหมบุกใส่เป็นระลอก ซิเมา สับไกเฉียดคานไป ห้านาทีถัดมาเมื่อเจาะไม่เข้า บาเนกา ลองยิงจากนอกกรอบแต่บอลพุ่งเรียดไปเข้าซอง คาซียาส ท้ายเกมเจ้าถิ่นโหมบุกกระหน่ำแต่เกือบโดนจังหวะสวนกลับฝังชัย ฮิกัวอิน ยิงเต็มๆ ฟรังโก ปัดไว้ได้บอลกระดอนไปเข้าทาง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท สวนเข้ามาอีกแต่นายทวารอาร์เจนไตน์ วิ่งไปคว้าบอลจากเส้น นาทีสุดท้าย ความพยายามของ “ตราหมี” สำเร็จจนได้ ซิเมา ปั่นฟรีคิกให้ทีมเสมอ 1-1
แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายนาทีที่ 6 รอยสตัน เดรนเธ ปีกสำรองชาวดัตช์ของ รีล มาดริด แตะเข้าเขตโทษก่อนโดน จอห์นนี ไฮติงกา สอยร่วงไป ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษและก็เป็น ฮิกัวอิน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดช่วยให้ รีล มาดริด บุกมาเฉือนชัย 2-1 ขยับขึ้นมาเป็น 16 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ แอต.มาดริด มีอยู่ 9 แต้มดังเดิม อยู่ที่ 7
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แอต.มาดริด : เลโอ ฟรังโก , หลุยส์ เปเรีย , โทมัส อูจ์ฟาลูซี , จอห์นนี ไฮติงกา , มาเรียโน เปร์เนีย , เอเวอร์ บาเนกา , เปาโล อาสซุนเซา , มานิช ริเบโร , ราอูล การ์เซีย , ดีเอโก ฟอร์ลัน , เซอร์จิโอ อกูเอโร
รีล มาดริด : อีเคร์ คาซียาส , เซอร์จิโอ รามอส , เปเป , ฟาบิโอ คันนาวาโร , มาร์เซโล , เฟอร์นานโด กาโก , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , รูเบน เดอ ลาเรด , กอนซาโล ฮิกัวอิน , รุด ฟาน นิสเตลรอย , ราอูล กอนซาเลซ
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่วันเดียวกัน ปรากฏว่า เอสปันญอล เปิดรังยันเสมอ บียาร์รีล 0-0 ทำให้ “เรือดำน้ำ” บียาร์รีล มีเพิ่มเป็น 17 คะแนนจากการลงสนาม 7 นัด ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงดังเดิม ขณะที่ “นกแก้ว” มีตุนเป็น 9 แต้ม รั้งอันดับ 9 ของตาราง
