xs
xsm
sm
md
lg

ขุดตำนานท็อป 5 นัดตัดเชือก ‘เอฟเอ คัพ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศึกฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดของโลก “เอฟเอ คัพ” เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้วในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทีมข่าว MGR Sport ได้ขุดตำนานท็อป 5 นัดตัดเชือกที่น่าจดจำที่สุดของวงการลูกหนังเมืองผู้ดีมาให้ประจักษ์

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 อาร์เซนอล (สนามเวมบลีย์ เมื่อปี 1991)
แบร์รี เดวีส์ นักวิเคราะห์วิจารณ์เกมลูกหนังชื่อดังสมัยนั้นถึงกับกล่าวสรรเสริญเยินยอเมื่อเห็นลูกฟรีคิกระยะ 35 หลาของ พอล แกสคอยน์ พุ่งเสียบตาข่ายอาร์เซนอล นั่นถือเป็นหนึ่งในประตูสุดสวยลูกหนึ่งในศึกเอฟเอ คัพ จากนั้นก็เป็น แกรี ลินิเกอร์ เบิ้ลประตูทำให้ “ปืนใหญ่” หมดสิทธิกลับมา แม้ อลัน สมิธ ทำประตูตีไข่แตกให้ทีมก็ตาม นี่ถือเป็นรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แมตช์แรกในประวัติศาสตร์ที่เล่นกันที่เวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ซึ่ง “แกซซา” พิสูจน์ให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ ทว่าน่าเสียดายที่เขาลงสนามได้เพียง 15 นาทีในรอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม “ไก่เดือยทอง” ยังจิกแชมป์ไปได้จากการต่อเวลาโค่น “สิงห์สั่งป่า” น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-1

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 โอลด์แฮม (สนามเมนโรด เมื่อปี 1990)
ทุกคนต่างพูดถึงประตูชัยของ มาร์ค โรบินส์ ที่ช่วยเซฟเก้าอี้ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เอาไว้จากชัยชนะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเหนือ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในรอบที่สาม แต่ไฮไลท์ของศึกเอฟเอ คัพ ประจำปี 1990 เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอลูกฮึดของ “หมูชรา” โอลด์แฮม โดย เอิร์ล บาร์เรตต์ ยิงให้ทีมรองบ่อนนำก่อน แต่สองประตูของ นีล เว็บบ์ เกือบทำให้ “ผีแดง” ไปสู่เวมบลีย์ ทว่า เอียน มาร์แชลล์ ยิงตีเสมอทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษเกิดขึ้น และก็เป็น โรเจอร์ พาลเมอร์ ดับฝันของ แดนนี วอลเลซ ที่หวังทำประตูชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ เฟอร์กี ก็รีเพลย์แมตช์เฉือนชนะ โอลด์แฮม ไปได้ 2-1 ก่อนที่ทีมจะขึ้นไปคว้าแชมป์เอาไว้ได้จากการมีชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ 1-0 ในนัดแข่งใหม่

มิดเดิลสโบรช์ 3-3 เชสเตอร์ฟิลด์ (สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 1997)
ตำนาน “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” เกือบเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปี 1997 เมื่อดาวรุ่งอย่าง เควิน เดวีส์ ยิงให้ เชสเตอร์ฟิลด์ ออกนำก่อน จากนั้น ฌอน ดิช ซัดจุดโทษให้ทีมจากดิวิชั่น 3 ขึ้นหน้าถึง 2-0 สถานการณ์ของ มิดเดิลสโบรช์ ย่ำแย่เมื่อ วลาดิเมียร์ คินเดอร์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม อย่างไรก็ตาม ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี ตีไข่แตกมาได้ ก่อนที่ เคร็ก ฮิกเนตต์ สวมบทฮีโร่ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป รูปเกมพลิกผันเมื่อ จิอันลูกา เฟสตา ทำให้ “เดอะ โบโร” นำครั้งแรกของเกม แต่ท้ายที่สุด เจมี ฮีวิตต์ ทำให้แฟนๆ ได้ฝันถึงนัดแข่งใหม่ อย่างไรก็ดี มิดเดิลสโบรช์ ไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอยไปอีกถล่มเอาชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ 3-0

นัดรีเพลย์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 อาร์เซนอล (สนามวิลลา ปาร์ค เมื่อปี 1999)
นัดแรกเสมอกันมาจืดๆ 0-0 แต่พอเข้าสู่นัดแข่งใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำก่อนจาก เดวิด เบ็คแฮม ทว่า เดนนิส เบิร์กแคมป์ ทวงประตูคืนให้ อาร์เซนอล ได้สำเร็จ จากนั้น “ปืนใหญ่” ต้องสู้กับสปิริตของ “ผีแดง” เมื่อ รอย คีน โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม อีกทั้ง ปีเตอร์ ชไมเคิล ยังโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันลูกยิงของ “ไอซ์เบิร์ก”  ไว้ได้ทำให้เกมต้องยื้อไปอีกครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ ไรอัน กิกส์ จะฉกชิงการครองบอลมาจาก ปาทริค วิเอรา กระชากลากเลื้อยเข้าไปยิงบอลตุงตาข่ายอย่างเหลือเชื่อ ประตูสุดสวยอย่างนี้คงต้องหาโหลดมาดูกันอีกครั้งใน You Tube

คริสตัล พาเลซ 4-3 ลิเวอร์พูล (สนามวิลลา ปาร์ค เมื่อปี 1990)
ไม่มีทฤษฏีตรรกศาสตร์มารองรับว่าทำไม คริสตัล พาเลซ ถึงพลิกล็อกต่อเวลาพิเศษหักปีก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ลงได้ 4-3 แต่นี่ถือเป็นแมตช์แห่งเทพนิยายที่เกิดขึ้นในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อช่วงต้นฤดูกาล ลิเวอร์พูล ดีกรีแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยเคยอัด “ดิ อีเกิลส์” ถล่มทลาย 9-0 มาในรอบตัดเชือก พาเลซ ที่ปราศจาก เอียน ไรท์ กองหน้าความหวังแถมยังโดน ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0 และ 3-2 แต่ช่วงท้ายเกม แอนดี เกรย์ ตามตีเสมอทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ก่อนจะเป็น อลัน พาร์ดิว สวมบทฮีโร่ช่วยให้ทีมรองบ่อนสุดกู่พลิกล็อกชนะไป
แกซซา กระโดดขี่คอเพื่อนเป็นการฉลอง
กิกส์ ยิงประตูแห่งความทรงจำให้แฟนผี
แข้งพาเลซแทบคลั่งหลังหักปีกหงส์แดง
กำลังโหลดความคิดเห็น