เฟอร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกตัวเก่งเบิ้ลสกอร์ช่วย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิกเอาชนะ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-0 ยังตามหลัง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่หนึ่งแต้ม
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจปรับหมากให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในการเปิดแอนฟิลด์เจอกับ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการพัก สตีเวน เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีมที่เจ็บต้นขา ให้ทาง ยอสซี เบนายูน ลงปั้นเกมแทน แนวรับใส่ ดาเนียล แอ็กเกอร์ กับ เอมิลิอาโน อินซัว ลงช่วย ด้าน แซม อัลลาไดซ์ ใช้แท็คติกหัวหอกเพียงคนเดียวให้ทาง คริสโตเฟอร์ แซมบา ซึ่งปกติเป็นกองหลังอาชีพขึ้นไปยืนค้ำ ตัวริมเส้นให้โอกาส คีธ เทรซีย์ ดาวรุ่งกับ สตีเฟน วอร์น็อค ขับเคลื่อนเกม
ก่อนเกมเริ่มขึ้นมีการยืนไว้อาลัยให้แก่โศกนาฏกรรมที่ฮิลล์สโบโร เมื่อ 20 ปีก่อน เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นเจ้าถิ่นดันเกมบุกขึ้นไป เพียง 5 นาที “เดอะ ค็อป” ก็เฮลั่น เจมี คาร์ราเกอร์ หยอดบอลจากกลางสนามให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส พักอกในกรอบโทษก่อนวอลเลย์ด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ พอล โรบินสัน เสียบตาข่ายอย่างสวยงามให้ “หงส์แดง” จิกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว สิบนาทีถัดมาจังหวะสวนกลับของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ผล เดิร์ก เคาท์ ลากขึ้นไปก่อนไหลให้ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ยิงติดเซฟ โรบินสัน บอลกระดอนมาเข้าทาง ตอร์เรส ซ้ำด้วยซ้ายหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทิ้งห่างอีกครั้ง เอมิลิอาโน อินซัว เติมเกมทางกราบซ้ายก่อนเปิดอย่างเหมาะเหม็งให้ เคาท์ โขกเหน่งๆ แค่ 5 หลา โรบินสัน โชว์ปฏิกิริยาปัดออกมาเข้าทาง ยอสซี เบนายูน ซ้ำด้วยซ้ายข้ามคานไป แต่หกนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็หนีห่างเป็น 2-0 จนได้ ชาบี อลอนโซ เปิดฟรีคิกให้ ตอร์เรส โฉบตัดหน้า คริสโตเฟอร์ แซมบา โขกลูกหนังซุกก้นตาข่าย โอกาสแรกของ แบล็คเบิร์น มาเอาท้ายครึ่งแรกแต่ เดวิด ดันน์ ก็ยิงไม่ผ่านมือ โฮเซ เรนา จบ 45 นาทีแรก “หงส์แดง” รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แซม อัลลาไดซ์ แก้เกมให้ทีมเยือนด้วยการใส่ อารอน โดแรน ลงมาเล่นแทน อารอน โมโคเอนา แต่เกมยังเป็น ลิเวอร์พูล ขึงเอาไว้ได้ทั้งหมด อัลเบิร์ต ริเอรา สบโอกาสยิงด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลหลุดออกไป ผ่านหนึ่งชั่วโมง “บิ๊กแซม” ต้องแก้เกมอีกครั้งส่ง คาร์ลอส วิลลานูเอวา ลงปั้นเกมแดนกลางแทน ดันน์ ทางเจ้าบ้านดูผ่อนเกมลงไปเป็นโอกาสให้ “กุหลาบไฟ” ครองบอลได้มากขึ้นแต่ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แบล็คเบิร์น ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง วินเชนโซ เกรลลา บี้แดนกลางแทน ตูกาย เคริโมกลู ช่วง 20 นาทีสุดท้าย และผู้มาเยือนมีลุ้น วิลลานูเอวา โยนให้ แซมบา โขกเน้นๆ หนแรกแต่ก็ไม่ผ่านมือ เรนา นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นทิ้ง 3-0 จากลูกยิงไกลอันสุดสวยของ ดาเนียล แอ็กเกอร์ แถมนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ย้ำชัย 4-0 เมื่อ ลูคัส เลวา ตัวสำรองโหม่งต่อให้ ดาวิด เอ็นก็อก อีกหนึ่งตัวสำรองโขกจ่อๆ ไม่เหลือ หมดเวลาการแข่งขัน “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนนจากการลงสนาม 32 นัด ยังตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงหนึ่งแต้มแถมแข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่ “กุหลาบไฟ” หล่นมารั้งที่ 16 ของตาราง มีอยู่ 34 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลบาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , เอมิลิอาโน อินซัว , ชาบี อลอนโซ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , เดิร์ก เคาท์ , ยอสซี เบนายูน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , อังเดร ออยเยอร์ , ไรอัน เนลเซน , อารอน โมโคเอนา , กาแอล ชิเวต์ , คีธ เทรซีย์ , ตูกาย เคริโมกลู , คีธ แอนดรูว์ส , เดวิด ดันน์ , สตีเฟน วอร์น็อค , คริสโตเฟอร์ แซมบา
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.5) , 2-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.33) , 3-0 : ดาเนียล แอ็กเกอร์ (น.83) , ดาวิด เอ็นก๊อก (น.90)]
เชลซี 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.40) , 2-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.48) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.60) , 4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.63) , 4-1 : แอนดี โอไบรอัน (น.70) , 4-2 : คริส บาแชม (น.74) , 4-3 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.78)]
มิดเดิลสโบรช์ 3-1 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : ตุนกาย ซานลี (น.3) , 1-1 : มานูโช (น.11) , 2-1 : แม็ทธิว เบตส์ (น.29) , 3-1 : มาร์ลอน คิง (น.90)]
ปอร์ทสมัธ 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์
[1-0 : ยูเนส กาบูล (น.33) , 1-1 : โจนาธาน กรีนนิง (น.48) , 1-2 : คริส บรันท์ (น.62) , 2-2 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.65)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : พอล สโคลส์ (น.19) , 1-1 : เคนวิน โจนส์ (น.55) , 1-2 : เฟเดริโก มาเชดา (น.76)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.65)]
วีแกน แอธเลติก 1-4 อาร์เซนอล
[1-0 : อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด (น.18) , 1-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.61) , 1-2 : มิคาเอล ซิลแวสตร์ (น.71) , 1-3 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.90) , 1-4 : อเล็กซานเดอร์ ซง (น.90)]
สโตค ซิตี 1-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : อับดูลาย ฟาย (น.33) , 1-1 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.81)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจปรับหมากให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในการเปิดแอนฟิลด์เจอกับ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยการพัก สตีเวน เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีมที่เจ็บต้นขา ให้ทาง ยอสซี เบนายูน ลงปั้นเกมแทน แนวรับใส่ ดาเนียล แอ็กเกอร์ กับ เอมิลิอาโน อินซัว ลงช่วย ด้าน แซม อัลลาไดซ์ ใช้แท็คติกหัวหอกเพียงคนเดียวให้ทาง คริสโตเฟอร์ แซมบา ซึ่งปกติเป็นกองหลังอาชีพขึ้นไปยืนค้ำ ตัวริมเส้นให้โอกาส คีธ เทรซีย์ ดาวรุ่งกับ สตีเฟน วอร์น็อค ขับเคลื่อนเกม
ก่อนเกมเริ่มขึ้นมีการยืนไว้อาลัยให้แก่โศกนาฏกรรมที่ฮิลล์สโบโร เมื่อ 20 ปีก่อน เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นเจ้าถิ่นดันเกมบุกขึ้นไป เพียง 5 นาที “เดอะ ค็อป” ก็เฮลั่น เจมี คาร์ราเกอร์ หยอดบอลจากกลางสนามให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส พักอกในกรอบโทษก่อนวอลเลย์ด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ พอล โรบินสัน เสียบตาข่ายอย่างสวยงามให้ “หงส์แดง” จิกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว สิบนาทีถัดมาจังหวะสวนกลับของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ผล เดิร์ก เคาท์ ลากขึ้นไปก่อนไหลให้ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ยิงติดเซฟ โรบินสัน บอลกระดอนมาเข้าทาง ตอร์เรส ซ้ำด้วยซ้ายหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทิ้งห่างอีกครั้ง เอมิลิอาโน อินซัว เติมเกมทางกราบซ้ายก่อนเปิดอย่างเหมาะเหม็งให้ เคาท์ โขกเหน่งๆ แค่ 5 หลา โรบินสัน โชว์ปฏิกิริยาปัดออกมาเข้าทาง ยอสซี เบนายูน ซ้ำด้วยซ้ายข้ามคานไป แต่หกนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็หนีห่างเป็น 2-0 จนได้ ชาบี อลอนโซ เปิดฟรีคิกให้ ตอร์เรส โฉบตัดหน้า คริสโตเฟอร์ แซมบา โขกลูกหนังซุกก้นตาข่าย โอกาสแรกของ แบล็คเบิร์น มาเอาท้ายครึ่งแรกแต่ เดวิด ดันน์ ก็ยิงไม่ผ่านมือ โฮเซ เรนา จบ 45 นาทีแรก “หงส์แดง” รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แซม อัลลาไดซ์ แก้เกมให้ทีมเยือนด้วยการใส่ อารอน โดแรน ลงมาเล่นแทน อารอน โมโคเอนา แต่เกมยังเป็น ลิเวอร์พูล ขึงเอาไว้ได้ทั้งหมด อัลเบิร์ต ริเอรา สบโอกาสยิงด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลหลุดออกไป ผ่านหนึ่งชั่วโมง “บิ๊กแซม” ต้องแก้เกมอีกครั้งส่ง คาร์ลอส วิลลานูเอวา ลงปั้นเกมแดนกลางแทน ดันน์ ทางเจ้าบ้านดูผ่อนเกมลงไปเป็นโอกาสให้ “กุหลาบไฟ” ครองบอลได้มากขึ้นแต่ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แบล็คเบิร์น ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง วินเชนโซ เกรลลา บี้แดนกลางแทน ตูกาย เคริโมกลู ช่วง 20 นาทีสุดท้าย และผู้มาเยือนมีลุ้น วิลลานูเอวา โยนให้ แซมบา โขกเน้นๆ หนแรกแต่ก็ไม่ผ่านมือ เรนา นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นทิ้ง 3-0 จากลูกยิงไกลอันสุดสวยของ ดาเนียล แอ็กเกอร์ แถมนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ย้ำชัย 4-0 เมื่อ ลูคัส เลวา ตัวสำรองโหม่งต่อให้ ดาวิด เอ็นก็อก อีกหนึ่งตัวสำรองโขกจ่อๆ ไม่เหลือ หมดเวลาการแข่งขัน “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนนจากการลงสนาม 32 นัด ยังตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงหนึ่งแต้มแถมแข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่ “กุหลาบไฟ” หล่นมารั้งที่ 16 ของตาราง มีอยู่ 34 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลบาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , เอมิลิอาโน อินซัว , ชาบี อลอนโซ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , เดิร์ก เคาท์ , ยอสซี เบนายูน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , อังเดร ออยเยอร์ , ไรอัน เนลเซน , อารอน โมโคเอนา , กาแอล ชิเวต์ , คีธ เทรซีย์ , ตูกาย เคริโมกลู , คีธ แอนดรูว์ส , เดวิด ดันน์ , สตีเฟน วอร์น็อค , คริสโตเฟอร์ แซมบา
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.5) , 2-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.33) , 3-0 : ดาเนียล แอ็กเกอร์ (น.83) , ดาวิด เอ็นก๊อก (น.90)]
เชลซี 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.40) , 2-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.48) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.60) , 4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.63) , 4-1 : แอนดี โอไบรอัน (น.70) , 4-2 : คริส บาแชม (น.74) , 4-3 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.78)]
มิดเดิลสโบรช์ 3-1 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : ตุนกาย ซานลี (น.3) , 1-1 : มานูโช (น.11) , 2-1 : แม็ทธิว เบตส์ (น.29) , 3-1 : มาร์ลอน คิง (น.90)]
ปอร์ทสมัธ 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์
[1-0 : ยูเนส กาบูล (น.33) , 1-1 : โจนาธาน กรีนนิง (น.48) , 1-2 : คริส บรันท์ (น.62) , 2-2 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.65)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : พอล สโคลส์ (น.19) , 1-1 : เคนวิน โจนส์ (น.55) , 1-2 : เฟเดริโก มาเชดา (น.76)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.65)]
วีแกน แอธเลติก 1-4 อาร์เซนอล
[1-0 : อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด (น.18) , 1-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.61) , 1-2 : มิคาเอล ซิลแวสตร์ (น.71) , 1-3 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.90) , 1-4 : อเล็กซานเดอร์ ซง (น.90)]
สโตค ซิตี 1-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : อับดูลาย ฟาย (น.33) , 1-1 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.81)]
