xs
xsm
sm
md
lg

สิงห์บุกเด็ดปีกหงส์ 3-1, บาร์ซาขยี้เสือ 4-0 ชปล.8 ทีม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลิเวอร์พูล ถึงคราวจนตรอก หลังถูก เชลซี บุกมาลูบคมถึงถิ่น 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ขณะที่ บาร์เซโลนา โชว์ความดุดันทะลวง บาเยิร์น มิวนิก แบบไม่ยั้ง 4-0

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ.2552
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1–3 เชลซี (อังกฤษ)

จังหวะที่ ตอร์เรส (9) ยิงให้ ลิเวอร์พูล ออกนำก่อน 1-0
เกมยุโรประหว่าง 2 ทีมจากเมืองผู้ดี ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับคู่รักคู่แค้นอย่าง เชลซี นัดนี้เจ้าถิ่นไม่มี ฮาเวียร์ มาสเชราโน ที่ติดโทษแบน ทำให้ ลูคัส เลวา ได้ประสานงานตรงกลางร่วมกับ ชาบี อลอนโซ โดยที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นอาวุธในแดนหน้า ด้านทีมเยือนจัดชุดเกือบฟูลทีมลงสู้นำโดย แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา
อิวาโนวิช (ขวา) หัวติดเรดาร์โขก 2 ตุง
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที หงส์แดงก็หาโอกาสทักทายก่อนโดย เดิร์ก เคาท์ เก็บบอลหน้าเขตโทษแล้วยิงสวนเข้าไปถูก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โหม่งเสยหลุดกรอบออกไป จากนั้นนาทีที่ 6 สาวกเดอะ ค็อป ก็ได้เฮกันลั่นเมื่อ เคาท์ ป้ายออกทางขวาให้ อัลบาโร อาร์เบลัว เติมขึ้นมาปาดเรียดเข้ากลาง ตอร์เรส แปหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบมุมเป็นประตูนำ 1-0 ของเจ้าบ้าน

สิงห์บลูส์เริ่มอยู่เฉยไม่ได้และเกือบตีเสมออย่างทันควันในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ ซาโลมง กาลู ฉกบอลจากเท้า ฟาบิโอ ออเรลิโอ แล้วจ่ายให้ ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ ทว่า ดาวยิงทีมชาติไอวอรีโคสต์กลับซัดไปตรงตัว โฮเซ เรนา ที่ออกมาปิดมุมอย่างน่าเสียดาย

อาคันตุกะค่อยๆ ครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 22 อเล็กซ์ ลองตะบันฟรีคิกระยะไกลไปติดกำแพง ถัดมา 2 นาที กาลู เลี้ยงตัดจากด้านขวาจ่ายเข้ากลางให้ ดร็อกบา ตวัดต่อไปยัง ฟลอร็องต์ มาลูดา กดเรียดในเขตโทษด้านซ้าย บอลผ่านหน้าประตูออกหลังไป ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมีลุ้นประตูที่ 2 ในนาทีที่ 26 เมื่อ ตอร์เรส ขโมยบอลจาก แลมพาร์ด กลางสนามก่อนเลี้ยงจี้แล้วหาจังหวะปั่นโค้งหนี เช็ก ที่ออกมาจากเส้น แต่ลูกล้นออกหลังไป

เชลซี พยายามหาช่องเข้าทำและน่าจะตีเสมอได้ในนาทีที่ 28 เมื่อ บัลลัค รับบอลจาก แอชลีย์ โคล ทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ ดร็อกบา แต่หัวหอกผิวสีลื่นก่อนจับบอลทำให้หลักไม่ดีจนหวดโด่งข้ามคานออกไปเองอย่างน่าผิดหวัง 7 นาทีให้หลังหงส์แดงได้ลุ้นอีกที อาร์เบลัว ดันสูงขึ้นมาโยกหนี มาลูดา แล้วปั่นด้วยซ้าย ลูกออกข้างเสาไป
ดร็อกบา เข้ากดดัน ชาบี อลอนโซ
กระทั่งนาทีที่ 39 สกอร์ขยับมาเป็น 1-1 จนได้จากลูกเตะมุมด้านขวา มาลูดา เปิดมาให้ อิวาโนวิช หนีตัวประกบขึ้นโหม่งผ่านมือ เรนา ตุงตาข่าย และเป็นลูกแรกในสีเสื้อสิงห์บลูส์ของกองหลังทีมชาติเซอร์เบียด้วย ทว่า ลิเวอร์พูล หวิดนำอีกหนในนาทีต่อมา เมื่อ เคาท์ แตะลอดขา จอห์น เทอร์รี แต่ เช็ก ออกมาขวางลูกยิงของกองหน้าดัตช์ไว้ได้ จบครึ่งแรกยังคงเสมอกัน 1-1

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 6 นาที เชลซี น่าเป็นฝ่ายแซงนำอย่างยิ่ง เมื่อ ดร็อกบา ได้บอลแตะหนี มาร์ติน สเคอร์เทล เข้าไปซัดในเขตโทษผ่าน เรนา แล้ว แต่ เจมี คาร์ราเกอร์ ยังตามมาหวดทิ้งหน้าเส้นประตูไดอย่างหวุดหวิด ถัดมานาทีที่ 53 เจอร์ราร์ด โหม่งชงให้ ตอร์เรส สับไกในเขตโทษ ทว่าถูก อเล็กซ์ เข้ามาบีบทำให้ยิงไต่หลังเท้าออกไปเอง

ล่วงมานาทีที่ 61 เทอร์รี รับใบเหลืองทำให้จะติดโทษแบนในนัดหน้าด้วย กระนั้น สิงห์บลูส์ก็มาแซงเป็น 2-1 ได้สำเร็จในนาทีต่อมาโดย แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมด้านซ้ายให้ อิวาโนวิช เจ้าเก่าโขกตรงกลางประตูเข้าไป เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 66 ทีมเยือนฉีกหนีเป็น 3-1 เมื่อ บัลลัค จ่ายให้ มาลูดา ทะลุขึ้นไปทางซ้ายก่อนตบเรียดให้ ดร็อกบา เข้าฮอสไม่เหลือซาก

แม้หงส์แดงจะเปลี่ยน ยอสซี เบนายูน, อันเดรีย ดอสเซนา และ ไรอัน บาเบล ลงมาแก้เกม แต่สถานการณ์ยังไม่กระเตื้องซ้ำยังเกือบเสียเพิ่มในนาทีที่ 89 แต่ เรนา ยังออกมาบล็อกลูกยิงของ แลมพาร์ด ได้ทันก่อนจบ 90 นาทีด้วยชัยชนะของ เชลซี 3-1 บีบให้ ลิเวอร์พูล หลังพิงฝาต้องบุกไปคว้าชัยในเลกสองด้วยสกอร์เดียวกันเป็นอย่างน้อยจึงจะมีลุ้นเข้ารอบ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
– โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เดิร์ก เคาท์, ลูคัส เลวา, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส

เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, มิชาเอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เมสซี-เอโต กลายเป็นมหันตภัยสำหรับ บาเยิร์น
อีกคู่หนึ่ง บาร์เซโลนา เล่นในถิ่นคัมป์นู จัดการต้อนตือ บาเยิร์น มิวนิก ขาดลอย 4-0 โดย ลิโอเนล เมสซี เหมาคนเดียว 2 เม็ดในนาทีที่ 9 และ 38, ซามูเอล เอโต นาทีที่ 12 และ เธียร์รี อองรี นาทีที่ 43 กุมความได้เปรียบแบบท่วมท้นก่อนเล่นเลกสองในวันอังคารที่ 14 เมษายนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น