xs
xsm
sm
md
lg

หงส์จิกชุดขาว 4-0 เข้า 8 ทีม เชลซีเฮบุกเจ๊าม้าลาย 2-2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังไล่จิกเอาชนะ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด 4-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ด้วยประตูรวมสองนัด 5-0 ขณะที่ เชลซี ตามเจ๊า “ม้าลาย” ยูเวนตุส 2-2 ได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเช่นกัน

ศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4-0 รีล มาดริด (สเปน)
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0)

อลอนโซ ตัดเกมแดนกลาง ชไนจ์เดอร์
ราฟาเอล เบนิเตซ นำพลพรรค “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับมือ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด โดยเจ้าถิ่นเสี่ยงใช้งาน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่เพิ่งฟิตกลับมาจากอาการเจ็บข้อเท้า และก็มี สตีเวน เจอร์ราร์ด สนับสนุนเกมรุกอยู่ด้านหลัง อย่างไรก็ตาม ไม่มีชื่อ ยอสซี เบนายูน ฮีโร่จากนัดแรกเนื่องจากมีปัญหาที่เอ็นร้อยหวาย ขณะที่ อัลเบิร์ต ริเอรา ติดโทษแบน ไรอัน บาเบล ได้เดินเกมรุกทางกราบซ้ายแทน ด้าน ฮวนเด รามอส จัดทัพใหญ่มาเยือนนำโดย เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน และ ราอูล กอนซาเลซ
ตอร์เรส สะใจเบิกร่องให้หงส์
เปิดเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล แม้ได้เปรียบสกอร์จากนัดแรก แต่ยังเดินเกมรุกใส่ รีล มาดริด เป็นชุด เริ่มจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด จ่ายทะลุให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ไขว้หลอก ฟาบิโอ คันนาวาโร เข้าไปยิงจ่อๆ แต่ อีเคร์ คาซิยาส ใช้เท้าเซฟออกหลัง จากลูกเตะมุมทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาด ฮาเวียร์ มาสเชราโน กระหน่ำจากระยะประมาณ 25 หลา ร้อนถึงนายทวารทีมชาติสเปนต้องบินปัดบอลเฉียดคานออกไปอีก

บดบี้อยู่พักใหญ่ “หงส์แดง” จิกนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 16 เมื่อ รีล มาดริด ปล่อยให้บอลโยนยาวตกพื้น ตอร์เรส เบียด เปเป บอลเลยไปให้ เดิร์ก เคาท์ จ่ายเข้ากลาง “เอล นินโญ” ตามเข้ามาแปนิ่มๆ ผ่านมือ คาซิยาส ไม่เหลือ เกมของ “ราชันชุดขาว” ไม่มีทีท่าดีขึ้นเกือบโดนทิ้งห่างไปอีกถ้า คาซิยาส ไม่รับลูกโหม่งของ มาร์ติน สเคอร์เทล ไว้ได้จากจังหวะเติมมาเล่นเซตพีช นาทีที่ 24 เจ้าบ้านได้โอกาสอีกครั้ง ตอร์เรส พลิกหลบ เซอร์จิโอ รามอส ไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายโยนเลยไปเสาสองให้ เจอร์ราร์ด วิ่งเข้ามากวาดยิงด้วยขวา คาซิยาส ต้องป้องกันอีกครั้ง

นาทีที่ 28 ความผิดพลาดในแผงรับทีมเยือนนำมาซึ่งจุดโทษ เมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินสะบัดธงว่า กาเบรียล ไฮน์เซ แฮนด์บอลจากการยักไหล่สกัดการเติมเกมขึ้นมาของ อัลบาโร อาร์เบลัว ก่อนที่ เจอร์ราร์ด จะรับหน้าที่สังหารหลอกหน้าเท้าจน คาซิยาส หลงทาง ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างเป็น 2-0 พอไม่มีอะไรจะเสีย รีล มาดริด ได้ลุ้นบ้างจากฟรีคิกระยะ 35 หลา เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ ตะบันด้วยขวา โฮเซ เรนา ต้องได้โชว์ซูเปอร์เซฟบ้าง จากนั้น รามอส เติมขึ้นมาเปิดให้ ราอูล กอนซาเลซ โขกเบาเกินไปไม่เป็นปัญหาสำหรับ เรนา ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนเกือบตีไข่แตกได้ ไฮน์เซ เติมเกมหวังแก้ตัวเปิดให้ ชไนจ์เดอร์ จิ้มเร็วแต่ยังติดเซฟนายด่านเจ้าถิ่น จบ 45 นาทีแรก “หงส์แดง” คุมสถานการณ์ไว้ได้สกอร์รวมนำห่างถึง 3-0
เจอร์ราร์ด ยันใส่ รามอส
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง รีล มาดริด ส่งทาง มาร์เซโล เดินเกมบุกแทน อาร์เยน ร็อบเบน ที่ตลอดครึ่งแรกไม่มีส่วนกับเกมเลย แต่นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล ทิ้งไกลเป็น 3-0 เมื่อ บาเบล โยกหนี รามอส ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ เจอร์ราร์ด วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาเสียบตาข่าย หกนาทีถัดมาผู้มาเยือนจากแดนกระทิงดุเกือบเจาะประตูได้บ้างเมื่อ รามอส เติมขึ้นมาทางขวาโยนให้ ราอูล แปบอลได้ก่อน เรนา เข้าถึงแต่ลูกหนังลอยโด่งไม่ตรงกรอบ หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมเปิดแลกกันหมัดต่อหมัด ชไนจ์เดอร์ ได้โอกาสยิงไกลอีกครั้งแต่บดหลุดเสา

จากนั้น ราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจถอน ชาบี อลอนโซ ที่ดูมีอาการเจ็บออกมาพักเพื่อให้พร้อมสำหรับชน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกแดงเดือดเสาร์นี้ พร้อมให้โอกาส ลูคัส เลวา ลงช่วยเกมแดนกลาง ทาง ฮวนเด รามอส ปรับเกมอีกครั้งใส่ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ลุยเกมรุกและก็ถอด คันนาวาโร ซึ่งเป็นกองหลังออกมา 15 นาทีสุดท้าย “หงส์แดง” พัก เจอร์ราร์ด พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง เจย์ สเปียริง ลงมาสัมผัสเกมบ้าง

ท้ายเกมเจ้าบ้านลุ้นอีกจากการปั่นของ ตอร์เรส แต่ คาซิยาส ไม่ยอมพลาด อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลา 2 นาที ลิเวอร์พูล ตอกชัยเหนือ รีล มาดริด 4-0 อย่างสวยสดงามงาม เมื่อได้ลูกโต้กลับ มาสเชราโน ไหลให้ อันเดรีย ดอสเซนา แบ็กซ้ายชาวอิตาเลียนที่ได้โอกาสเล่นแทน ตอร์เรส เติมขึ้นมาแปเหน่งๆ ไม่เหลือ จบเกม “หงส์แดง” บินผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวมสองนัดชนะขาดลอย 5-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, เดิร์ค เคาท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, เฟอร์นานโด ตอร์เรส

รีล มาดริด : อีเคร์ คาซิยาส, เซอร์จิโอ รามอส, เปเป, ฟาบิโอ คันนาวาโร, กาเบรียล ไฮน์เซ, เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์, ลาสซานา ดิยาร์รา, เฟอร์นานโด กาโก, อาร์เยน ร็อบเบน, กอนซาโล อิกัวอิน, ราอูล กอนซาเลซ
จังหวะที่ เอสเซียง ซัดเจ๊า 1-1 ให้เชลซี
ผลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดสอง ประจำคืนวันอังคาร

บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 7-1 สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส)
[1-0 : ลูคัส โพดอลสกี (น.7) , 2-0 : ลูคัส โพดอลสกี (น.34) , 3-0 : อันแดร์สัน โพลกา (ทำเข้าประตูตัวเอง น.39) , 3-1 : เจา มูตินโญ (น.42) , 4-1 : บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (น.43) , 5-1 : มาร์ค ฟาน บอมเมล (น.74) , 6-1 : มิโรสลาฟ โคลเซ (จุดโทษ น.82) , 7-1 : โธมัส มุลเลอร์ (น.90)]
(รวมผลสองนัด บาเยิร์น มิวนิก เข้ารอบด้วยประตูรวม 12-1)

ยูเวนตุส (อิตาลี) 2-2 เชลซี (อังกฤษ)
[1-0 : วินเชนโซ ยาควินตา (น.19) , 1-1 : มิคาเอล เอสเซียง (น.45) , 2-1 : อเลสซานโดร เดล ปิเอโร (จุดโทษ น.74) , 2-2 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.83)]
(รวมผลสองนัด เชลซี เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4-0 รีล มาดริด (สเปน)
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.16) , 2-0 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (จุดโทษ น.28) , 3-0 : สตีเวน เจอร์ราร์ด (น.47) , 4-0 : อันเดรีย ดอสเซนา (น.88)]
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-0)

พานาธิไนกอส (กรีซ) 1-2 บียาร์รีล (สเปน)
[0-1 : อาเรียล อิบากาซา (น.49) , 1-1 : อีวานเจลอส มานท์ซิออส (น.55) , 1-2 : โฆเซบา ยอเรนเต (น.70)]
(รวมผลสองนัด บียาร์รีล เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)

กำลังโหลดความคิดเห็น