ยอสซี เบนายูน สวมบทพระเอกให้ ลิเวอร์พูล ด้วยการโขกพังประตูก่อนหมดเวลา 8 นาที พาทีมบุกสอย รีล มาดริด ถึงรัง 1-0 ส่วน เชลซี ได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กดประตูโทนเอาชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
รีล มาดริด (สเปน) 0–1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
อีกคู่ที่น่าสนใจในรอบนี้ รีล มาดริด เปิดสนามซานติอาโก เบอร์นาบิว ต้อนรับ ลิเวอร์พูล นัดนี้เจ้าบ้านดัน มาร์เซโล ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัวและวาง กอนซาโล อิกวาอิน กับ ราอูล กอนซาเลซ เป็นคู่กองหน้า ขณะที่ทีมเยือนให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเป็นตัวสำรอง โดยทิ้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นหน้าเป้า
เปิดฉากมาได้แค่ 5 นาที ราชันชุดขาวมีโอกาสเจาะเข้าทำทักทายก่อน เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน จ่ายตัดแนวรับหงส์แดงให้ ราอูล กอนซาเลซ จับบอลในเขตโทษแล้วตวัดยิงด้วยขวาตรงตัว โฮเซ เรนา จากนั้นนาทีที่ 16 มาร์เซโล สบโอกาสวอลเลย์ตรงมุมเขตโทษ แต่ยังถูก เรนา ดักไว้ได้ที่เสาแรก
ลิเวอร์พูล ได้จังหวะสับไกแบบเน้นๆ หนแรกในนาทีที่ 20 เมื่อแผงหลังเจ้าถิ่นเช็กล้ำหน้าพลาด ทำให้ ตอร์เรส แตะบอลหลุดเข้าไปกดด้วยขวา แต่ อิเคร์ คาซิยาส ไม่พลาดพุ่งปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้น 3 นาที ยอสซี เบนายูน รับลูกสาดยาวจากแดนหลังเข้าไปยิงติดมือ คาซิยาส ที่ออกมาบล็อกอีกครั้ง
นาทีที่ 29 กองเชียร์เจ้าถิ่นมีอันต้องเฮเก้อ เมื่อ เซอร์คิโอ รามอส โหม่งชงให้ กอนซาโล อิกวาอิน โขกติดเซฟของ เรนา ก่อนตามซ้ำดาบสองตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู เนื่องจากหัวหอกอาร์เจนไตน์ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะโหม่งครั้งแรก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 37 มาร์เซโล เลี้ยงหลอกล่อ อัลบาโร อาร์เบลัว ก่อนซัดหน้าเขตโทษส่งบอลทแยงมุมออกข้างเสาสอง จากนั้น 2 นาที ร็อบเบน แตะหนี อัลเบิร์ต ริเอรา แล้วกดนอกกรอบลูกพุ่งวาบออกหลัง ก่อนที่ปีกชาวดัตช์จะสับไกระยะเดิมอีกครั้ง คราวนี้ลูกเหินข้ามคาน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ชาบี อลอนโซ ฉกบอลจากเท้า เฟอร์นานโด กาโก ได้ก่อนตัดสินใจซัดไกลจากครึ่งสนาม ลูกทำท่าจะย้อยเสียบใต้คาน แต่ คาซิยาส ยังถอยกลับไปปัดพ้นกรอบประตูได้อย่างหวุดหวิด จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับเข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เดิร์ก เคาท์ เปิดจากด้านขวาถูก เปเป้ โหม่งสกัด แต่ อลอนโซ ยืนรออยู่วางเท้าหวดด้วยซ้ายส่งลูกกระดอนพื้นออกข้างเสาไป ถัดมานาทีที่ 52 ร็อบเบน โชว์ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงแหวก ฮาเวียร์ มาสเชราโน และ ริเอรา เข้าไปกดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ยิงไปเข้าข้างตาข่าย
กระทั่งนาทีที่ 61 ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมเยือนตัดสินใจถอด ตอร์เรส ที่ฝืนเล่นโดยมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกออก แล้วส่ง ไรอัน บาเบล ลงมาเล่นแทน อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เกือบเสียท่าเมื่อโดน ร็อบเบน กดเต็มข้อหน้าเขตโทษ ทว่า เรนายังกระโดดปัดบอลที่พุ่งส่ายไปมาพ้นคานออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
จนนาทีที่ 82 หงส์แดงก็ได้ตีปีกออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เปิดฟรีคิกจากกราบขวา ทั้ง กาโก และ อิกวาอิน ประมาทไม่ยอมเทกตัวขึ้นโหม่งเคลียร์จนเลยไปเข้าศีรษะของ เบนายูน สะบัดเปลี่ยนทางผ่านมือ คาซิยาส ตุงตาข่าย ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ในสกอร์นี้ กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นในแอนฟิลด์ 2 สัปดาห์หน้า
อีกคู่ที่น่าสนใจ เชลซี เล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือน ยูเวนตุส หวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูชัยจากฝีเท้าของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 12 โดยที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาเวล เนดเวด เกือบตีเสมอให้ “ม้าลาย” ได้ แต่ลูกยิงไกลหน้าเขตโทษเฉี่ยวเสาออกไปเพียงแค่คืบ ทำให้ “สิงห์บลูส์” มีสกอร์ตุนให้อุ่นใจก่อน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
รีล มาดริด – อิเคร์ คาซิยาส, เซอร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ คันนาวาโร, เปเป้, กาเบรียล ไฮน์เซ, เฟอร์นานโด กาโก, ลาสซานา ดิยาร์รา, อาร์เยน ร็อบเบน, มาร์เซโล, กอนซาโล อิกวาอิน, ราอูล กอนซาเลซ
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เชลซี (อังกฤษ) ชนะ ยูเวนตุส (อิตาลี) 1-0 (ดิดิเยร์ ดร็อกบา 1-0 น.12)
รีล มาดริด (สเปน) แพ้ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0-1 (ยอสซี เบนายูน 0-1 น.82)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) แพ้ บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 0-5 (ฟรองค์ ริเบรี 0-1 น.42), (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-2 น.57), (ฟรองค์ ริเบรี 0-3 จุดโทษ น.63), (ลูกา โทนี 0-4 น.84), (ลูกา โทนี 0-5 น.90)
บียาร์รีล (สเปน) เสมอ พานาธิไนกอส (กรีซ) 1-1 (จอร์จอส คารากูนิส 0-1 น.59), (จูเซ็ปเป รอสซี 1-1 จุดโทษ น.67)
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
รีล มาดริด (สเปน) 0–1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
อีกคู่ที่น่าสนใจในรอบนี้ รีล มาดริด เปิดสนามซานติอาโก เบอร์นาบิว ต้อนรับ ลิเวอร์พูล นัดนี้เจ้าบ้านดัน มาร์เซโล ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัวและวาง กอนซาโล อิกวาอิน กับ ราอูล กอนซาเลซ เป็นคู่กองหน้า ขณะที่ทีมเยือนให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเป็นตัวสำรอง โดยทิ้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นหน้าเป้า
เปิดฉากมาได้แค่ 5 นาที ราชันชุดขาวมีโอกาสเจาะเข้าทำทักทายก่อน เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน จ่ายตัดแนวรับหงส์แดงให้ ราอูล กอนซาเลซ จับบอลในเขตโทษแล้วตวัดยิงด้วยขวาตรงตัว โฮเซ เรนา จากนั้นนาทีที่ 16 มาร์เซโล สบโอกาสวอลเลย์ตรงมุมเขตโทษ แต่ยังถูก เรนา ดักไว้ได้ที่เสาแรก
ลิเวอร์พูล ได้จังหวะสับไกแบบเน้นๆ หนแรกในนาทีที่ 20 เมื่อแผงหลังเจ้าถิ่นเช็กล้ำหน้าพลาด ทำให้ ตอร์เรส แตะบอลหลุดเข้าไปกดด้วยขวา แต่ อิเคร์ คาซิยาส ไม่พลาดพุ่งปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้น 3 นาที ยอสซี เบนายูน รับลูกสาดยาวจากแดนหลังเข้าไปยิงติดมือ คาซิยาส ที่ออกมาบล็อกอีกครั้ง
นาทีที่ 29 กองเชียร์เจ้าถิ่นมีอันต้องเฮเก้อ เมื่อ เซอร์คิโอ รามอส โหม่งชงให้ กอนซาโล อิกวาอิน โขกติดเซฟของ เรนา ก่อนตามซ้ำดาบสองตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู เนื่องจากหัวหอกอาร์เจนไตน์ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะโหม่งครั้งแรก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 37 มาร์เซโล เลี้ยงหลอกล่อ อัลบาโร อาร์เบลัว ก่อนซัดหน้าเขตโทษส่งบอลทแยงมุมออกข้างเสาสอง จากนั้น 2 นาที ร็อบเบน แตะหนี อัลเบิร์ต ริเอรา แล้วกดนอกกรอบลูกพุ่งวาบออกหลัง ก่อนที่ปีกชาวดัตช์จะสับไกระยะเดิมอีกครั้ง คราวนี้ลูกเหินข้ามคาน
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ชาบี อลอนโซ ฉกบอลจากเท้า เฟอร์นานโด กาโก ได้ก่อนตัดสินใจซัดไกลจากครึ่งสนาม ลูกทำท่าจะย้อยเสียบใต้คาน แต่ คาซิยาส ยังถอยกลับไปปัดพ้นกรอบประตูได้อย่างหวุดหวิด จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับเข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เดิร์ก เคาท์ เปิดจากด้านขวาถูก เปเป้ โหม่งสกัด แต่ อลอนโซ ยืนรออยู่วางเท้าหวดด้วยซ้ายส่งลูกกระดอนพื้นออกข้างเสาไป ถัดมานาทีที่ 52 ร็อบเบน โชว์ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงแหวก ฮาเวียร์ มาสเชราโน และ ริเอรา เข้าไปกดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ยิงไปเข้าข้างตาข่าย
กระทั่งนาทีที่ 61 ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมเยือนตัดสินใจถอด ตอร์เรส ที่ฝืนเล่นโดยมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกออก แล้วส่ง ไรอัน บาเบล ลงมาเล่นแทน อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เกือบเสียท่าเมื่อโดน ร็อบเบน กดเต็มข้อหน้าเขตโทษ ทว่า เรนายังกระโดดปัดบอลที่พุ่งส่ายไปมาพ้นคานออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
จนนาทีที่ 82 หงส์แดงก็ได้ตีปีกออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เปิดฟรีคิกจากกราบขวา ทั้ง กาโก และ อิกวาอิน ประมาทไม่ยอมเทกตัวขึ้นโหม่งเคลียร์จนเลยไปเข้าศีรษะของ เบนายูน สะบัดเปลี่ยนทางผ่านมือ คาซิยาส ตุงตาข่าย ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ในสกอร์นี้ กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นในแอนฟิลด์ 2 สัปดาห์หน้า
อีกคู่ที่น่าสนใจ เชลซี เล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือน ยูเวนตุส หวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูชัยจากฝีเท้าของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 12 โดยที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาเวล เนดเวด เกือบตีเสมอให้ “ม้าลาย” ได้ แต่ลูกยิงไกลหน้าเขตโทษเฉี่ยวเสาออกไปเพียงแค่คืบ ทำให้ “สิงห์บลูส์” มีสกอร์ตุนให้อุ่นใจก่อน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
รีล มาดริด – อิเคร์ คาซิยาส, เซอร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ คันนาวาโร, เปเป้, กาเบรียล ไฮน์เซ, เฟอร์นานโด กาโก, ลาสซานา ดิยาร์รา, อาร์เยน ร็อบเบน, มาร์เซโล, กอนซาโล อิกวาอิน, ราอูล กอนซาเลซ
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เชลซี (อังกฤษ) ชนะ ยูเวนตุส (อิตาลี) 1-0 (ดิดิเยร์ ดร็อกบา 1-0 น.12)
รีล มาดริด (สเปน) แพ้ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0-1 (ยอสซี เบนายูน 0-1 น.82)
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) แพ้ บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 0-5 (ฟรองค์ ริเบรี 0-1 น.42), (มิโรสลาฟ โคลเซ 0-2 น.57), (ฟรองค์ ริเบรี 0-3 จุดโทษ น.63), (ลูกา โทนี 0-4 น.84), (ลูกา โทนี 0-5 น.90)
บียาร์รีล (สเปน) เสมอ พานาธิไนกอส (กรีซ) 1-1 (จอร์จอส คารากูนิส 0-1 น.59), (จูเซ็ปเป รอสซี 1-1 จุดโทษ น.67)