เฟเดริโก มาเชดา กองหน้าดาวรุ่งชาวอิตาเลียนสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เปลี่ยนทางบอลเข้าประตูช่วย “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเฉือน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ 2-1 แซงทาง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล นั่งแท่นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จำเป็นต้องนำ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเก็บสามแต้มที่รัง ซันเดอร์แลนด์ เพื่อกลับขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง เกมนี้มีการปรับทัพพอสมควรให้ เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แนวรุกพัก คริสเตียโน โรนัลโด แต่ก็ได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นสามประสานแดนหน้าร่วมกับ เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ด้าน ริคกี สบราเกีย กำลังพา “แมวดำ” ลุ้นหนีตกชั้น โดยนัดนี้ฝากความหวังไว้ที่คู่หัวหอกอย่าง เคนวิน โจนส์ กับ ฌิบริล ซิสเซ
เริ่มเกมไม่ถึง 20 วินาที แมนฯ ยูไนเต็ด ลุยใส่และก็เกือบนำเร็ว เวย์น รูนีย์ ปั่นด้วยขวาส่งบอลเฉี่ยวกรอบแบบได้ลุ้น ทีมเยือนยังกดดันเข้าไป พอล สโคลส์ ได้ตะบันเต็มข้อจากนอกกรอบแต่ คัลลัม ดาเวนพอร์ต สอดหัวเข้ามาโหม่งทิ้งได้ทัน นาทีที่ 14 ซันเดอร์แลนด์ มีโอกาสบ้าง เคนวิน โจนส์ ยิงติดบล็อกในกรอบโทษกระเด้งมาเข้าทาง ฌิบริล ซิสเซ ซ้ำแฉลบข้ามคานไป สองนาทีถัดมา “ผีแดง” เกือบได้ประตู รูนีย์ เปิดลูกเตะมุมให้ เนมันยา วิดิช กระโดดโขกเหน่งๆ แต่โดน แดนนี คอลลินส์ เคลียร์ออกมาจากเส้น
บี้อยู่พักใหญ่ทีมเยือนก็ออกนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 19 รูนีย์ หยอดให้ พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาโหม่งเช็ดส่งบอลย้อยข้ามหัว เคร็ก กอร์ดอน เสียบมุม พอโดนไปก่อน “แมวดำ” รุกขึ้นมาบ้างและความผิดพลาดในเกมรับของ “ผีแดง” เกือบส่งผล วิดิช ตวัดคืนหลังไม่รู้กันกับ เบน ฟอสเตอร์ ดีที่ปราการหลังชาวเซิร์บยังบังออกหลังได้ทันไม่ให้ คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ดส เข้าไปจิ้มถึง ครึ่งชั่วโมงโอกาสของเจ้าบ้านมากขึ้น แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดให้ ดาเวนพอร์ต ทิ่มด้วยขวาส่งลูกหนังเฉียดเสานิดเดียว
การส่งหน้าลงถึง 3 คนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มส่งผลเมื่อแดนกลางสู้เจ้าบ้านไม่ได้ นาทีที่ 36 ซันเดอร์แลนด์ บุกขึ้นมาอีกครั้ง ซิสเซ ได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกร้อนถึง ฟอสเตอร์ ต้องปัดพ้นคานไป สองนาทีถัดมาได้ลุ้นจากฟรีคิก 25 หลา แอนดี รีด ปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพงมนุษย์แต่ก็หลุดเสาหวุดหวิด เกมรับทีมเยือนปั่นป่วน วิดิช สกัดลูกเปิดแบบได้เสียของ เอ็ดเวิร์ดส แฉลบเสาออกไป ท้ายครึ่ง ปาร์ค จี ซอง ลองส่องด้วยซ้ายให้ “ผีแดง” บ้างแต่ข้ามคานไปนิดเดียว จบ 45 นาทีแรก แชมป์เก่าประคองตัวนำได้ก่อน
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมได้ก่อน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลุยเข้ากรอบโทษบอลหลุดมาให้ รูนีย์ ปั่นโค้งบอลเกือบจะเสียบสามเหลี่ยม แต่ถึงนาทีที่ 55 ซันเดอร์แลนด์ กลับตามตีเสมอได้เป็น 1-1 ตีมู เตนิโอ หลุดมาทางซ้ายเปิดเข้ากลาง ฟอสเตอร์ ปัดไม่ถึง โจนส์ ขึ้นโขกลงพื้นก่อนตามเข้าไปซ้ำลูกยิงของตัวเองเข้าประตูให้แน่ใจ พอเสียประตูไปทีมเยือนลุยหนักทันที สโคลส์ ลองยิงไกลแต่บอลก็ได้แค่เฉียดเสา
นาทีที่ 63 ทีมเยือนได้ลุ้นอีก สโคลส์ เล่นชิ่งให้ คาร์ลอส เตเบซ ลากหลุดเข้าในกรอบโทษก่อนยิงด้วยขวา ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทันการณ์ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องส่ง คริสเตียโน โรนัลโด มาลากเลื้อยแทน ปาร์ค แต่เกือบโดนเจ้าบ้านพลิกนำถ้าลูกหมุนยิงของ ซิสเซ ไม่เข้าแค่ข้างตาข่าย จากนั้น “ผีแดง” ปล่อย เฟเดริโก มาเชดา ฮีโร่จากนัดก่อนลงล่าตาข่ายแทน เบอร์บาตอฟ
สัมผัสแรกของ มาเชดา ก็นำมาซึ่งประตูนำ 2-1 ของทีมเยือน ไมเคิล คาร์ริค ซัดไกลบอลแฉลบดาวกองหน้าดาวรุ่งชาวอิตาเลียนเปลี่ยนทางเข้าซุกก้นตาข่ายนาทีที่ 76 ท้ายเกมเจ้าบ้านพยายามรุกคืบหวังทวงประตูคืน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ประคองตัวเอาชนะไปหวุดหวิด ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนจากการลงสนาม 31 นัด กลับขึ้นมานำฝูง ห่างจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แต้มเดียวแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังอยู่ที่ 17 ของตาราง มีอยู่ 32 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ซันเดอร์แลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน , ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ , คัลลัม ดาเวนพอร์ต , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , แดนนี คอลลินส์ , คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ดส , ตีมู เตนิโอ , แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ , แอนดี รีด , เคนวิน โจนส์ , ฌิบริล ซิสเซ
แมนฯ ยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์ , แกรี เนวิลล์ , จอนนี อีแวนส์ , เนมันยา วิดิช , จอห์น โอเชีย , พอล สโคลส์ , ไมเคิล คาร์ริค , ปาร์ค จี ซอง , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.5) , 2-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.33) , 3-0 : ดาเนียล แอ็กเกอร์ (น.83) , ดาวิด เอ็นก๊อก (น.90)]
เชลซี 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.40) , 2-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.48) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.60) , 4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.63) , 4-1 : แอนดี โอไบรอัน (น.70) , 4-2 : คริส บาแชม (น.74) , 4-3 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.78)]
มิดเดิลสโบรช์ 3-1 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : ตุนกาย ซานลี (น.3) , 1-1 : มานูโช (น.11) , 2-1 : แม็ทธิว เบตส์ (น.29) , 3-1 : มาร์ลอน คิง (น.90)]
ปอร์ทสมัธ 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์
[1-0 : ยูเนส กาบูล (น.33) , 1-1 : โจนาธาน กรีนนิง (น.48) , 1-2 : คริส บรันท์ (น.62) , 2-2 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.65)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : พอล สโคลส์ (น.19) , 1-1 : เคนวิน โจนส์ (น.55) , 1-2 : เฟเดริโก มาเชดา (น.76)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.65)]
วีแกน แอธเลติก 1-4 อาร์เซนอล
[1-0 : อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด (น.18) , 1-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.61) , 1-2 : มิคาเอล ซิลแวสตร์ (น.71) , 1-3 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.90) , 1-4 : อเล็กซานเดอร์ ซง (น.90)]
สโตค ซิตี 1-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : อับดูลาย ฟาย (น.33) , 1-1 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.81)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จำเป็นต้องนำ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเก็บสามแต้มที่รัง ซันเดอร์แลนด์ เพื่อกลับขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง เกมนี้มีการปรับทัพพอสมควรให้ เบน ฟอสเตอร์ เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แนวรุกพัก คริสเตียโน โรนัลโด แต่ก็ได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นสามประสานแดนหน้าร่วมกับ เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ด้าน ริคกี สบราเกีย กำลังพา “แมวดำ” ลุ้นหนีตกชั้น โดยนัดนี้ฝากความหวังไว้ที่คู่หัวหอกอย่าง เคนวิน โจนส์ กับ ฌิบริล ซิสเซ
เริ่มเกมไม่ถึง 20 วินาที แมนฯ ยูไนเต็ด ลุยใส่และก็เกือบนำเร็ว เวย์น รูนีย์ ปั่นด้วยขวาส่งบอลเฉี่ยวกรอบแบบได้ลุ้น ทีมเยือนยังกดดันเข้าไป พอล สโคลส์ ได้ตะบันเต็มข้อจากนอกกรอบแต่ คัลลัม ดาเวนพอร์ต สอดหัวเข้ามาโหม่งทิ้งได้ทัน นาทีที่ 14 ซันเดอร์แลนด์ มีโอกาสบ้าง เคนวิน โจนส์ ยิงติดบล็อกในกรอบโทษกระเด้งมาเข้าทาง ฌิบริล ซิสเซ ซ้ำแฉลบข้ามคานไป สองนาทีถัดมา “ผีแดง” เกือบได้ประตู รูนีย์ เปิดลูกเตะมุมให้ เนมันยา วิดิช กระโดดโขกเหน่งๆ แต่โดน แดนนี คอลลินส์ เคลียร์ออกมาจากเส้น
บี้อยู่พักใหญ่ทีมเยือนก็ออกนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 19 รูนีย์ หยอดให้ พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาโหม่งเช็ดส่งบอลย้อยข้ามหัว เคร็ก กอร์ดอน เสียบมุม พอโดนไปก่อน “แมวดำ” รุกขึ้นมาบ้างและความผิดพลาดในเกมรับของ “ผีแดง” เกือบส่งผล วิดิช ตวัดคืนหลังไม่รู้กันกับ เบน ฟอสเตอร์ ดีที่ปราการหลังชาวเซิร์บยังบังออกหลังได้ทันไม่ให้ คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ดส เข้าไปจิ้มถึง ครึ่งชั่วโมงโอกาสของเจ้าบ้านมากขึ้น แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดให้ ดาเวนพอร์ต ทิ่มด้วยขวาส่งลูกหนังเฉียดเสานิดเดียว
การส่งหน้าลงถึง 3 คนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มส่งผลเมื่อแดนกลางสู้เจ้าบ้านไม่ได้ นาทีที่ 36 ซันเดอร์แลนด์ บุกขึ้นมาอีกครั้ง ซิสเซ ได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกร้อนถึง ฟอสเตอร์ ต้องปัดพ้นคานไป สองนาทีถัดมาได้ลุ้นจากฟรีคิก 25 หลา แอนดี รีด ปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพงมนุษย์แต่ก็หลุดเสาหวุดหวิด เกมรับทีมเยือนปั่นป่วน วิดิช สกัดลูกเปิดแบบได้เสียของ เอ็ดเวิร์ดส แฉลบเสาออกไป ท้ายครึ่ง ปาร์ค จี ซอง ลองส่องด้วยซ้ายให้ “ผีแดง” บ้างแต่ข้ามคานไปนิดเดียว จบ 45 นาทีแรก แชมป์เก่าประคองตัวนำได้ก่อน
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมได้ก่อน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลุยเข้ากรอบโทษบอลหลุดมาให้ รูนีย์ ปั่นโค้งบอลเกือบจะเสียบสามเหลี่ยม แต่ถึงนาทีที่ 55 ซันเดอร์แลนด์ กลับตามตีเสมอได้เป็น 1-1 ตีมู เตนิโอ หลุดมาทางซ้ายเปิดเข้ากลาง ฟอสเตอร์ ปัดไม่ถึง โจนส์ ขึ้นโขกลงพื้นก่อนตามเข้าไปซ้ำลูกยิงของตัวเองเข้าประตูให้แน่ใจ พอเสียประตูไปทีมเยือนลุยหนักทันที สโคลส์ ลองยิงไกลแต่บอลก็ได้แค่เฉียดเสา
นาทีที่ 63 ทีมเยือนได้ลุ้นอีก สโคลส์ เล่นชิ่งให้ คาร์ลอส เตเบซ ลากหลุดเข้าในกรอบโทษก่อนยิงด้วยขวา ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทันการณ์ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องส่ง คริสเตียโน โรนัลโด มาลากเลื้อยแทน ปาร์ค แต่เกือบโดนเจ้าบ้านพลิกนำถ้าลูกหมุนยิงของ ซิสเซ ไม่เข้าแค่ข้างตาข่าย จากนั้น “ผีแดง” ปล่อย เฟเดริโก มาเชดา ฮีโร่จากนัดก่อนลงล่าตาข่ายแทน เบอร์บาตอฟ
สัมผัสแรกของ มาเชดา ก็นำมาซึ่งประตูนำ 2-1 ของทีมเยือน ไมเคิล คาร์ริค ซัดไกลบอลแฉลบดาวกองหน้าดาวรุ่งชาวอิตาเลียนเปลี่ยนทางเข้าซุกก้นตาข่ายนาทีที่ 76 ท้ายเกมเจ้าบ้านพยายามรุกคืบหวังทวงประตูคืน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ประคองตัวเอาชนะไปหวุดหวิด ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนจากการลงสนาม 31 นัด กลับขึ้นมานำฝูง ห่างจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แต้มเดียวแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ยังอยู่ที่ 17 ของตาราง มีอยู่ 32 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ซันเดอร์แลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน , ฟิลลิป บาร์ดสลีย์ , คัลลัม ดาเวนพอร์ต , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , แดนนี คอลลินส์ , คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ดส , ตีมู เตนิโอ , แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ , แอนดี รีด , เคนวิน โจนส์ , ฌิบริล ซิสเซ
แมนฯ ยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์ , แกรี เนวิลล์ , จอนนี อีแวนส์ , เนมันยา วิดิช , จอห์น โอเชีย , พอล สโคลส์ , ไมเคิล คาร์ริค , ปาร์ค จี ซอง , เวย์น รูนีย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ , คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
ลิเวอร์พูล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.5) , 2-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.33) , 3-0 : ดาเนียล แอ็กเกอร์ (น.83) , ดาวิด เอ็นก๊อก (น.90)]
เชลซี 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : มิชาเอล บัลลัค (น.40) , 2-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.48) , 3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.60) , 4-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.63) , 4-1 : แอนดี โอไบรอัน (น.70) , 4-2 : คริส บาแชม (น.74) , 4-3 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.78)]
มิดเดิลสโบรช์ 3-1 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : ตุนกาย ซานลี (น.3) , 1-1 : มานูโช (น.11) , 2-1 : แม็ทธิว เบตส์ (น.29) , 3-1 : มาร์ลอน คิง (น.90)]
ปอร์ทสมัธ 2-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบียนส์
[1-0 : ยูเนส กาบูล (น.33) , 1-1 : โจนาธาน กรีนนิง (น.48) , 1-2 : คริส บรันท์ (น.62) , 2-2 : นิโก ครันจ์ชาร์ (น.65)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : พอล สโคลส์ (น.19) , 1-1 : เคนวิน โจนส์ (น.55) , 1-2 : เฟเดริโก มาเชดา (น.76)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.65)]
วีแกน แอธเลติก 1-4 อาร์เซนอล
[1-0 : อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด (น.18) , 1-1 : ธีโอ วัลคอตต์ (น.61) , 1-2 : มิคาเอล ซิลแวสตร์ (น.71) , 1-3 : อังเดร อาร์ชาวิน (น.90) , 1-4 : อเล็กซานเดอร์ ซง (น.90)]
สโตค ซิตี 1-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : อับดูลาย ฟาย (น.33) , 1-1 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.81)]