xs
xsm
sm
md
lg

“หงส์” ถูกอัด 0-2 “สิงห์” เฉือน 2-1 “ปืน” ฝืด ศึกพรีเมียรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อาจหมดหวังกับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแห่งเกาะอังกฤษอีกครั้งในปีนี้หลังจากบุกไปถูก มิดเดิลสโบรช์ อัดเสีย 0-2 พร้อมกับถูก เชลซี ที่เปิดบ้านเอาชนะ วีแกน 2-1 เบียดตกลงมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง ขณะที่ อาร์เซนอล ยังคงปืนฝืดในบ้านหลังจากเสมอกับ ฟูแลม 0-0 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
มิดเดิลสโบรช์ 2-0 ลิเวอร์พูล

จังหวะ อลอนโซ ทำเข้าประตูตัวเอง
มิดเดิลสโบรช์ ไม่ชนะใครในเกมลีกมา 14 นัดติดต่อกัน สำหรับเกมนี้ทีมมีข่าวดีเมื่อ เจเรมี อาลีอาดิเยร์ ดาวยิงชาวฝรั่งเศสกลับมาฟิตสมบูรณ์ลงสนามอีกครั้งเพื่อประสานงานเกมรุกร่วมกัน ตุนกาย ซานลี และ สจวร์ต ดาวนิง ขณะที่ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ใช้งาน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงชาวสเปน แต่ข่าวดีเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมพร้อมลงสนามตั้งแต่นาทีแรกของเกม
อลอนโซ เซ็ง
เริ่มเกมครึ่งแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำเกมบุกมาป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษของเจ้าบ้านมากกว่าจนมาถึงนาทีที่ 9 ก็มีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เอล ซาร์ เล่นชิงหน้ากรอบเขตโทษกับ เคาท์ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ โจนส์ ออกมาป้องกันทัน อีกสองนาทีต่อมา "เดอะโบโร" ตอบโต้กลับบ้างเมื่อ ดาวนิง เติมเกมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจะเปิดเข้ากลางและเป็น โอนีล เบียดกองหลังแหย่เท้าเปลี่ยทางบอลเข้ากรอบ แต่ เรนา ก็โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันไว้ได้เช่นกัน

ต่อมา ออเรลิโอ เติมเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายในนาทีที่ 14 และเปิดเข้ากลางมาถึง เคาท์ ได้ง้างเท้ายิงหน้าประตู แต่บอลเหินข้ามคานออกไป "หงส์แดง" ยังมาเป็นระลอก อีกสองนาทีต่อมา เจอร์ราร์ด แทงบอลทะละช่องแผงหลังเจ้าถิ่นให้ บาเบล หลุดไปยิงมุมแคบ แต่ถูกนายทวารสิงห์แดงล้มตัวรับไว้ได้ ด้าน มิดเดิลสโบรช์ อาศัยเน้นการตั้งรับเพื่อรอจังหวะสวนกลับแต่ยังทำได้ไม่ดีนัก เกมมาถึงนาที 28 คราวนี้เป็น เจอร์ราร์ด ยิงเองบ้างหน้ากรอบเขตโทษแต่ยังไม่เป็นประตูเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นกลับเป็นฝ่ายได้ประตูอย่างโชคช่วยเมื่อเกมมาถึงนาทีที่ 32 หลังจากได้ลูกเตะมุม ดาวนิง รับหน้าที่เปิดเข้ามาและเป็นความโชคร้ายของ ลิเวอร์พูล เมื่อบอลตกมาถูกต้นขา อลอนโซ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปทำให้ มิดเดิลสโบรช์ ออกนำ 1-0 หลังจากเสียประตู "เรด แมชชีนส์" พยายามหาทางทวงคืนแต่ยังไม่สำเร็จผลและเกือบถูกทิ้งห่างออกไปอีกในนาทีที่ 40 เมื่อ ดาวนิง ทำเกมขึ้นมาทางด้านซ้ายอีกครั้งลุยเข้าไปในเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงบอลเรียด แต่ เรนา ทำหน้าที่ดีล้มตัวรับไว้ได้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก "สิงห์แดง" นำก่อน 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล บุกเข้าใส่ทันทีและมีลุ้นทำประตูเมื่อ เคาท์ รับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายย้อนกลับมาทางแถวสองให้ สเคอร์เทล ที่เติมเกมขึ้นมาซัดเต็มแรง แต่บอลเหินข้ามคานออกไป อีกสามนาทีต่อมาทีมเยือนเกือบทำประตูตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด กระชากหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังก่อนจ่ายย้อนกลับเข้ากลาง แต่เป็น เอล ซาร์ พลาดอย่างไม่น่าเชื่อแปบอลด้วยเท้าซ้ายเหินข้ามคานออกไป
ราฟา เซ็งกว่า
“หงส์แดง” บุกอยู่เพลินๆ ก็ดันมาเสียประตูเพิ่มอีกในนาที 63 เมื่อ โอนีล ได้บอลทางริมเส้นด้านขวาก่อนแทงบอลให้ อาลีอาดิเยร์ หลุดเข้าไปถึงเส้นหลังและจ่ายบอลย้อนกลับมาให้ ตุนกาย ซัดบอลผ่านมือ เรนา เข้าประตูไป มิดเดิลสโบรช์ หนีห่าง 2-0 อีกสองนาทีต่อมา เจอร์ราร์ด เกือบทำประตูไล่ตีตื้นขึ้นมาเมื่อได้กระชากเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่ โจนส์ ออกมาป้องกันไว้ทันก่อนสุดท้ายจะถูกกองหลังเคลียร์ทิ้งออกไป

เกมมาถึงนาทีที่ 68 เจอร์ราร์ด พยายามทำเกมขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรับบอลได้หน้ากรอบเขตโทษก่อนกระชากเข้าไปเปิดบอลผ่านหน้าปากประตูและเป็น เคาท์ เกือบแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลได้ทันแต่พลาดไปอย่างน่าเสียดาย อีกสี่นาทีต่อมาเป็นทีของเจ้าถิ่นที่มีลุ้นทำประตูหนีห่างออกไปจากจังหวะโต้กลับ ตุนกาย ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษก่อนจ่ายบอลขวางมาให้ คิง ยืนอยู่โล่งๆซัดเต็มแรงแต่ เรนา มาช่วยป้องกันไว้ได้

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ราฟาเอล เบนิเตซ ส่งไพ่ใบสุดท้าย ลูคัส เลวา มิดฟิลด์ชาวบราซิลลงสนามมาแทน เจอร์ราร์ด ที่ไม่สมบูรณ์ออกไปพัก อีกสามนาทีต่อมา ดาวนิง ที่ทำผลงานวูบวาบในเกมนี้เติมเลี้ยงบอลขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง ก่อนจะเปิดเข้ากลางไปถึงเสาสองให้ โอนีล ได้วอลเลย์ด้วยขวา แต่บอลเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว ด้าน ลิเวอร์พูล พยายามบุกอย่างไรก็ไม่สามารถทะลวงประตูคู่แข่งได้ทำให้จบ 90 นาที มิดเดิลสโบรช์ เอาชนะไป 2-0 พร้อมเก็บสามคะแนน

ขณะที่ผลการแข่งขันคู่อื่น เอฟเวอร์ตัน อริร่วมถิ่นเมอร์ซี ไซด์ เปิดกูดิสัน ปาร์กเอาชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0 จากการทำประตูของ ทิม เคฮิลล์ (น.36) และ หลุยส์ ซาฮา (น.70) ขณะที่ เชลซี มาได้ประตูชัยจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ในนาทีสุดท้ายช่วยให้เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ วีแกน 2-1 ส่วน อาร์เซนอล ยังคงประสบปัญหาการทำประตูหลังจากเปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เสมอกับ ฟูแลม อย่างไร้สกอร์ 0-0

ผลการแข่งขันข้างต้นทำให้ ลิเวอร์พูล มี 55 แต้มเหมือนเดิมเท่ากับ เชลซี แต่เนื่องจากประตูได้เสียเป็นรองทำให้ตกลงมาอยู่ที่ 3 ของตารางพร้อมทำคะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง 7 แต้ม ขณะที่ อาร์เซนอล มีเพิ่มเป็น 46 แต้มอยู่ที่ 5 เหมือนเดิมตามหลัง แอสตัน วิลลา ทีมอันดับ 4 ที่จะลงแข่งวันพรุ่งนี้อยู่ 5 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
มิดเดิลสโบรช์ : แบร็ด โจนส์, โรเบิร์ต ฮูธ, เดวิด วีเทอร์, เอมานูเอล โปกาเตตซ์, จัสติน ฮอยต์, ฮูลิโอ อาร์กา, แมทธิว เบตส์, สจวร์ต ดาวนิง, แกรี โอนีล, เจเรมี อาลีอาดิเยร์, ตุนกาย ซานลี
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, ซามี ฮูเปีย, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เจมี คาร์ราเกอร์, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เดิร์ก เคาท์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, นาบิล เอล ซาร์

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-0  [1-0 : ทิม เคฮิลล์ น.36], [2-0 : หลุยส์ ซาฮา น.70]
อาร์เซนอล เสมอ ฟูแลม 0-0
เชลซี ชนะ วีแกน 2-1
[1-0 : จอห์น เทอร์รี น.25], [1-1 : โอลิวิเยร์ กาโป น.82], [2-1 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.90]
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 [1-0 : ชาบี อลอนโซ ทำเข้าประตูตัวเอง น.32], [2-0 : ตุนกาย ซานลี น.63]
กำลังโหลดความคิดเห็น