“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังทำได้แค่ไล่ตีเสมอ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 ทำให้ยังตามหลัง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ห่างถึง 7 แต้มในช่วงใกล้โค้งสุดท้าย
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ราฟาเอล เบนิเตซ หวังนำ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ให้ได้เพื่อทำคะแนนกวด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กระชั้นเข้าไปอีก แต่เกมนี้เจ้าถิ่นขาดสองกำลังสำคัญแดนกลางทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ไม่ฟิต ชาบี อลอนโซ ติดโทษแบน ความหวังต้องฝากกับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส อัดกลางรับให้ทีมเยือนอย่างหนาแน่นทั้ง แว็งซองต์ กอมปานี และ ไนเจล เดอ ยอง แนวรุกรอทีเด็ด โรบินโญ กับ เคร็ก เบลลามี
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าเดินหน้าบุกกดดัน แมนฯ ซิตี ทันที อัลบาโร อาร์เบลัว ลุยทะลุเข้ามาทางกราบขวาของกรอบเขตโทษก่อนโยกเข้ากลาง อัลเบิร์ต ริเอรา โหนโหม่งและก็โดนเบียดจาก ไมกาห์ ริชาร์ดส ทำให้โขกบอลหลุดกรอบไป นาทีที่ 7 มาร์ค ฮิวจ์ส ถึงกับออกมาโวยข้างสนามเมื่อเห็น อันเดรีย ดอสเซนา เปิดปุ่มยันใส่ ริชาร์ดส เล่นเอากองหลังทีมชาติอังกฤษลงไปกองกับพื้นก่อนลุกขึ้นมาได้
สิบนาทีแรกเกมตกเป็นของ “หงส์แดง” ยอสซี เบนายูน แตะคืนหลังให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส วอลเลย์วืดเต็มๆ แปดนาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 20 หลาแต่ เบนายูน ปั่นไปติดกำแพงมนุษย์ ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก ลิเวอร์พูล พลาดการขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เมื่อมีจังหวะชุลมุนในกรอบโทษ แมนฯ ซิตี บอลหลุดมาถึง ริเอรา ตวัดด้วยซ้ายระยะแค่ 4-5 หลาไปติดตัว เนดุม โอนัวฮา
นาทีที่ 30 จังหวะสวนกลับของ “เรือใบสีฟ้า” เกือบสัมฤทธิ์ผล สตีเฟน ไอร์แลนด์ โยนยาวให้ โรบินโญ หลุดไปทางซ้ายก่อนหักหลบ เจมี คาร์ราเกอร์ ให้ ไอร์แลนด์ ทะลุขึ้นมายิงจังหวะแรกติดบล็อก โฮเซ เรนา ก่อนแปซ้ำเข้าข้างตาข่าย เจ็ดนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล สวนกลับบ้าน ตอร์เรส หลุดมาทางขวาก่อนป้ายเข้ากลาง ริเอรา จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงหักข้อด้วยซ้ายหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาทีสุดท้าย อาร์เบลัว โยนบอลให้ เดิร์ค เคาท์ โหม่งไม่ตรงกรอบอีก จบ 45 นาทีแรกยัง 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเป็น แมนฯ ซิตี ทำได้ดีกว่าและก็พลิกขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 49 เมื่อ แว็งซองต์ กอมปานี ได้บอลในกรอบโทษก่อนไหลให้ เคร็ก เบลลามี ยิงบอลแฉลบเท้า อาร์เบลัว โค้งหนีมือ เรนา ซุกก้นตาข่าย ทีมเยือนดูมีกำลังใจขึ้นมาก ไนเจล เดอ ยอง ลองยิงลักไกตักไกลจากระยะกว่า 30 หลาบอลเฉียดกรอบไปแบบได้เสียว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะต่อเกมกันไม่ติดแล้วพยายามเจาะตรงกลางแต่ แมนฯ ซิตี วางมิดฟิลด์ตัวรับขวางทางอยู่เต็มไปหมด ทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับเปลี่ยนเอา นาบิล เอล ซาร์ มาเล่นเกมริมเส้นแทน ริเอรา และเกือบได้ผล เอล ซาร์ เปิดจากขวากะให้ ตอร์เรส ชาร์จที่เสาแรกแต่ ริชาร์ด ดันน์ ตามติดเป็นเงาชิงโหม่งออกหลังไปก่อน จังหวะสวนกลับนาทีที่ 66 ริชาร์ดส กึ่งยิงกึ่งผ่านให้ ไอร์แลนด์ แปะบอลเข้าประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน
20 นาทีสุดท้าย มาร์ติน สเคอร์เทล ต้องแซะ โรบินโญ ล้มตรงเส้นเขตโทษ ดาวยิงทีมชาติบราซิลขอยิงเองบอลแฉลบกำแพงเบียดเสาไป ห้านาทีถัดมา “ราฟา” ถอนทาง อันเดรีย ดอสเซนา ให้ ฟาบิโอ ออเรลิโอ มาคอยโยนบอลทางซ้ายแทน และความพยายามของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นผลเสมอได้ 1-1 นาทีที่ 78 เบนายูน เปิดจากซ้าย ตอร์เรส ยิงพลาดแต่หลุดถึง เคาท์ จิ้มบอลผ่าน เชย์ กิฟเวน ไม่เหลือ
ท้ายเกม “หงส์แดง” โหมเป็นการใหญ่ นาทีที่ 82 แฟนๆ เกือบได้เฮถ้า กิฟเวน ไม่เซฟลูกตะบันเต็มข้อของ เคาท์ เอาไว้ จากนั้นเจ้าบ้านทิ้งไพ่ใบสุดท้ายใส่ ไรอัน บาเบล ขึ้นเกมบุกและก็ถอดตัวรับอย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ออกมา ด้าน ฮิวจ์ส ปรับหมากบ้างส่ง เฟลิเป ไคเซโด มาค้ำแดนหน้าแทน โรบินโญ หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี ทำสำเร็จยันเสมอ ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน ยังตามหลัง “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด 7 แต้ม ขณะที่โปรแกรมเหลืออีกแค่ 12 นัด ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” รั้งที่ 10 มีอยู่ 32 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลบาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อันเดรีย ดอสเซนา , ลูคัส เลวา , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , เดิร์ค เคาท์ , ยอสซี เบนายูน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , เนดุม โอนัวฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เวย์น บริดจ์ , ปาโบล ซาบาเลตา , แว็งซองต์ กอมปานี , ไนเจล เดอ ยอง , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , เคร็ก เบลลามี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
ฟูแลม 2-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : บ็อบบี ซาโมรา (น.60 , 2-0 : แอนดี จอห์นสัน (น.72)]
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : เคร็ก เบลลามี (น.49) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.78)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0 เอฟเวอร์ตัน
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ราฟาเอล เบนิเตซ หวังนำ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ให้ได้เพื่อทำคะแนนกวด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กระชั้นเข้าไปอีก แต่เกมนี้เจ้าถิ่นขาดสองกำลังสำคัญแดนกลางทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ไม่ฟิต ชาบี อลอนโซ ติดโทษแบน ความหวังต้องฝากกับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส อัดกลางรับให้ทีมเยือนอย่างหนาแน่นทั้ง แว็งซองต์ กอมปานี และ ไนเจล เดอ ยอง แนวรุกรอทีเด็ด โรบินโญ กับ เคร็ก เบลลามี
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าเดินหน้าบุกกดดัน แมนฯ ซิตี ทันที อัลบาโร อาร์เบลัว ลุยทะลุเข้ามาทางกราบขวาของกรอบเขตโทษก่อนโยกเข้ากลาง อัลเบิร์ต ริเอรา โหนโหม่งและก็โดนเบียดจาก ไมกาห์ ริชาร์ดส ทำให้โขกบอลหลุดกรอบไป นาทีที่ 7 มาร์ค ฮิวจ์ส ถึงกับออกมาโวยข้างสนามเมื่อเห็น อันเดรีย ดอสเซนา เปิดปุ่มยันใส่ ริชาร์ดส เล่นเอากองหลังทีมชาติอังกฤษลงไปกองกับพื้นก่อนลุกขึ้นมาได้
สิบนาทีแรกเกมตกเป็นของ “หงส์แดง” ยอสซี เบนายูน แตะคืนหลังให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส วอลเลย์วืดเต็มๆ แปดนาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 20 หลาแต่ เบนายูน ปั่นไปติดกำแพงมนุษย์ ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก ลิเวอร์พูล พลาดการขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ เมื่อมีจังหวะชุลมุนในกรอบโทษ แมนฯ ซิตี บอลหลุดมาถึง ริเอรา ตวัดด้วยซ้ายระยะแค่ 4-5 หลาไปติดตัว เนดุม โอนัวฮา
นาทีที่ 30 จังหวะสวนกลับของ “เรือใบสีฟ้า” เกือบสัมฤทธิ์ผล สตีเฟน ไอร์แลนด์ โยนยาวให้ โรบินโญ หลุดไปทางซ้ายก่อนหักหลบ เจมี คาร์ราเกอร์ ให้ ไอร์แลนด์ ทะลุขึ้นมายิงจังหวะแรกติดบล็อก โฮเซ เรนา ก่อนแปซ้ำเข้าข้างตาข่าย เจ็ดนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล สวนกลับบ้าน ตอร์เรส หลุดมาทางขวาก่อนป้ายเข้ากลาง ริเอรา จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงหักข้อด้วยซ้ายหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาทีสุดท้าย อาร์เบลัว โยนบอลให้ เดิร์ค เคาท์ โหม่งไม่ตรงกรอบอีก จบ 45 นาทีแรกยัง 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังเป็น แมนฯ ซิตี ทำได้ดีกว่าและก็พลิกขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 49 เมื่อ แว็งซองต์ กอมปานี ได้บอลในกรอบโทษก่อนไหลให้ เคร็ก เบลลามี ยิงบอลแฉลบเท้า อาร์เบลัว โค้งหนีมือ เรนา ซุกก้นตาข่าย ทีมเยือนดูมีกำลังใจขึ้นมาก ไนเจล เดอ ยอง ลองยิงลักไกตักไกลจากระยะกว่า 30 หลาบอลเฉียดกรอบไปแบบได้เสียว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะต่อเกมกันไม่ติดแล้วพยายามเจาะตรงกลางแต่ แมนฯ ซิตี วางมิดฟิลด์ตัวรับขวางทางอยู่เต็มไปหมด ทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับเปลี่ยนเอา นาบิล เอล ซาร์ มาเล่นเกมริมเส้นแทน ริเอรา และเกือบได้ผล เอล ซาร์ เปิดจากขวากะให้ ตอร์เรส ชาร์จที่เสาแรกแต่ ริชาร์ด ดันน์ ตามติดเป็นเงาชิงโหม่งออกหลังไปก่อน จังหวะสวนกลับนาทีที่ 66 ริชาร์ดส กึ่งยิงกึ่งผ่านให้ ไอร์แลนด์ แปะบอลเข้าประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน
20 นาทีสุดท้าย มาร์ติน สเคอร์เทล ต้องแซะ โรบินโญ ล้มตรงเส้นเขตโทษ ดาวยิงทีมชาติบราซิลขอยิงเองบอลแฉลบกำแพงเบียดเสาไป ห้านาทีถัดมา “ราฟา” ถอนทาง อันเดรีย ดอสเซนา ให้ ฟาบิโอ ออเรลิโอ มาคอยโยนบอลทางซ้ายแทน และความพยายามของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นผลเสมอได้ 1-1 นาทีที่ 78 เบนายูน เปิดจากซ้าย ตอร์เรส ยิงพลาดแต่หลุดถึง เคาท์ จิ้มบอลผ่าน เชย์ กิฟเวน ไม่เหลือ
ท้ายเกม “หงส์แดง” โหมเป็นการใหญ่ นาทีที่ 82 แฟนๆ เกือบได้เฮถ้า กิฟเวน ไม่เซฟลูกตะบันเต็มข้อของ เคาท์ เอาไว้ จากนั้นเจ้าบ้านทิ้งไพ่ใบสุดท้ายใส่ ไรอัน บาเบล ขึ้นเกมบุกและก็ถอดตัวรับอย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ออกมา ด้าน ฮิวจ์ส ปรับหมากบ้างส่ง เฟลิเป ไคเซโด มาค้ำแดนหน้าแทน โรบินโญ หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี ทำสำเร็จยันเสมอ ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน ยังตามหลัง “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด 7 แต้ม ขณะที่โปรแกรมเหลืออีกแค่ 12 นัด ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” รั้งที่ 10 มีอยู่ 32 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลบาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , อันเดรีย ดอสเซนา , ลูคัส เลวา , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , เดิร์ค เคาท์ , ยอสซี เบนายูน , อัลเบิร์ต ริเอรา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , เนดุม โอนัวฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เวย์น บริดจ์ , ปาโบล ซาบาเลตา , แว็งซองต์ กอมปานี , ไนเจล เดอ ยอง , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , เคร็ก เบลลามี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
ฟูแลม 2-0 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : บ็อบบี ซาโมรา (น.60 , 2-0 : แอนดี จอห์นสัน (น.72)]
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : เคร็ก เบลลามี (น.49) , 1-1 : เดิร์ค เคาท์ (น.78)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0 เอฟเวอร์ตัน