บนแฟร์เวย์แห่งความฝันของออกัสต้า การชิงชัยกรีนแจ็กเก็ตซึ่งจะเริ่มต้นระหว่างวันที่ 9 -12 เมษายน 52 คือสัญญาณที่ส่งให้นักกอล์ฟอาชีพทั่วโลกได้รู้ว่าการประวงสวิงอันแท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้วพร้อมกับเมเจอร์แรกของปี อย่าง “เดอะมาสเตอร์ส” และปีนี้มิใช่เพียงแค่ ไทเกอร์ วู้ดส์ เท่านั้นที่สปอตไลท์จากสื่อทั่วโลกจะฉายจับแต่คู่แข่งที่ถือว่าเบียดกันอยู่บนตารางคะแนนเวิลด์ กอล์ฟแรงกิ้งอย่างฟิล มิคเคลสัน นั้นกลายมาเป็นผู้ท้าชิงทั้งเสื้อกรีนแจ็กเก็ต และบัลลังก์นักกอล์หมายเลขหนึ่งโลก
ขณะที่แชมป์เก่าอย่าง เทรเวอร์ อิมเมลแมน ยังไม่มีเกจิกอล์ฟรายใดกล้าฟันธงว่าจะสามารถกลับมาป้องกันแชมป์ได้สำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีสีสันที่ออกัสต้าอันเป็นภาพต่างกันสุดขั้วระหว่าง เกรก นอร์แมน ฉลามขาวในวัย 54 ปีที่จะกลับมาสร้างผลงานแข่งขัน สามดาวรุ่งอันได้แก่ รอรี่ย์ แมคอิลรอย, แดนนี่ ลี และ เรียว อิชิกาว่า ซึ่งทั้งหมดได้แต้มให้คลับเฮ้าส์ของสนามเก่าแก่ของจอร์เจีย เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับสองโปรชาติเดียวกันอย่าง วู้ดส์ และ มิคเคลสันนั้นต้องยอมรับว่านี่คือช่วงเวลาที่พวกเขาได้กลับมาขับเคี่ยวกันอย่างสูสีอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้าที่ “พญาเสือ” จะลงสู่สนามออกัสต้าเป็นครั้งที่ 15 นั้นมีฟอร์มการเล่นที่นักวิจารณ์หลายคนลงความเห็นว่าเจ้าตัวยังไม่พร้อมเต็มร้อย หากแต่ชัยชนะที่เบย์ฮิลล์ จากรายการ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเทชั่น นั้น วู้ดส์ ได้เรียกความวิญญาณพญาเสือแห่งแฟร์เวย์ กลับคืนสู่ร่างได้ทันเวลา
ขณะที่มิคเคลสัน นั้นโอกาสของเขาเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเข้าไปใกล้กับบัลลังก์หมายเลขหนึ่งของวู้ดส์ ชนิดที่ห่างกันไม่ถึงสองแต้ม และจนถึงปัจจุบันช่องว่างของแต้มสะสมในเวิลด์แรงกิ้งที่ห่างกัน 1.46 คะแนนนั้น โอกาสของ "บิ๊กฟิล" บนทุ่งหญ้าออกัสต้าปีนี้จึงมิใช่แค่การได้สวมเสื้อกรีนแจ็กเก็ต หากแต่อาจหมายถึงตำแหน่งโปรหมายเลขหนึ่งโลกที่จะพ่วงท้ายมาด้วยหลังจบรายการ
แต่บนสนามออกัสต้าในปีนี้ใช่ว่าจะมีแต่สองเสือจากสหรัฐฯเท่านั้นที่จะประวงสวิง กัน เสือเฒ่าอย่างเกรก นอร์แมน ที่แต่งงานกับอดีตนักเทนนิสหญิงชื่อดังอย่าง คริส เอฟเวอร์ตก็ได้กลับมาลงชิงชัยบนสนามแห่งนี้อีกครั้ง ทำให้ วู้ดส์ มิคเคลสัน และ นอร์แมน กลายเป็นกลุ่มก๊วนที่บดบังรัศมีของแชมป์เก่าอย่าง อิมเมลแมน ไปอย่างสิ้นเชิง
ในส่วนของ เกรก นอร์แมน นั้นที่ลงสนามครั้งนี้ด้วยวัย 54 ปีเขาคืออดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งโลกที่ครองตำแหน่งดังกล่าวนานถึง 331 สัปดาห์ (1986-1998) บนแฟร์เวย์ออกัสต้าในปีนี้ โปรจากออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่หวังถึงตำแหน่งที่จะได้สวมเสื้อกรีนแจ็กเก็ต แต่ถ้าติดหนึ่งในสิบบนลีดเดอร์บอร์ด วันสุดท้ายก็ถือว่าเป็นความสำเร็จสุงสุด
ไม่เพียงแต่โปรรุ่นใหญ่ที่ได้รับการจับตามองดาวรุ่งจากยุโรป อย่าง รอรี่ย์ แมคอิลรอย โปรหนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือ แดนนี่ ลี โปรเชื้อสายเกาหลี สัญชาติ นิวซีแลนด์ รวมถึงมิเชล วีแห่งวงการกอล์ฟชายอย่าง เรียว อิชิกาว่า ที่ได้รับเชิญจากผู้จัดการแข่งขัน นี่คือเดอะมาสเตอร์ส ครั้งแรกของสามหนุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาคือคลื่นลูกใหม่ที่หลายคนแอบหวังลึกๆว่าอาจได้เห็นปาฏิหาริย์จากนักกอล์ฟเหล่านี้
นอกจากความตื่นตัวของผู้คนที่สหรัฐอเมริกา หรือ ยุโรปเที่ติดตามให้ความสนใจการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการนี้ วงการสวิงในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองไทยความสนใจไม่แพ้กัน เพราะนี่คือ เดอะมาสเตอร์ส ครั้งสำคัญที่จะได้เห็นโปรไทย "ประหยัด มากแสง" ที่ได้สิทธิในฐานะนักกอล์ฟอันดับที่ 47 ของโลกหวนคืนสู่ออกัสต้าได้อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีถึงเหตุการณ์ที่เดอะมาสเตอร์ส 2008 ว่า
"มีคนหลายคนดูถูกผมเอาไว้เมื่อครั้งที่ขอถอนตัวออกจากการแข่งขันปีก่อน ซึ่งพวกเขาก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าผมจะไม่มีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก สำหรับผมแล้วคำพูดเหล่านั้นได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผมเพียรพยายามที่จะสร้างผลงานให้อยู่ในอันดับที่จะได้สิทธิลงสนามในออกัสต้า ซึ่งในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมายืนบนออกัสต้าอีกครั้ง และที่สำคัญนี่คือการลงสนามในฐานะนักกอล์ฟหนึ่งใน 50 ของอันดับโลก มิใช่นักกอล์ฟที่ได้ลงสนามเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา” โดยการแข่งขันในปีนี้ ประหยัด ออกรอบวันแรกในกลุ่มเดียวกับ เควิน ซูเธอแลนด์ และ รอสส์ ฟิชเชอร์
แม้ว่า เดอะมาสเตอร์ส จะมิใช่กอล์ฟเมเจอร์รายการเก่าแก่ที่สุดของ “กอล์ฟสแลม” หากออกัสต้า ก็ยังคงเป็นแฟร์เวย์แห่งความฝันที่นักกอล์ฟไม่ว่าจะเชื้อชาติใด มือวางอันดับเท่าไรต่างใฝ่ฝันที่จะได้ลงมาดวลวงสวิงสักครั้ง ส่วนเกียรติยศแห่งกรีนแจ็กเก็ต จะตกมาเป็นของตนเองหรือไม่นั้นผู้เข้าแข่งขันทั้ง 96 รายมีสิทธิที่จะลิขิตชะตาของตนเอง