xs
xsm
sm
md
lg

แอลพีจีเอ 2009 กำเนิดใหม่ “บิ๊กวีซี่ย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากเอ่ยชื่อ “มิเชล วี” โปรสาวดาวรุ่งเชื้อสายเกาหลีสัญชาติอเมริกัน เชื่อว่าสิ่งที่แฟนกอล์ฟจะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือ ฉายาสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งวงการกอล์ฟสตรีอันติดตัวมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในวัยเพียง 14 ปีกับการแข่งขันกอล์ฟ “โซนี่ โอเพ่น” ที่ฮาวายอันเป็นรายการระดับพีจีเอทัวร์ของเหล่าโปรชาย

ผลงานครั้งนั้น แม้ “วี” จะไม่ผ่านการตัดตัวแต่สาวน้อยรายนี้ก็ได้รับการกล่าวขวัญถึงฝีมือและวงสวิงที่นอกจากจะมีลูกไดรฟ์ซึ่งไกลเกินพลังหญิงแล้วลีลาการเล่นที่ห้าวหาญสู้กับเหล่านักกอล์ฟชายได้อย่างไม่กลัวเกรงแม้ว่าจะต้องอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับ “เออร์นี่ย์ เอลส์” จนทำให้เธอถูกตั้งฉายาให้ว่า “บิ๊กวีซี่ย” จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันชื่อของสาว 19 ก็ยังคงไม่ตกจากกระแสข่าวกอล์ฟ ล่าสุดกับผลงานผ่านการคัดเลือกใน “คิว สคูล” จนได้สิทธิเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ 2009 ชื่อ มิเชล วี ก็กลับมาเจิดจรัสอีกครั้งในวงการกอล์ฟอาชีพ

เมื่อย้อนกลับไปดูเส้นทางของ สาวน้อยเชื้อสายเกาหลี สัญชาติอเมริกัน ที่กลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการสวิง และถูกจับตาจากสื่อไม่ได้น้อยหน้า ไทเกอร์ วู้ดส์ หรือ บิ๊กเนมในแอลพีจีเอทัวร์ จะพบว่าสาวน้อยรายนี้แม้จะมีความสามารถแต่ก็ยังขาดผลงานระดับแชมป์ทำให้เธอไม่เป็นที่ยอมรับ ขณะเดียวกันความรู้สึกทางลบต่อเด็กสาวรายนี้จากเหล่าโปรชายที่แสดงออกอย่างไม่ปิดบังเมื่อเธอคิดจะเข้าร่วมการแข่งขันเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขาในศึกพีจีเอทัวร์

ขณะที่ความประพฤติส่วนตัวของ “วี” ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าในวัยที่ยังไม่พ้นกลิ่นน้ำนมเธอยังไม่พร้อมเข้าสู่ชีวิตนักกีฬาอาชีพ อันพิสูจน์ได้จากความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่กลายเป็นเรื่องใหญ่นับตั้งแต่ดร๊อปลูกผิดกติกาจนถูกให้ออกจากการแข่งขัน ไปจนถึงการตัดสินใจออกจากสนามแข่งกลางคันโดยอ้างอาการบาดเจ็บหรือล่าสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากับศึก สเตท ฟาร์ม คลาสสิก “วี” ก็เพิ่งเสียค่าโง่ถูกจับดิสควอลิฟายด์ อันเนื่องมาจากส่งสกอร์การ์ดทั้งที่ยังไม่เซ็นชื่อ ปล่อยให้โอกาสในการคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ รายการแรกในชีวิตลอยผ่านไปต่อหน้าซึ่งเวลานั้น “วี” ตามผู้นำอยู่เพียงแค่สโตรกเดียว

ความผิลพลาดและโชค ที่ไม่เข้าข้างบ่อยครั้งทำให้เหล่านักกอล์ฟหญิงรุ่นพี่แนะนำให้เธอลงสนามในรายการเดียวกับนักกอล์ฟผู้หญิงด้วยกันก่อนเพราะอย่างน้อยถ้าได้แชมป์มาครองความมั่นใจก็จะถูกเรียกกลับ และทำให้เธอก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง หากเป็นเวลาก่อนหน้านี้ มิเชล วี และครอบครัวคงไม่เชื่อฟังแต่ถึงเวลานี้ด้วยวุฒิภาวะของเด็กมหาวิทยาลัย น่าจะทำให้เธอเริ่มเฉลียวใจ และ มุ่งมั่นให้ผ่านการทดสอบ “คิวสคูล” จนกระทั่งได้รับการ์ดทัวร์ 2009 มาครอง

ถึงเวลานี้ คนที่ดีใจที่สุดกับการได้การ์ดทัวร์ของ “วี” อาจมิได้มีแต่เพียงครอบครัวของเธอเท่านั้นหาก คณะกรรมการจัดการแข่งขันใน แอลพีจีเอทัวร์ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า การที่ได้ วี เข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์กอล์ฟ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะพิษเศรษฐกิจที่กำลังเล่นในเมืองลุงแซม จนทำให้ผู้สนับสนุนหายไปถึง 3 รายการ และส่งผลให้เงินรางวัลรวมน้อยลงไปกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การได้ดาวรุ่งชื่อดังเข้ามาร่วมทัวร์ฯ น่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดี

โดยมูลค่าทางการตลาดของ “สาววี” นั้นพิสูจน์ได้เมื่อครั้งตอนเธออายุเพียงแค่ 16 ปี แต่กลับได้เซ็นสัญญามูลค่ากว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทั้ง “ไนกี้” และ “โซนี่” นอกจากนั้นในศึก คิว-สคูล ที่เพิ่งผ่านไป ในวันสุดท้ายมีผู้ชมกว่า 500 คนมายืนดู วี พัตต์เซฟพาร์ที่หลุม 18 ทั้งที่ปกติทัวร์นาเมนต์ระดับนี้มีผู้ชมไม่เคยเกิน 200 คนเท่านั้น

ถึงวันนี้แม้ สาวน้อยจากฮาวาย จะยังคว้าแชมป์ไม่ได้เลยแม้แต่รายการเดียวนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2005 อีกทั้งยังเคย ทำผิดพลาดมาแล้วมากมาย หากในเวลานี้เธอได้กลับสู่จุดเริ่มต้นบนเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว ฤดูกาล 2009 ในแอลพีจีเอทัวร์คือช่วงเวลาสำคัญ ที่ “มิเชล วี” ต้องเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ชื่อนี้คือของจริงมิใช่แจ้งเกิดเพียงแค่เพิ่มกระแสการตลาด ดังคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าตัวที่กล่าวไว้ว่า

“ ตอนคุณอายุ 14 หรือ 15 ปี คุณไม่รู้หรอกว่าตนเองคือใคร ที่ทำได้ก็แค่ดำเนินชีวิตให้ผ่านไปแบบวันต่อวัน แต่เวลานี้ด้วยประสบการณ์อันมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ทำให้เวลานี้รู้สึกได้ว่าเราไม่ใช่คนเดิมและมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น การได้รับการ์ดทัวร์ในแอลพีจีเอครั้งนี้ คือสิ่งที่วิเศษสุด ถึงเวลานี้ฉันพร้อมแล้วที่จะก้าวเดินต่อไปบนถนนสายนักกอล์ฟอาชีพ”

กำลังโหลดความคิดเห็น