ปีเตอร เคราช์ โชว์ฟอร์มสมราคาจ้าวเวหาโขกสองประตูช่วย “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่หัวค่ำประจำคืนวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2552
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 2-1 เอฟเวอร์ตัน
พอล ฮาร์ท กุนซือ “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ ประสบปัญหาในการจัดทัพทีมแห่งแดนใต้พอสมควรเมื่อขาดตัวหลักอย่าง เจอร์เมน เพนแนนท์ ปีกขวาที่ยืมมาจาก ลิเวอร์พูล ซึ่งบาดเจ็บทำให้ต้องดัน เกล็น จอห์นสัน เล่นเกมรุกทางริมเส้นแทน และก็ให้ ยูเนส กาบูล ยืนแบ็กขวาจำเป็น ส่วน เดวิด นูเจนท์ กับ นิโก ครันจ์ชาร์ คอยสนับสนุนเกมรุก ปีเตอร์ เคราช์ หน้าเป้าคนเดียว ด้าน เดวิด มอยส์ มีปัญหาวางหมาก “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เล็กน้อยเมื่อ ทิม เคฮิลล์ ไม่ฟิต ทำให้ใส่กองหน้าอย่าง หลุยส์ ซาฮา ประสานงาน โช โดยมี มารูยาน เฟลไลนี เป็นทีเด็ดในแผงมิดฟิลด์
เริ่มเกมการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน เป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันใส่ ปอร์ทสมัธ เล่นเอา ซิลแว็ง ดิสแต็ง ต้องทำฟาล์ว หลุยส์ ซาฮา บริเวณหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา และก็เป็น เลห์ตัน เบนส์ อาสาปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดส่งลูกหนังข้ามกำแพงพุ่งกระแทกเสาตุงตาข่ายส่ง ขณะที่ เดวิด เจมส์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษได้แค่ป้องกันด้วยสายตา “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ขึ้นนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 4 พอเสียประตูไปเจ้าถิ่นดันเกมรุกขึ้นมาบ้างแต่โดนแผงหลังทีมเยือนขึงเอาไว้ นิโก ครันจ์ชาร์ จึงต้องตะบันไกลบอลเหินหลุดกรอบ
เกมตกเป็นของเจ้าบ้านที่โหมกดดันขึ้นมาเป็นระยะจนได้ลูกเตะมุม เกมรับผู้มาเยือนเคลียร์ไม่ขาด ครันจ์ชาร์ ตักบอลไปหน้าประตู เกล็น จอห์นสัน โหม่งตั้งให้ ปีเตอร์ เคราช์ โถมเข้ามาโขกจ่อๆ ไม่เหลือสาวก “ปอมปีย์” มีเฮบ้างเมื่อสกอร์มาเสมอกัน 1-1 แล้วในนาทีที่ 22 จากนั้นเกมของ เอฟเวอร์ตัน ดูตื้อไปถนัดตาต้องอาศัยตั้งรับรอจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 35 ทีมเยือนพลาดโอกาสทอง โช ได้ส้มหล่นจากการโหม่งสกัดพลาดของ โซล แคมป์เบลล์ แต่ดาวยิงบราซิเลียนซัดหักข้อหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ได้โอกาสก่อน โช ยิงไปให้ เจมส์ ต้องเซฟ นาทีที่ 47 แฟนๆ เจ้าพยายามเรียกร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็นบอลกระดอนพื้นไปโดนแขน เบนส์ แต่ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด ห้านาทีถัดมา ปอร์ทสมัธ ได้เสียวบ้าง ครันจ์ชาร์ หยอดบอลไปหน้าประตูให้ เคราช์ อาศัยความสูงโหนขึ้นโหม่งแต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ถอยหลังไปรับบอลไว้ได้บนเส้นประตู หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมยังค่อนข้างสูสีเป็นการบี้เกมแดนกลาง โอกาสทำประตูไม่จะแจ้งนัก
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 74 พอล ฮาร์ท ปรับทัพส่ง เอ็นวานโก คานู กองหน้าจอมเก๋ามาเล่นแทน เดวิด นูเจนท์ และนาทีถัดมา ปอร์ทสมัธ ก็ได้เฮจนได้เมื่อ เคราช์ เบียดทาง มารูยาน เฟลไลนี กระโจนขึ้นโหม่งจมตาข่ายส่งต้นสังกัดพลิกกลับมานำ 2-1 เจ็ดนาทีถัดมาเจ้าบ้านเกือบทิ้งห่างไปอีกเมื่อ ฌอน เดวิส ตะบันไกลจากนอกกรอบบอลติดไซด์ผ่านมือ ฮาวเวิร์ด ไปแล้วแต่ดันกระแทกเสาออกมาเต็มๆ อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที “ปอมปีย์” บดชนะไปได้ มีเพิ่มเป็น 32 คะแนนจากการลงสนาม 29 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 15 ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน มีอยู่ 48 คะแนนจากการลงแข่ง 30 นัด อยู่ที่ 6 ของตาราง โอกาสเบียดทาง อาร์เซนอล และ แอสตัน วิลลา ขึ้นสู่พื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ยากขึ้น
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ , ยูเนส กาบูล , โซล แคมป์เบลล์ , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน , เกล็น จอห์นสัน , เฮย์เดน มัลลินส์ , ฌอน เดวิส , นิโก ครันจ์ชาร์ , เดวิด นูเจนท์ , ปีเตอร์ เคราช์
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด , ลาร์ส ยาค็อบเซน , ฟิล จากีลกา , โจลีน เลสคอตต์ , เลห์ตัน เบนส์ , ลีออน ออสแมน , ฟิล เนวิลล์ , มารูยาน เฟลไลนี , สตีเวน พีนาร์ , โช , หลุยส์ ซาฮา
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 2-1 เอฟเวอร์ตัน
พอล ฮาร์ท กุนซือ “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ ประสบปัญหาในการจัดทัพทีมแห่งแดนใต้พอสมควรเมื่อขาดตัวหลักอย่าง เจอร์เมน เพนแนนท์ ปีกขวาที่ยืมมาจาก ลิเวอร์พูล ซึ่งบาดเจ็บทำให้ต้องดัน เกล็น จอห์นสัน เล่นเกมรุกทางริมเส้นแทน และก็ให้ ยูเนส กาบูล ยืนแบ็กขวาจำเป็น ส่วน เดวิด นูเจนท์ กับ นิโก ครันจ์ชาร์ คอยสนับสนุนเกมรุก ปีเตอร์ เคราช์ หน้าเป้าคนเดียว ด้าน เดวิด มอยส์ มีปัญหาวางหมาก “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เล็กน้อยเมื่อ ทิม เคฮิลล์ ไม่ฟิต ทำให้ใส่กองหน้าอย่าง หลุยส์ ซาฮา ประสานงาน โช โดยมี มารูยาน เฟลไลนี เป็นทีเด็ดในแผงมิดฟิลด์
เริ่มเกมการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน เป็นฝ่ายเดินเกมรุกกดดันใส่ ปอร์ทสมัธ เล่นเอา ซิลแว็ง ดิสแต็ง ต้องทำฟาล์ว หลุยส์ ซาฮา บริเวณหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา และก็เป็น เลห์ตัน เบนส์ อาสาปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดส่งลูกหนังข้ามกำแพงพุ่งกระแทกเสาตุงตาข่ายส่ง ขณะที่ เดวิด เจมส์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษได้แค่ป้องกันด้วยสายตา “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ขึ้นนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 4 พอเสียประตูไปเจ้าถิ่นดันเกมรุกขึ้นมาบ้างแต่โดนแผงหลังทีมเยือนขึงเอาไว้ นิโก ครันจ์ชาร์ จึงต้องตะบันไกลบอลเหินหลุดกรอบ
เกมตกเป็นของเจ้าบ้านที่โหมกดดันขึ้นมาเป็นระยะจนได้ลูกเตะมุม เกมรับผู้มาเยือนเคลียร์ไม่ขาด ครันจ์ชาร์ ตักบอลไปหน้าประตู เกล็น จอห์นสัน โหม่งตั้งให้ ปีเตอร์ เคราช์ โถมเข้ามาโขกจ่อๆ ไม่เหลือสาวก “ปอมปีย์” มีเฮบ้างเมื่อสกอร์มาเสมอกัน 1-1 แล้วในนาทีที่ 22 จากนั้นเกมของ เอฟเวอร์ตัน ดูตื้อไปถนัดตาต้องอาศัยตั้งรับรอจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 35 ทีมเยือนพลาดโอกาสทอง โช ได้ส้มหล่นจากการโหม่งสกัดพลาดของ โซล แคมป์เบลล์ แต่ดาวยิงบราซิเลียนซัดหักข้อหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ได้โอกาสก่อน โช ยิงไปให้ เจมส์ ต้องเซฟ นาทีที่ 47 แฟนๆ เจ้าพยายามเรียกร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็นบอลกระดอนพื้นไปโดนแขน เบนส์ แต่ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด ห้านาทีถัดมา ปอร์ทสมัธ ได้เสียวบ้าง ครันจ์ชาร์ หยอดบอลไปหน้าประตูให้ เคราช์ อาศัยความสูงโหนขึ้นโหม่งแต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ถอยหลังไปรับบอลไว้ได้บนเส้นประตู หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมยังค่อนข้างสูสีเป็นการบี้เกมแดนกลาง โอกาสทำประตูไม่จะแจ้งนัก
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 74 พอล ฮาร์ท ปรับทัพส่ง เอ็นวานโก คานู กองหน้าจอมเก๋ามาเล่นแทน เดวิด นูเจนท์ และนาทีถัดมา ปอร์ทสมัธ ก็ได้เฮจนได้เมื่อ เคราช์ เบียดทาง มารูยาน เฟลไลนี กระโจนขึ้นโหม่งจมตาข่ายส่งต้นสังกัดพลิกกลับมานำ 2-1 เจ็ดนาทีถัดมาเจ้าบ้านเกือบทิ้งห่างไปอีกเมื่อ ฌอน เดวิส ตะบันไกลจากนอกกรอบบอลติดไซด์ผ่านมือ ฮาวเวิร์ด ไปแล้วแต่ดันกระแทกเสาออกมาเต็มๆ อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที “ปอมปีย์” บดชนะไปได้ มีเพิ่มเป็น 32 คะแนนจากการลงสนาม 29 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 15 ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน มีอยู่ 48 คะแนนจากการลงแข่ง 30 นัด อยู่ที่ 6 ของตาราง โอกาสเบียดทาง อาร์เซนอล และ แอสตัน วิลลา ขึ้นสู่พื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ยากขึ้น
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ , ยูเนส กาบูล , โซล แคมป์เบลล์ , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน , เกล็น จอห์นสัน , เฮย์เดน มัลลินส์ , ฌอน เดวิส , นิโก ครันจ์ชาร์ , เดวิด นูเจนท์ , ปีเตอร์ เคราช์
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด , ลาร์ส ยาค็อบเซน , ฟิล จากีลกา , โจลีน เลสคอตต์ , เลห์ตัน เบนส์ , ลีออน ออสแมน , ฟิล เนวิลล์ , มารูยาน เฟลไลนี , สตีเวน พีนาร์ , โช , หลุยส์ ซาฮา
