วิลเลียม เกลลาร์ด ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟา) เปิดเผยว่ายูฟายินดีสนับสนุนผู้ตัดสินให้มีการยกเลิกการแข่งขันหากปรากฏว่ามีแฟนบอลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงพฤติกรรมเหยียดผิวและเชื้อชาติ พร้อมลงโทษให้ฝ่ายดังกล่าวพ่ายแพ้ไป
พฤติกรรมการเหยียดผิวและเชื้อชาติยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในวงการฟุตบอล อย่างเช่นกรณีของ โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังของ ปอร์ทสมัธ ที่เพิ่งออกมาเรียกร้องให้พรีเมียร์ชิปทำการลงโทษสโมสรที่มีแฟนบอลแสดงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจ หลังจากตนมักถูกโห่จากแฟนบอลของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อดีตต้นสังกัดเก่าที่ยังคงโกรธแค้นนับแต่ย้ายไปร่วมทัพ อาร์เซนอล อริร่วมกรุงลอนดอนเมื่อปี 2001 จนมีแฟนบอลไก่เดือยทองรวม 11 รายถูกดำเนินคดีจากพฤติกรรมดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน
ด้าน เกลลาร์ด ที่เข้าร่วมประชุมต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ณ กรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ เมื่อคืนวาน (4 มี.ค.) ออกมาแถลงข่าวว่า ยูฟา พร้อมจะให้มีการปิดสนามและลงโทษทีมออกจากการแข่งทัวร์นาเมนท์ต่างๆ หากปล่อยให้มีแฟนบอลแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
"เราตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าปรากฏการณ์ (การเหยียดเชื้อชาติ) ไม่สามารถขจัดให้หมดไปภายในชั่วข้ามคืน แต่เราต้องการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวด้วยการสนับสนุนให้มีการใช้มาตรการอันเข้มงวดต่อพฤติกรรมอันร้ายแรง นั้นคือการยุติการแข่งขันและทีมที่มีแฟนบอลทำพฤติกรรมดังกล่าวจะเสียคะแนนด้วยการถูกปรับให้แพ้ 0-3" เกลลาร์ด เปิดเผย
ทั้งนี้ โปแลนด์ ซึ่งเตรียมเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ยูเครน จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 มีปัญหาในเรื่องการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติที่แก้ไม่ตกเช่นกันจากอันธพาลลูกหนังชาวท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เกลลาร์ด ยืนยันว่าจะไม่มีผลต่อการเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากไม่ใช่ประเทศที่ถูกจับตาเป็นพิเศษจนต้องขึ้นบัญชี