xs
xsm
sm
md
lg

ไทยแลนด์โอเพน 2009 เกียรติยศสูงสุดสวิงไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธงชัย
แม้จะผ่านการแข่งขันมาแล้วถึง 39 ครั้งก็ตาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าทัวร์นาเมนต์กอล์ฟที่เก่าแก่และเปี่ยมไปด้วยเกียรติยศมากที่สุดในประเทศอย่าง “ไทยแลนด์ โอเพน” กลับมีก้านเหล็กสายเลือดไทยฝ่าด่านก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ได้เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นคือ สุเทพ มีสวัสดิ์ เมื่อปี 1991 และ บุญชู เรืองกิจ เมื่อปี 1992 กับ 2004 ขณะที่การกลับมาของทัวร์นาเม้นต์นี้ครั้งแรกในรอบ 3 ปีสัปดาห์นี้ ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับบรรดาโปรเจ้าถิ่นที่จะได้ลุ้นครอบครองเกียรติยศระดับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สักครั้งในชีวิต

นับตั้งแต่ ริชาร์ด ลี ก้านเหล็กจากนิวซีแลนด์ คว้าแชมป์ได้เมื่อปี 2005 ศึก ไทยแลนด์ โอเพน มีอันต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากขาดผู้สนับสนุน จนกระทั่งสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยตัดสินใจเซ็นสัญญากับ เวิลด์ สปอร์ต กรุ๊ป เป็นเวลา 3 ปีเพื่อให้ศึก ไทย โอเพน กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง พร้อมได้บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชัน เข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลัก จึงทำให้เกิดศึก เอเชียน ทัวร์ รายการ “สิงห์ ไทยแลนด์ โอเพน 2009” โดยกำหนดดวลวงสวิงกันที่สนามลากูนา กอล์ฟ คลับ จังหวัดภูเก็ต ชิงเงินรางวัลกันทั้งสิ้น 5 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17.5 ล้านบาท) ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคมนี้

ขณะที่ผู้เล่นที่มีโอกาสสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟไทยรายที่ 3 ที่สามารถครองถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มากที่สุดนาทีนี้ คงไม่มีใครฟอร์มร้อนแรงไปกว่า “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี หลังก้านเหล็กจากลพบุรี เพิ่งคว้าแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการที่ 3 ในชีวิต แถมสร้างสถิติเป็นเจ้าของแชมป์ เอเชียน ทัวร์ สูงสุด 11 รายการมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากศึก อินโดนิเซีย โอเพน และกลายเป็นผู้เล่นประวัติศาสตร์ของ เอเชียน ทัวร์ ที่สะสมเงินรางวัลเกิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (105 ล้านบาท)ไปแล้ว โดยสัปดาห์นี้อดีตมือ 1 เอเชียนทัวร์ 2 สมัย มีโอกาสขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 50 อันดับแรกของโลก หากสามารถคว้าชัยชนะได้ 2 รายการติดต่อกันเหมือนที่เคยทำได้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วจากศึก เวียดนาม มาสเตอร์ส กับ แคมโบเดียน โอเพน

ด้าน “สวิงพันคอ” ถาวร วิรัตน์จันทร์ แม้ฟอร์มในปีนี้จะยังไม่ดีนัก เมื่อไม่ผ่านการตัดตัวตลอดการลงเล่น 3 รายการที่ผ่านมา แต่ด้วยเลย์เอาท์ของสังเวียนลากูน่าฯ ที่มีระยะสั้นแค่ 6,896 หลา พาร์ 70 จึงทำให้น่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟวัยย่าง 43 ปีอย่าง “โปรเล็ก” ที่ต้องการเก็บแชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการที่ 11 ให้กับตัวเองเพื่อกลับขึ้นไปเป็นเจ้าของแชมป์สูงสุดเทียบเท่ากับ ธงชัย อีกครั้ง

ส่วน “พรหม มีสวัสดิ์” อีกหนึ่งโปรมือดีจากหัวหิน เตรียมลงทำศึก ไทยแลนด์ โอเพน ในสัปดาห์นี้ด้วยความปรารถนาเดินตามรอยเท้าคุณพ่อ สุเทพ มีสวัสดิ์ ที่ถือเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้ครองโทรฟีแชมป์รายการนี้ โดยขณะนั้น พรหม อายุได้เพียงแค่ 6 ขวบ แต่ทว่าเมื่อเหลือบดูผลงานในปีนี้ของ โปรวัย 24 ปีแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าอันดับ 3 ร่วมจากศึก เอเชียน ทัวร์ อินเตอร์เนชันแนล แต่หลังจากนั้น “โลมายักษ์” ที่เพิ่งได้แชมป์ เอเชียน ทัวร์ รายการเดียวจากศึก เอสเค เทเลคอม โอเพน เมื่อปี 2006 ก็ทำได้เพียงอันดับ 40 ร่วมจากศึก มาเลเซียน โอเพน ก่อนไม่ผ่านตัดตัวในศึก อินโดนิเซีย โอเพน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ 2 ขุนพลเลือดใหม่มากพรสวรรค์อย่าง “โปรโจ๊ก” ชัพชัย นิราช หรือฉายาที่สื่อต่างประเทศตั้งให้ว่า “คิงคอง” กับ “โปรหนึ่ง” ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ นักกอล์ฟไทยคนแรกที่ผ่านการคัดเลือกคิว-สคูล ของ ยูโรเปียน ทัวร์ หรือแม้แต่ เชาวลิต ผลาผล ก้านเหล็กจากสัตหีบ ก็ล้วนแล้วแต่มีโอกาสได้สัมผัสเกียรติยศระดับสูงสุดในสัปดาห์นี้กันทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามด้วยศักดิ์ศรีความเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับ เอเชียน ทัวร์ ทำให้หนทางสู่ชัยชนะของนักกอล์ฟเจ้าถิ่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อมีโปรมือดีจากหลากหลายพื้นที่ทั่วโลกร่วมชิงชัยเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะจำนวน 79,250 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) กันมากมาย นำมาโดย ดาเนียล โชปรา โปรหนุ่มจากแดนไวกิง ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ ยูเอส พีจีเอ ทัวร์ 2 รายการ อีกทั้งยังเพิ่งจบอันดับ 15 ร่วมจากศึก อินโดนิเซีย โอเพน เมื่อสัปดาห์แล้วอีกด้วย รวมถึง แอนโธนี คัง สวิงลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี ที่รั้งอันดับ 1 บนตารางทำเงินสูงสุด เอเชียน ทัวร์ อยู่ตอนนี้ หลังยุติการอคอยโทรฟีแชมป์นานถึง 8 ปีของตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ มาเลเซียน โอเพน ได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ที่สุดแล้วหากตำแหน่งแชมป์เมเจอร์คือเกียรติยศสูงสุดของนักกอล์ฟทุกคนบนโลก การคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพน พร้อมครองถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็คงเป็นความภูมิใจที่ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสำหรับความรู้สึกของโปรไทย เหมือนอย่างที่ บุญชู เรืองกิจ พี่ใหญ่ของวงการกอล์ฟไทย ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 2 สมัย บอกว่า “ถือเป็นความฝันของนักกอล์ฟไทยทุกคนที่จะคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพน และรับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"
ถาวร
พรหม
บุญชู
กำลังโหลดความคิดเห็น