ในฐานะนักกีฬาคงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับอาการบาดเจ็บที่สามารถเกิดขึ้นทุกเวลา ทว่าเมื่อได้รับความเสียหายบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งไปแล้ว แม้จะรักษาจนดีขึ้น แต่บางคนอาจไม่หายขาด กลายเป็นจุดเปราะของร่างกายดังเช่น จิมมี บุลลาร์ด ที่ ฮัลล์ ซิตี ควักเงิน 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 250 ล้านบาท) ซื้อมาจาก ฟูแลม เมื่อช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่โชคร้ายเจ็บเข่าข้างเดียวกับที่เคยพักยาวถึงปีกว่าซึ่งครั้งนี้มิดฟิลด์วัย 30 ปี จะต้องพักอีกอย่างน้อยถึง 6 เดือน
ถึงกระนั้นก็ตามใช่ว่า บุลลาร์ด จะเป็นคนเดียวที่ประสบชะตากรรมเช่นนั้น เพราะที่ผ่านมามีผู้เล่นหลายต่อหลายคนจากหลากชนิดกีฬาที่ต้องโชคร้ายเจ็บซ้ำเจ็บซาก จนส่งผลกระทบทำให้พลาดช่วงเวลาสำคัญมากมายในชีวิตนักกีฬาอาชีพ บางคนสามารถที่จะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง แต่บางคนก็แทบจะเปลี่ยนชีวิตไปเลยทีเดียว
ไมเคิล โอเวน (กองหน้า / นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)
ยังเสียวไม่หายทุกครั้งที่นึกถึงภาพ โอเวน ถ่ายน้ำหนักตัวไม่ดีจนเสียหลักทำให้เข่าบิดและเส้นเอ็นฉีกในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก นัดที่เสมอกับ สวีเดน 2-2 เพราะทำให้หอกที่ซัดมากกว่า 150 ประตูให้ ลิเวอร์พูล ต้องพักยาวเกือบทั้งฤดูกาลหลังจากบินไปผ่าตัดที่สหรัฐฯ ถึง 2 ครั้งกับหมอเทวดาที่ชื่อ ริชาร์ด สตีดแมน จากนั้นนักเตะวัย 29 ปี ก็บาดเจ็บออดๆ แอดๆ เรื่อยมาในการเล่นให้ นิวคาสเซิล ไม่ว่าจะเป็นที่ กล้ามเนื้อต้นขา, น่อง และ ผ่าตัดไส้เลื่อน จนทำให้เคยปืนฝืดซัดไม่ได้นานถึง 3 เดือน
เหมือนว่าร่างกายของ โอเวน ที่อยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งจะเริ่มชำรุดทรุดโทรม ไม่ได้ลงเล่นช่วย นิวคาสเซิล หนีตกชั้นตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ็บที่ข้อเท้าและต้นขา กว่าจะคืนสนามได้ก็น่าจะเป็นในช่วงกลางเดือนมีนาคม มิหนำซ้ำความฝันที่จะกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติอังกฤษ ทุบสถิติเดิมของเซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน ที่ทำไว้ 49 ประตู คงต้องพับเก็บใส่กล่อง แม้จะตามหลังแค่ 9 ลูกเท่านั้น แต่ทว่าสังขารกลับไม่เอื้ออำนวยเสียแล้ว
อมาเร สเตาดาไมร์ (ฟอร์เวิร์ด / ฟีนิกซ์ ซันส์)
รุคกีแห่งปี 2003 ของศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ ต้องผ่าตัดเข่าซ้ายในเดือนตุลาคมช่วงปรีซีซัน 2005-06 ก่อนจะกลับมานำทัพเกมบุก "ลูกพระอาทิตย์" ได้อีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่แล้วก็ไม่สามารถช่วยต้นสังกัดจนจบฤดูกาล เพราะจากนั้นเพียงแค่ไม่ถึงเดือนก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าข้างขวา ทำให้ไม่ฟิตพอช่วยทีมชาติสหรัฐฯ ลุยศึกชิงแชมป์โลกที่จีน แม้จะช่วยทีมคัดเลือกโอลิมปิก เกมส์ แต่สุดท้ายไม่เข้าร่วม "ดรีมทีม" ชุดคว้าเหรียญทอง "ปักกิ่งเกมส์" เนื่องจากหวั่นปัญหาที่เข่าจะกลับมารังควานอีก
ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอเมื่อ สเตาดาไม คืนฟอร์มจนถูกเรียกติด "ออล-เอ็นบีเอ" ชุดแรกฤดูกาล 2006/07 และเคยยิงฟรีโทรล์ถึง 20 คะแนน ทำลายสถิติที่ พอล ไซลาส ยิงลูกโทษใส่ แอตแลนตา ฮอว์คส 17 ลูก แต่ฟอร์มอันไหลลื่นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต้องเข้ารับการผ่าตัดเรตินาเพื่อช่วยในการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ฟอร์เวิร์ดวัย 26 ปี ดีกรีปีกออส-สตาร์ 4 สมัย จะต้องร้างสนามไปนานอีกถึง 2 เดือน แม้ทีมกำลังลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟอย่างหนักก็ตาม แต่เพื่อผลระยะยาวและประโยชน์ของตัวผู้เล่นเอง
ราฟาเอล นาดาล (นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวสแปนิช)
นักหวดกล้ามโตที่วิ่งเป็นม้าอยู่บนคอร์ตสุดท้ายก็ต้องสิโรราบให้กับอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกัน นาดาล ล้าจากโปรแกรมที่แน่นเอียดในปี 2008 จนพ่าย แอนดี เมอร์เรย์ ในรอบรองชนะเลิศของศึก ยูเอส โอเพน สุดท้ายก็ต้องวืดลุยศึก มาสเตอร์ คัพ ในช่วงปลายปีที่เซี่ยงไฮ้ แม้จะฝืนอยากช่วย สเปน ในศึก เดวิส คัพ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวต้องถอนตัวเนื่องจากเอ็นหัวเข่าอักเสบอย่างหนัก แม้จะปิดฉากฤดูกาลด้วยการยึดมือ 1 ของโลก แต่คงไม่คุ้มเพราะการลาโรงคั้งนี้ต้องแลกกับอาการเจ็บหัวเข่าเรื้อรังอวัยวะที่นักกีฬาทุกคนหวาดผวา
ด้วยอายุอานามเพียงแค่ 22 ปี นาดาล ได้รับการคาดหมายว่าคงจะพักไม่นานและฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วซึ่งก็มีแนวโน้มเช่นนั้น เพราะออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการเล่น 5 เซตคว่ำ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน จากนั้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์อาการเจ็บเข่าของ นาดาล กำเริบอีกครั้งจนได้แค่รองแชมป์ เอบีเอ็น อัมโร ที่ประเทศฮอลแลนด์ แม้มีแนวโน้มดีเตรียมช่วย สเปน ทำศึก เดวิส คัพ ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ แต่ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล อาการบาดเจ็บอาจจะกลับมาถามหาอีกเมื่อไหร่ก็เป็นได้
ไทเกอร์ วูดส์ (นักกอล์ฟมือ 1 ของโลกชาวสหรัฐฯ)
ที่ผ่านมา ไทเกอร์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่าซ้ายมาโดยตลอด แต่ยังคงฝืนไม่ยอมที่จะพักยาว เข้ารับการผ่าตัดแบบส่องกล้องเมื่อช่วงเดือนเมษายนของปี 2008 พักฟื้นพร้อมทำกายภาพบำบัดแค่ประมาณ 4 สัปดาห์กว่าๆ "เจ้าเสือ" รีบจับก้านเหล็กกลับมาลงสนามอีกครั้งและต้องเล่นยืดเยื้อจนถึงเพลย์ออฟ ก่อนจะคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน เมเจอร์ ลำดับที่ 14 ได้สำเร็จ จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจเชื่อฟังคำสั่งหมอเข้ารับการผ่าตัดเข่าซ้ายอีกครั้งเพื่อจะให้หายขาดเสียที
แต่การขึ้นเขียงของ ไทเกอร์ ก็ทำให้เขาต้องวืดลุ้นแชมป์รายการใหญ่อย่าง ดิ โอเพ่น, พีจีเอ แชมเปียนชิป และ ไรเดอร์ คัพ ที่ทีมสหรัฐฯ ผงาดคว้าแชมป์ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีมือ 1 ของโลกนำทัพ แต่ก็ต้องเสียท่าให้กับยุโรปไปถึง 3 ปีซ้อนคือ 2002, 2004 และ 2006 เวลานี้ก้านเหล็กวัย 33 ปี กลับคืนสังเวียนอีกครั้ง แต่ก็ป้องกันแชมป์ แอคเซนเจอร์ แมตช์ เพลย์ แชมเปียนชิป ไว้ไม่สำเร็จจอดป้ายแค่รอบ 2 เท่านั้น ซึ่งจากนี้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้อาการเจ็บกลับมาย่างกรายอีกเลย