ลิเวอร์พูล ต่อลมหายใจในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ อีกเฮือกด้วยการเปิดบ้านสอย ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ขณะที่ เชลซี บุกไปเฉือน ปอร์ทสมัธ ฉิวเฉียด ส่วน อาร์เซนอล หยุดสถิติเสมอ 5 นัดรวดได้สำเร็จ
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2552
ลิเวอร์พูล 2–0 ซันเดอร์แลนด์
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับ ซันเดอร์แลนด์ แมตช์นี้เจ้าถิ่นถอย ฮาเวียร์ มาสเชราโน กองกลางตัวรับชาวอาร์เจนไตน์ลงไปเล่นแบ็กขวา โดยมี ดาวิด เอ็นก็อก จับคู่ล่าตาข่ายกับ เดิร์ก เคาท์ ส่วนทีมเยือนอัดแผงมิดฟิลด์ลงสนาม 5 ตัวเน้นความรัดกุม พร้อมทิ้ง เคนวีน โจนส์ เป็นหน้าเป้า
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเศษ หงส์แดงหวิดเสียท่าให้แมวดำก่อน เมื่อ โจนส์ ฉีกหนีแผงหลังเข้าไปดวลเดี่ยวกับ โฮเซ เรนา แต่จังหวะสับไกกลับทำได้น่าผิดหวัง โดยยิงไปถูกนายทวารทีมชาติสเปนล้มตัวปัด จากนั้นนาทีที่ 7 แกรนท์ เลดบิทเตอร์ เก็บตกซัดหน้าเขตโทษ ลูกหลุดไปเข้าทาง คีแรน ริชาร์ดสัน ตวัดยิงตามน้ำหน้าประตูไม่ตรงกรอบ และยังถูกจับล้ำหน้าอีกด้วย
นาทีถัดมา อัลเบิร์ต ริเอรา วอลเลย์ไปติดแขน ทาล เบน-ฮาอิม ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ นิ่งเฉยไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ จากนั้นนาทีที่ 10 เคาท์ แตะหาช่องกดหน้าเขตโทษ แต่ มาร์ตัน ฟูล็อป ล้มตัวรับเอาไว้ได้ ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 เลดบิทเตอร์ เห็น เรนา ออกมาไกลจากเส้นจึงลองเสี่ยงยิงครึ่งสนาม แต่ก็ไม่ตรงกรอบ
เข้าสู่นาทีที่ 31 ริเอรา แตะหนีผู้เล่นแบล็คแคทส์ 2 คนในเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาไปแฉลบเท้าของ เลดบิทเตอร์ ที่พุ่งเข้ามาดักเกือบเปลี่ยนทางเข้าเสาแรก ทว่า ฟูล็อป ยังไวทิ้งตัวปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ มาสเชราโน จะได้ตั้งป้อมกระทุ้งนอกเขตโทษจากลูกเตะมุมต่อเนื่อง บอลเหินข้ามคานออกไปชนิดน่าเสียวไส้
มาสเชราโน ยังทำหน้าที่แบ็กขวาจำเป็นได้ดี นาทีที่ 43 ลิเวอร์พูล มีจังหวะโต้กลับเร็วก่อนที่ เอ็นก๊อก จะไหลต่อให้กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาจับหนึ่งทีแล้วซัด แต่ก็ไปเข้าข้างตาข่ายเนื่องจากถูกบีบจนมุมตีบ จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังเพียง 2 นาที สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมจากด้านซ้ายให้ ยอสซี เบนายูน โหม่งออกหลังไปพอสมควร ก่อนที่ เดอะ ค็อป จะได้เฮสมใจในนาทีที่ 52 เมื่อ ริเอรา กระชากบอลขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางให้ เจอร์ราร์ด โหม่งชงมาหน้าประตูให้ เอ็นก็อก ตวัดยิงโล่งๆ ตุงตาข่ายให้หงส์แดงนำ 1-0
ลิเวอร์พูล เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ นาทีที่ 57 เอมิเลียโน อินซัว เติมขึ้นมาจากแบ็กซ้ายก่อนตัดสินใจซัดเอง ลูกพุ่งผ่านหน้าประตูออกหลังไป จากนั้นช่วงครบหนึ่งชั่วโมงแรก สตีด มัลบรองก์ ได้ลูกส้มหล่นในเขตโทษ แต่กกลับหวดโด่งข้ามคานออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
เจ้าถิ่นมาบวกสกอร์หนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 65 จากความผิดพลาดของ ฟูล็อป ที่ปัดลูกตีลังกายิงของ เอ็นก็อก ไม่ขาดไปตกใส่เท้า เบนายูน แปซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือซาก จากนั้น ไรอัน บาเบล ตัวสำรองที่ลงมาแทน เจอร์ราร์ด ได้จังหวะลากตัดเข้าในแล้วซัดเข้าซอง ฟูล็อป ในนาทีที่ 88 ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ริเอรา จะปั่นฟรีคิกถูก ฟูล็อป ทุบออกมา เคาท์ ตามซ้ำข้ามคาน
ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเชือด ซันเดอร์แลนด์ นิ่มๆ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนน ไล่บี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือเพียง 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่าถึง 2 นัด ส่วนแมวดำรั้งอันดับ 12 จากการมี 31 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, ดาวิด เอ็นก็อก, เดิร์ก เคาท์
ซันเดอร์แลนด์ – มาร์ตัน ฟูล็อป, ทาล เบน-ฮาอิม, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, แดนนี คอลลินส์, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, ดีน ไวท์เฮด, แกรนท์ เลดบิทเตอร์, สตีด มัลบรองก์, คีแรน ริชาร์ดสัน, แอนดี รีด, เคนวีน โจนส์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ แพ้ เชลซี 0-1 (ดิดิเยร์ ดร็อกบา 0-1 น.79)
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 0-1 น.4), (คริส บรันท์ 1-1 น.7), (โคโล ตูเร 1-2 น.38), (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 1-3 น.44)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (ดาวิด เอ็นก็อก 1-0 น.52), (ยอสซี เบนายูน 2-0 น.65)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2552
ลิเวอร์พูล 2–0 ซันเดอร์แลนด์
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกลางสัปดาห์ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับ ซันเดอร์แลนด์ แมตช์นี้เจ้าถิ่นถอย ฮาเวียร์ มาสเชราโน กองกลางตัวรับชาวอาร์เจนไตน์ลงไปเล่นแบ็กขวา โดยมี ดาวิด เอ็นก็อก จับคู่ล่าตาข่ายกับ เดิร์ก เคาท์ ส่วนทีมเยือนอัดแผงมิดฟิลด์ลงสนาม 5 ตัวเน้นความรัดกุม พร้อมทิ้ง เคนวีน โจนส์ เป็นหน้าเป้า
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเศษ หงส์แดงหวิดเสียท่าให้แมวดำก่อน เมื่อ โจนส์ ฉีกหนีแผงหลังเข้าไปดวลเดี่ยวกับ โฮเซ เรนา แต่จังหวะสับไกกลับทำได้น่าผิดหวัง โดยยิงไปถูกนายทวารทีมชาติสเปนล้มตัวปัด จากนั้นนาทีที่ 7 แกรนท์ เลดบิทเตอร์ เก็บตกซัดหน้าเขตโทษ ลูกหลุดไปเข้าทาง คีแรน ริชาร์ดสัน ตวัดยิงตามน้ำหน้าประตูไม่ตรงกรอบ และยังถูกจับล้ำหน้าอีกด้วย
นาทีถัดมา อัลเบิร์ต ริเอรา วอลเลย์ไปติดแขน ทาล เบน-ฮาอิม ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ นิ่งเฉยไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ จากนั้นนาทีที่ 10 เคาท์ แตะหาช่องกดหน้าเขตโทษ แต่ มาร์ตัน ฟูล็อป ล้มตัวรับเอาไว้ได้ ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 เลดบิทเตอร์ เห็น เรนา ออกมาไกลจากเส้นจึงลองเสี่ยงยิงครึ่งสนาม แต่ก็ไม่ตรงกรอบ
เข้าสู่นาทีที่ 31 ริเอรา แตะหนีผู้เล่นแบล็คแคทส์ 2 คนในเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาไปแฉลบเท้าของ เลดบิทเตอร์ ที่พุ่งเข้ามาดักเกือบเปลี่ยนทางเข้าเสาแรก ทว่า ฟูล็อป ยังไวทิ้งตัวปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ มาสเชราโน จะได้ตั้งป้อมกระทุ้งนอกเขตโทษจากลูกเตะมุมต่อเนื่อง บอลเหินข้ามคานออกไปชนิดน่าเสียวไส้
มาสเชราโน ยังทำหน้าที่แบ็กขวาจำเป็นได้ดี นาทีที่ 43 ลิเวอร์พูล มีจังหวะโต้กลับเร็วก่อนที่ เอ็นก๊อก จะไหลต่อให้กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาจับหนึ่งทีแล้วซัด แต่ก็ไปเข้าข้างตาข่ายเนื่องจากถูกบีบจนมุมตีบ จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังเพียง 2 นาที สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมจากด้านซ้ายให้ ยอสซี เบนายูน โหม่งออกหลังไปพอสมควร ก่อนที่ เดอะ ค็อป จะได้เฮสมใจในนาทีที่ 52 เมื่อ ริเอรา กระชากบอลขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางให้ เจอร์ราร์ด โหม่งชงมาหน้าประตูให้ เอ็นก็อก ตวัดยิงโล่งๆ ตุงตาข่ายให้หงส์แดงนำ 1-0
ลิเวอร์พูล เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ นาทีที่ 57 เอมิเลียโน อินซัว เติมขึ้นมาจากแบ็กซ้ายก่อนตัดสินใจซัดเอง ลูกพุ่งผ่านหน้าประตูออกหลังไป จากนั้นช่วงครบหนึ่งชั่วโมงแรก สตีด มัลบรองก์ ได้ลูกส้มหล่นในเขตโทษ แต่กกลับหวดโด่งข้ามคานออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
เจ้าถิ่นมาบวกสกอร์หนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 65 จากความผิดพลาดของ ฟูล็อป ที่ปัดลูกตีลังกายิงของ เอ็นก็อก ไม่ขาดไปตกใส่เท้า เบนายูน แปซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือซาก จากนั้น ไรอัน บาเบล ตัวสำรองที่ลงมาแทน เจอร์ราร์ด ได้จังหวะลากตัดเข้าในแล้วซัดเข้าซอง ฟูล็อป ในนาทีที่ 88 ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ริเอรา จะปั่นฟรีคิกถูก ฟูล็อป ทุบออกมา เคาท์ ตามซ้ำข้ามคาน
ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเชือด ซันเดอร์แลนด์ นิ่มๆ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนน ไล่บี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือเพียง 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่าถึง 2 นัด ส่วนแมวดำรั้งอันดับ 12 จากการมี 31 คะแนน
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน อินซัว, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, ดาวิด เอ็นก็อก, เดิร์ก เคาท์
ซันเดอร์แลนด์ – มาร์ตัน ฟูล็อป, ทาล เบน-ฮาอิม, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, แดนนี คอลลินส์, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, ดีน ไวท์เฮด, แกรนท์ เลดบิทเตอร์, สตีด มัลบรองก์, คีแรน ริชาร์ดสัน, แอนดี รีด, เคนวีน โจนส์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ แพ้ เชลซี 0-1 (ดิดิเยร์ ดร็อกบา 0-1 น.79)
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 0-1 น.4), (คริส บรันท์ 1-1 น.7), (โคโล ตูเร 1-2 น.38), (นิคลาส เบนดท์เนอร์ 1-3 น.44)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (ดาวิด เอ็นก็อก 1-0 น.52), (ยอสซี เบนายูน 2-0 น.65)
