กลับคืนสู่ปฏิทินแข่งขันของ แอลพีจีเอ ทัวร์ อีกครั้งหลังจากห่างหายไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับทัวร์นาเมนต์กอล์ฟสตรีระดับโลกรายการแรกและรายการเดียวในเมืองไทย “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ที่เตรียมระเบิดศึกระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคมนี้ บนสังเวียน สยาม คันทรี คลับ คอร์สใหม่ แพลนเทชัน ภายในเมืองพัทยา ที่กำลังได้ต้อนรับ “ลอเรนา โอชัว” ก้านเหล็กหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน ที่เตรียมเปิดศักราชปี 2009 ของตัวเองบนผืนแผ่นดินไทย
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการจัดการแข่งขันใน 2 ครั้งแรกเมื่อปี 2006 และ 2007 มาถึงปีนี้จากโผรายชื่อผู้เล่นที่ตอบรับเข้าแข่งขันเรียกได้ว่าปัจจุบันศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ได้กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว เมื่อมีมือระดับท็อป 50 ของโลกร่วมชิงเงินรางวัล 1.45 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 50 ล้านบาทมากเป็นประวัติการณ์ถึง 46 คน โดยผู้เล่น 10 อันดับแรกของโลกมากันครบ โดยเฉพาะยอดโปรสาวจากแดนจังโก้ ซึ่งการมาเยือนเมืองไทยครั้งแรกในชีวิตของเธอในสัปดาห์นี้ถือเป็นการลงประเดิมสนาม แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกของฤดูกาล 2009 ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของเธอจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากโทรฟีชนะเลิศ แอลพีจีเอ ใบที่ 25
อย่างไรก็ตามเส้นทางสู่ตำแหน่งแชมป์ของ โอชัว อาจไม่ง่ายดายอย่างที่หลายคนคิด เมื่อการต่อสู้บนสนามแข่งขันยังเต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดมากมาย โดยเฉพาะ “เจิง หยานี” ดาวรุ่งสาววัย 19 ปีจากไต้หวัน ที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 ปีในฐานะนักกอล์ฟอาชีพก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมือ 2 ของโลกอย่างรวดเร็ว เมื่อคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ รายการแรกในชีวิตเป็นรายการเมเจอร์ แอลพีจีเอ แชมเปียนชิป อีกทั้งยังจบท็อป 3 ได้ถึง 8 รายการ และท็อป 10 อีก 10 รายการ ส่งผลให้ครองอันดับ 3 บนตารางทำเงิน พร้อมคว้าตำแหน่งรุคกียอดเยี่ยมของ แอลพีจีเอ ไปครอง ขณะที่ผลงานในรายการแรกของฤดูกาล 2009 ก็ถือว่าไม่เลวจบอันดับ 5 ร่วมจากศึก เอสบีเอส โอเพน ที่ฮาวาย เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
ส่วน “พิงแพนเตอร์” พอลลา เครเมอร์ นอกจากพกพาความสวยกับความสาวมาให้แฟนกอล์ฟชาวไทยได้สัมผัสแล้ว ฟอร์มการเล่นในปี 2008 ของ โปรอเมริกันเบอร์ 3 ของโลก ถือว่าร้อนแรงสุดๆ เมื่อชนะ แอพีจีเอ ทัวร์ ได้ถึง 4 รายการ จนทำให้จบอันดับ 2 บนตารางทำเงินสูงสุด นอกจากนี้ “แม่เสือสีชมพู” ยังเคยฝากผลงานคว้าอันดับ 3 ไว้ในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เมื่อปี 2007 อีกด้วย
ทั้งนี้นอกจากโปรสาวระดับท็อป 3 ของโลกที่ถือว่ามีโอกาสสูงที่จะคว้าเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะเกือบ 2 แสนเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7 ล้านบาทในบั้นปลายแล้ว ชื่อของ “ชิน จีไย” รุคกีร่างอวบวัย 20 ปีจากเกาหลี ก็น่าจับตามองไม่น้อย เมื่อลงเล่นไป 10 รายการใน แอลพีจีเอ เมื่อปีที่แล้ว เก็บสถิติจบท็อป 10 ได้ถึง 6 รายการ อีกทั้งยังสามารถคว้าแชมป์ได้ 3 จาก 5 รายการหลังสุดที่ลงเล่นอีกด้วย แม้ปีที่แล้วเธอจะยังไม่ได้เป็นสมาชิกของ แอลพีจีเอ แต่ “น้องชิน” ที่ล่าสุดรั้งอยู่อันดับ 5 ของโลก ก็คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ไปได้แล้วถึง 3 รายการ โดยหนึ่งในนั้นเป็นดีกรีระดับเมเจอร์อย่าง วีเมนส์ บริติช โอเพน จนทำให้ได้รับเชิญจากผู้สนับสนุนลงทำศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปีนี้
ส่วนในรายของ “แชมป์เก่า” ซูซานน์ เพตเตอร์สัน โปรมือ 4 ของโลกจากนอร์เวย์ กับ “แองเจลา สแตนฟอร์ด” ก้านเหล็กสาวอเมริกัน ที่เพิ่งขึ้นสู่มือ 6 ของโลก หลังจากประเดิมคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ รายการแรกของฤดูกาล 2009 เอสบีเอส โอเพน ได้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ต่างก็มีสิทธิ์หวังลึกๆ ถึงตำแหน่งแชมป์ที่เมืองไทยในสัปดาห์นี้เช่นกัน
โดย เพตเตอร์สัน ที่คว้าแชมป์ฮอนด้าฯ เมื่อปี 2007 ด้วยการเฉือนชนะ ลอรา เดวีส์ ไปอย่างสนุกตื่นเต้นในหลุมสุดท้าย กล่าวว่า "การแข่งขันครั้งที่แล้วเป็นความทรงจำที่จะต้องจดจำไปตลอด โดยเฉพาะในหลุมสุดท้ายที่เล่นได้ยอดเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นเครียดมากแต่ก็อาชนะมาได้ สำหรับครั้งนี้หลายคนมองว่าเป็นการป้องกันแชมป์น่าจะกดดัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย แม้จะผ่านมา 18 เดือนแล้วแต่ก็ยังมั่นใจอยู่”
“ฉันลงซ้อมมา 2 วันครบทั้ง 18 หลุมแล้ว ได้ลองซ้อมและลองเปลี่ยนชอตไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาเทคนิคที่เหมาะกับตัวเอง สนามใหม่ กรีนใหม่ ที่แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา วิธีการเล่นก็จะแตกต่างไปด้วย คิดว่าการซ้อมมากๆ จะช่วยได้ และจุดสำคัญที่จะทำให้ชนะในครั้งนี้อยู่ที่ชอตแอพโพรชว่าจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน”
สุดท้ายแฟนกอล์ฟเจ้าถิ่นยังคงต้องตามลุ้น สเตซี พราหมณสุทธิ์ โปรสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และ 3 สวิงสายเลือดไทยแท้ๆ อย่าง “โปรฝน” รัศมี กัลยาณมิตตา มือ 133 ของโลก, “น้องโม” โมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 14 ปี ที่ได้รับเชิญจากผลงานการคว้าแชมป์ เดอะ จูเนียร์ โอเพน และ “น้องจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ดาวรุ่งวัย 16 ปี ดีกรีทีมชาติไทย ที่ฝ่าด่านจากการแข่งขันรายการ “ฮอนด้า กอล์ฟ ชาเลนจ์ 2009” จนทำให้ได้โอกาสลงดวลวงสวิงกับสุดยอดโปรสาวของโลกเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ว่าทั้งหมดจะสามารถฝากผลงานให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชื่นใจสักเพียงใด