ทองสุข สัมปหังสิต สตาฟฟ์โค้ชของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มองว่าลูกจุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นตัวแปรที่ทำให้เสียท่า สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ แบบขาดลอยในเกมเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2009 พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีการเตะแบบเหลาะแหละ เพื่อจะได้ไปเล่นเอเอฟซี คัพ ที่มาตรฐานด้อยกว่า
ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2009 รอบเพลย์ออฟ สายเอเชียตะวันออก รอบแรก เมื่อช่วงหัวค่ำวันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พลาดท่าในช่วงต่อเวลาพิเศษก่อนพ่าย สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ถึง 1-4 ทั้งที่ในเวลาปกติเสมอกัน 1-1
ด้าน ทองสุข สัมปหังสิต หนึ่งในผู้ฝึกสอนของ “มนุษย์ไฟฟ้า” ให้สัมภาษณ์หลังเกม โดยเริ่มจากจังหวะเสียจุดโทษซึ่ง อภิเชษฐ์ พุฒตาล ทำฟาวล์ มุสตาควิน แมนซูร์ ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น จะยิงนำ 2-1 ว่า “โดยรวมแล้วถือว่าเราเล่นกันได้น่าพอใจ เพียงแต่ลูกจุดโทษลูกนั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม เพราะตามความจริงแล้วการฟาวล์จังหวะนั้นถือว่าไม่ชัดเจน ไม่รุนแรงมากนัก ผู้ตัดสินก็ไม่ควรเป่า”
กระนั้น โค้ชทองสุข ออกมาให้เครดิตกับทีมจากแดนลอดช่อง พร้อมชี้ถึงข้อบกพร่องของการไฟฟ้าฯ ว่า “ผมยอมรับว่าพวกเขามีจังหวะจบสกอร์แล้วสามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ ขณะที่เราเองไม่ค่อยลงตัวนัก ยังบกพร่องหลายจุด ผู้เล่นใหม่บางคนดูสับสนกับการยืนตำแหน่งพอสมควร ทำให้เกิดความผิดพลาดในเกม แต่การแพ้ครั้งนี้ยังมองในแง่ดีได้ว่าเป็นบทเรียนเอาไว้ปรับปรุงแก้ไขก่อนเปิดฤดูกาลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก เดือนหน้า”
เมื่อถูกถามถึงประเด็นสมยอม เพื่อจะได้ไปเล่นในรายการเอเอฟซี คัพ ที่มาตรฐานไม่สูงเท่ากับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก โค้ชมนุษย์ไฟฟ้า ตอบว่า “เรื่องนั้นไม่เป็นความจริงเลย เราไม่ลงไปเล่นแบบอ่อนข้อแน่แล้วก็ไม่มีการล้มบอลด้วย ผมคิดว่าเด็กๆ ในทีมพยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว น่าเสียดายที่เราทำกันไม่ได้เอง”
ขณะที่ บ็อก ฉวน ริชาร์ด เฮดโค้ชของสิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ออกมากล่าวบ้างว่า “นี่เป็นเกมที่ยากและค่อนข้างสูสี เพราะการไฟฟ้าฯ เป็นทีมที่ดี มีดีกรีระดับแชมป์ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก และยังมีผู้เล่นเก่งๆ มากมาย วันนี้ผมมองว่าจังหวะทำประตูตัดสินกันที่ความฟิต ซึ่งเราถือว่ามีมากกว่าและทำได้ดีกว่า ส่วนเรื่องจุดโทษผมยอมรับว่ามันดูไม่ค่อยชัดนัก และถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกม ซึ่งเราก็ดีใจที่สามารถชนะทีมจากไทยได้เป็นครั้งแรก หลังเคยแพ้ บีอีซี เทโรศาสน มาก่อน”