“แซมบา” บราซิล บินไปอุ่นเกือกบดเอาชนะ อิตาลี 2-0 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอังคาร และก็ทำให้ มาร์เชลโล ลิปปี กุนซือผมสีดอกเลาหยุดสถิติคุมทัพ “อัซซูรี” ไร้พ่ายไว้เพียงแค่ 31 นัดติดต่อกัน
ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับทีมชาติ
อิตาลี 0-2 บราซิล
มาร์เชลโล ลิปปี นำทัพ “แชมป์โลก” อิตาลี เดินทางมายังมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อลับแข้ง “แซมบา” บราซิล คู่ปรับตลอดกาล และก็มีการปรับทัพให้โอกาสหน้าใหม่ลงเล่นหลายคนไม่ว่าจะเป็น นิโกลา เลกร็อตตาเย, ริคคาร์โด มอนโตลิโว หรือ ซิโมเน เปเป ด้าน คาร์ลอส ดุงกา กุนซือบราซิเลียนไม่สามารถใช้งาน ริคาร์โด กากา และ หลุยส์ ฟาเบียโน ที่บาดเจ็บ แต่จัดชุดใหญ่ลงสนามหลายคนทั้ง ลูซิโอ, จิลแบร์โต ซิลวา, โรนัลดินโญ หรือว่า โรบินโญ
เริ่มเกมการแข่งขันแค่สองนาทีเศษแฟนๆ อัซซูรี ในเอมิเรตส์ สเตเดียม เฮเก้อไปตามกันเมื่อ อันเดรีย ปิร์โล ตักบอลจากกลางสนามให้ ฟาบิโอ กรอสโซ เติมขึ้นมาแปด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านมือ จูลิโอ เซซาร์ ซุกก้นตาข่ายทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าแบ็กซ้ายเท้าหนักเสียก่อน แต่ผ่าน 10 นาทีแรกเป็น บราซิล ที่เริ่มครองเกมได้เหนือกว่านำมาสู่ประตูนำ 1-0 ในอีกสามนาทีถัดมา โรนัลดินโญ จ่ายให้ เอลาโน บลูเมอร์ เล่นชิ่งหนึ่งสองกับ โรบินโญ ก่อนหลุดเข้าไปแปบอลผ่านตัว จิอันลุยจิ บุฟฟอน
พอโดนก่อน อิตาลี เป็นฝ่ายเดินเกมบุกเข้าใส่แต่ยังฝ่าแผงรับบราซิเลียนไม่ได้ ถึงนาทีที่ 27 กลายเป็น บราซิล ทิ้งห่าง 2-0 โดย อันเดรีย ปิร์โล ผิดพลาดเสียบอลหน้ากรอบโทษตัวเองโดน โรบินโญ ฉกเข้าไปอาศัยความไวล่อหลอก จิอันลูกา ซามบร็อตตา และ นิโกลา เลกร็อตตาเย ก่อนจิ้มด้วยซ้ายส่งบอลผ่านมือ บุฟฟอน กระแทกเสาสองเข้าประตูไป ครึ่งชั่วโมงผ่านไป “แชมป์โลก” ลุยขึ้นมาบ้าง ดานิเอเล เด รอสซี ลองตะบันไกลจากนอกกรอบร้อนถึง เซซาร์ ต้องปัดพ้นคาน
นาทีที่ 38 บราซิล สวนขึ้นมาและเกือบได้อีกประตูแต่ลูกยิงเต็มข้ออันสุดสวยของ เอลาโน ลอยเฉียดสามเหลี่ยมไปนิดเดียวเท่านั้น ท้ายเกม อิตาลี ขอลุ้นอีกสักครั้งแต่บอลจากไปไม่ถึง อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน หัวหอกตัวความหวัง ต้องเน้นยิงจากแถวสองแต่ เด รอสซี ก็โดนบล็อกเอาไว้อีก จบ 45 นาทีแรก มาร์เชลโล ลิปปี มีการบ้านให้แก้พอสมควรจากรูปเกมที่ค่อนข้างเป็นรองขุนพลแซมบา
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง อิตาลี เปลี่ยนตัวรวดเดียว 4 คนใส่ทั้ง ซิโมเน แปร์ร็อตา, เมาโร คาโมนาเรซี, จูเซ็ปเป รอสซี และ ลูกา โทนี เสริมพลังรุก ซึ่งก็ได้ลุ้นทันทีจากลูกยิงมุมแคบของ รอสซี ที่พุ่งเข้าข้างตาข่าย หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อัซซูรี ต้องปรับแผงกลางส่ง อัลแบร์โต อควิลานี ไปเล่นแทน เด รอสซี เพื่อนร่วมสังกัดโรมาที่มีอาการบาดเจ็บ และทีมก็มีลุ้นอีกครั้ง โทนี พิงบอลได้ในกรอบโทษกะไหลให้ อควิลานี เข้ามายิงเน้นๆ แต่โดนแผงรับ บราซิล สกัดเอาไว้ได้หวุดหวิดที่สุด
นาทีที่ 65 แชมป์โลกส่งลูกหนังเข้ากองในตาข่ายอีกครั้ง ปิร์โล โยนให้ โทนี พักบอลลงก่อนเบียด ลูซิโอ จิ้มผ่าน เซซาร์ เข้าไป ทว่าผู้ตัดสินชาวเมืองผู้ดี ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ เป่าแฮนด์บอลกองหน้าร่างใหญ่เสียก่อน จากนั้น คาร์ลอส ดุงกา ปรับเกมบ้างใส่ ดาเนียล อัลเวส ลุยแทน เอลาโน ที่ดูหมดแรงไป ช่วง 10 นาทีสุดท้าย อิตาลี พลาดโอกาสทำประตูตีไข่แตกอย่างเหลือเชื่อ จิอันลูกา ซามบร็อตตา ทุ่มเร็วให้ รอสซี หลุดเข้าไปเปิดจากเส้นหลังฝั่งขวา โทนี ปรี่เข้ามาแปจ่อๆ 5 หลาแต่ เซซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟสุดยอด
ท้ายเกม “อัซซูรี” ได้โอกาสทิ้งทวน กรอสโซ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลา แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เซซาร์ จนแล้วจนรอดครบ 90 นาที บราซิล ประคองตัวรักษาสกอร์เอาชนะ อิตาลี ไปได้ 2-0 ทำให้กระแสความกดดันจากแฟนลูกหนังบราซิเลียนที่มีต่อ ดุงกา น่าจะน้อยลงไป ขณะที่ ลิปปี หยุดสถิติคุมทีมชาติอิตาลีไม่ปราชัยใครไว้ที่ 31 นัด มากที่สุดร่วมกับ อัลฟิโอ บาซิเล อดีตกุนซือทีมชาติอาร์เจนตินา และ ฮาเบียร์ เคลเมนเต อดีตเทรนเนอร์ “กระทิงดุ” สเปน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน , จิอันลูกา ซามบร็อตตา , ฟาบิโอ คันนาวาโร , นิโกลา เลกร็อตตาเย , ฟาบิโอ กรอสโซ , ดานิเอเล เด รอสซี , อันเดรีย ปิร์โล , ริคคาร์โด มอนโตลิโว , อันโตนิโอ ดิ นาตาเล , อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน , ซิโมเน เปเป
บราซิล : จูลิโอ เซซาร์ , ดักลาส ไมคอน , ฮวน , ลูซิโอ , มาร์เซโล , เฟลิเป เมโล , จิลแบร์โต ซิลวา , เอลาโน บลูเมอร์ , โรนัลดินโญ , อาเดรียโน , โรบินโญ
ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับทีมชาติ
อิตาลี 0-2 บราซิล
มาร์เชลโล ลิปปี นำทัพ “แชมป์โลก” อิตาลี เดินทางมายังมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อลับแข้ง “แซมบา” บราซิล คู่ปรับตลอดกาล และก็มีการปรับทัพให้โอกาสหน้าใหม่ลงเล่นหลายคนไม่ว่าจะเป็น นิโกลา เลกร็อตตาเย, ริคคาร์โด มอนโตลิโว หรือ ซิโมเน เปเป ด้าน คาร์ลอส ดุงกา กุนซือบราซิเลียนไม่สามารถใช้งาน ริคาร์โด กากา และ หลุยส์ ฟาเบียโน ที่บาดเจ็บ แต่จัดชุดใหญ่ลงสนามหลายคนทั้ง ลูซิโอ, จิลแบร์โต ซิลวา, โรนัลดินโญ หรือว่า โรบินโญ
เริ่มเกมการแข่งขันแค่สองนาทีเศษแฟนๆ อัซซูรี ในเอมิเรตส์ สเตเดียม เฮเก้อไปตามกันเมื่อ อันเดรีย ปิร์โล ตักบอลจากกลางสนามให้ ฟาบิโอ กรอสโซ เติมขึ้นมาแปด้วยซ้ายส่งลูกหนังผ่านมือ จูลิโอ เซซาร์ ซุกก้นตาข่ายทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าแบ็กซ้ายเท้าหนักเสียก่อน แต่ผ่าน 10 นาทีแรกเป็น บราซิล ที่เริ่มครองเกมได้เหนือกว่านำมาสู่ประตูนำ 1-0 ในอีกสามนาทีถัดมา โรนัลดินโญ จ่ายให้ เอลาโน บลูเมอร์ เล่นชิ่งหนึ่งสองกับ โรบินโญ ก่อนหลุดเข้าไปแปบอลผ่านตัว จิอันลุยจิ บุฟฟอน
พอโดนก่อน อิตาลี เป็นฝ่ายเดินเกมบุกเข้าใส่แต่ยังฝ่าแผงรับบราซิเลียนไม่ได้ ถึงนาทีที่ 27 กลายเป็น บราซิล ทิ้งห่าง 2-0 โดย อันเดรีย ปิร์โล ผิดพลาดเสียบอลหน้ากรอบโทษตัวเองโดน โรบินโญ ฉกเข้าไปอาศัยความไวล่อหลอก จิอันลูกา ซามบร็อตตา และ นิโกลา เลกร็อตตาเย ก่อนจิ้มด้วยซ้ายส่งบอลผ่านมือ บุฟฟอน กระแทกเสาสองเข้าประตูไป ครึ่งชั่วโมงผ่านไป “แชมป์โลก” ลุยขึ้นมาบ้าง ดานิเอเล เด รอสซี ลองตะบันไกลจากนอกกรอบร้อนถึง เซซาร์ ต้องปัดพ้นคาน
นาทีที่ 38 บราซิล สวนขึ้นมาและเกือบได้อีกประตูแต่ลูกยิงเต็มข้ออันสุดสวยของ เอลาโน ลอยเฉียดสามเหลี่ยมไปนิดเดียวเท่านั้น ท้ายเกม อิตาลี ขอลุ้นอีกสักครั้งแต่บอลจากไปไม่ถึง อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน หัวหอกตัวความหวัง ต้องเน้นยิงจากแถวสองแต่ เด รอสซี ก็โดนบล็อกเอาไว้อีก จบ 45 นาทีแรก มาร์เชลโล ลิปปี มีการบ้านให้แก้พอสมควรจากรูปเกมที่ค่อนข้างเป็นรองขุนพลแซมบา
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง อิตาลี เปลี่ยนตัวรวดเดียว 4 คนใส่ทั้ง ซิโมเน แปร์ร็อตา, เมาโร คาโมนาเรซี, จูเซ็ปเป รอสซี และ ลูกา โทนี เสริมพลังรุก ซึ่งก็ได้ลุ้นทันทีจากลูกยิงมุมแคบของ รอสซี ที่พุ่งเข้าข้างตาข่าย หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อัซซูรี ต้องปรับแผงกลางส่ง อัลแบร์โต อควิลานี ไปเล่นแทน เด รอสซี เพื่อนร่วมสังกัดโรมาที่มีอาการบาดเจ็บ และทีมก็มีลุ้นอีกครั้ง โทนี พิงบอลได้ในกรอบโทษกะไหลให้ อควิลานี เข้ามายิงเน้นๆ แต่โดนแผงรับ บราซิล สกัดเอาไว้ได้หวุดหวิดที่สุด
นาทีที่ 65 แชมป์โลกส่งลูกหนังเข้ากองในตาข่ายอีกครั้ง ปิร์โล โยนให้ โทนี พักบอลลงก่อนเบียด ลูซิโอ จิ้มผ่าน เซซาร์ เข้าไป ทว่าผู้ตัดสินชาวเมืองผู้ดี ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ เป่าแฮนด์บอลกองหน้าร่างใหญ่เสียก่อน จากนั้น คาร์ลอส ดุงกา ปรับเกมบ้างใส่ ดาเนียล อัลเวส ลุยแทน เอลาโน ที่ดูหมดแรงไป ช่วง 10 นาทีสุดท้าย อิตาลี พลาดโอกาสทำประตูตีไข่แตกอย่างเหลือเชื่อ จิอันลูกา ซามบร็อตตา ทุ่มเร็วให้ รอสซี หลุดเข้าไปเปิดจากเส้นหลังฝั่งขวา โทนี ปรี่เข้ามาแปจ่อๆ 5 หลาแต่ เซซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟสุดยอด
ท้ายเกม “อัซซูรี” ได้โอกาสทิ้งทวน กรอสโซ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลา แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เซซาร์ จนแล้วจนรอดครบ 90 นาที บราซิล ประคองตัวรักษาสกอร์เอาชนะ อิตาลี ไปได้ 2-0 ทำให้กระแสความกดดันจากแฟนลูกหนังบราซิเลียนที่มีต่อ ดุงกา น่าจะน้อยลงไป ขณะที่ ลิปปี หยุดสถิติคุมทีมชาติอิตาลีไม่ปราชัยใครไว้ที่ 31 นัด มากที่สุดร่วมกับ อัลฟิโอ บาซิเล อดีตกุนซือทีมชาติอาร์เจนตินา และ ฮาเบียร์ เคลเมนเต อดีตเทรนเนอร์ “กระทิงดุ” สเปน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน , จิอันลูกา ซามบร็อตตา , ฟาบิโอ คันนาวาโร , นิโกลา เลกร็อตตาเย , ฟาบิโอ กรอสโซ , ดานิเอเล เด รอสซี , อันเดรีย ปิร์โล , ริคคาร์โด มอนโตลิโว , อันโตนิโอ ดิ นาตาเล , อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน , ซิโมเน เปเป
บราซิล : จูลิโอ เซซาร์ , ดักลาส ไมคอน , ฮวน , ลูซิโอ , มาร์เซโล , เฟลิเป เมโล , จิลแบร์โต ซิลวา , เอลาโน บลูเมอร์ , โรนัลดินโญ , อาเดรียโน , โรบินโญ
