“เฟดเอ็กซ์-เบอร์ดิช” รุมจวก “ฮอล์กอาย” สุดห่วย

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลกชาวสวิส และ โทมัส เบอร์ดิช มือ 20 ของรายการจากเช็กออกมาให้สัมภาษณ์อย่างหัวเสีย หลังพบว่าเทคโนโลยีกำกับเส้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม “ฮอล์กอาย” (The Hawk-Eye line-call system) มีปัญหาไม่สามารถทำงานได้ใต้เงาแดด

เทคโนโลยี “ฮอล์กอาย” ซึ่งถูกนำมาใช้กับวงการเทนนิสตั้งแต่ปี 2006 เกิดปัญหาโต้เถียงอย่างรุนเเรงเป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง เซตที่ 4 ของแมตช์รอบ 16 คนสุดท้ายระหว่าง เฟเดอเรอร์ กับ เบอร์ดิช

โดยตอนนั้น เบอร์ดิช ขอชาลเลนจ์ดูภาพจากฮอล์กอายตามสิทธิที่ดูได้เซตละ 2 ครั้ง หลังยิงโฟร์แฮนด์เบียดเส้น และถูกผู้กำกับเส้นขาน “ออก”

ทว่า เทคโนโลยีฮอล์กอาย กลับขัดข้องไม่สามารถทำงานใต้เงาแดดในพื้นสนาม รอด เลเวอร์ อารีนา ได้ เดือดร้อนถึง เอ็มมานูเอล โจเซฟ ผู้ตัดสินเลยต้องยืนผลคำตัดสินเดิม คือ ให้บอล “ออก” ทำเอา เบอร์ดิช วัย 23 ปี หัวเสียเป็นการใหญ่

“ถ้าเทคโนโลยีใหม่ๆ มันไม่มีประสิทธิภาพพอแล้วจะนำมาใช้ทำไม?” เบอร์ดิช ซึ่งแพ้แมตช์นี้ไป 2-3 เซต ทั้งที่ได้ 2 เซตแรกไปก่อนอารมณ์เดือดสุดขีด “ถ้าเราเสมอกัน 9-9 เกมในเซตที่ 5 แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจะทำอย่างไร มันมีผลต่อการเข้ารอบตกรอบเลยนะ”

“มีฮอล์กอาย แต่ใช้ไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการมีผู้ตัดสินนั่งจิบกาแฟ และผู้กำกับเส้นนั่งหลับ” อดีตมือ 9 ของโลกฉุนขาด

ด้าน เฟเดอเรอร์ ที่ต่อต้านระบบฮอล์กอายมาตลอดออกมา กล่าวว่า “เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเกม ถ้าระบบบกพร่องก็ไม่ควรนำมาใช้ คนที่เสียประโยชน์คงไม่สนุกแน่ๆ”

ทั้งนี้ “ฮอล์กอาย” อาศัยภาพถ่ายมุมต่างๆ มาประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อพิสูจน์รอยลูกตก และถูกใช้ในแกรนด์สแลม 3 ใน 4 รายการมาตั้งแต่ปี 2007 ยกเว้นเพียง เฟรนช์ โอเพน เท่านั้น ที่ไม่นำมาใช้ เนื่องจากสามารถพิสูจน์รอยลูกตกได้บนพื้นคอร์ตดินอยู่แล้ว